'เมทเธียร์' บริหารคนต่างเจน ชูหลักคิด 'Empathy & Honesty'

'เมทเธียร์' บริหารคนต่างเจน ชูหลักคิด 'Empathy & Honesty'

'เมทเธียร์' บริหารคนที่มีช่วงอายุที่แตกต่างกัน เข้าใจธรรมชาติ ความต้องการของแต่ละเจเนอเรชั่น ด้วยหลัก Empathy การเข้าอกเข้าใจ และ Honesty ความจริงใจ พัฒนาศักยภาพคนทำงาน ตอบโจทย์องค์กรยั่งยืน

KEY

POINTS

  • "เมทเธียร์" ดิสรัปธุรกิจ Facility Management สู่ Smart Facility Management นำ “เทคโนโลยี” เข้ามาทำงานร่วมกับ “คน”
  • การบริหารคนที่มีช่วงอายุที่แตกต่างกัน ต้องเข้าใจธรรมชาติ ความต้องการของแต่ละเจเนอเรชั่น ด้วยหลัก Empathy การเข้าอกเข้าใจ และ Honesty ความจริงใจ
  • ขณะเดียวกัน ต้องพัฒนาศักยภาพคนทำงาน ตอบโจทย์องค์กรยั่งยืน CEO ขององค์กร ต้องสื่อสารสิ่งที่คิด ไปถึงพนักงานทุกคนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่าง SKY Group ประกาศเข้าซื้อกิจการ บริษัท รักษาความปลอดภัยและบริหารธุรการ สยาม จำกัด (รักข์สยาม) หรือ SAMCO พร้อมกับตั้งบริษัทในเครืออย่าง บริษัท เมทเธียร์ จำกัด หรือ “Metthier” นับเป็นการดิสรัปธุรกิจ Facility Management สู่ Smart Facility Management โดยนำ “เทคโนโลยี” เข้ามาทำงานร่วมกับ “คน”

 

หลายปีที่ผ่านมา เรามักได้ยินคำว่า เทคโนโลยีดิสรัปชั่น ที่คนจะถูกทดแทนและลดบทบาทลง แต่ “เมทเธียร์” ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้เทคโนโลยี ทำงานร่วมกับคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปัจจุบัน พนักงานทั้งหมดกว่า 6,000 คน แบ่งเป็น ทางฝั่งที่อยู่มายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งมีพนักงานแบ็กออฟฟิศกว่า 300 คน รวมถึง แม่บ้าน ช่าง พนักงานรักษาความปลอดภัย ฯลฯ มากกว่า 5,000 คน 

 

ขณะที่ฝั่ง เมทเธียร์ ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาคารสถานที่ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เต็มไปด้วยเด็กรุ่นใหม่ เจน Y และ เจน Z ราว 100 คน และคาดว่าจะขยายจำนวนพนักงานทั้งหมดไปถึง 10,000 คนในปีนี้

 

“เรากำลังบริหารคนที่มีความแตกต่างกัน โลกของเมทเธียร์จะวิ่งไปด้วยความเร็วมากๆ ซึ่งอายุเฉลี่ย 24 ปี และ อีกฝั่ง คือ SKY ที่มีความนิ่งมากกว่า อายุเฉลี่ย 47 ปี” “ขยล ตันติชาติวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) เล่าให้ “กรุงเทพธุรกิจ” ฟังถึงการบริหารคนที่มีช่วงอายุที่แตกต่างกัน ซึ่งจำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติ ความต้องการของแต่ละเจเนอเรชั่น

 

\'เมทเธียร์\' บริหารคนต่างเจน ชูหลักคิด \'Empathy & Honesty\'

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

บริหารด้วยความเข้าใจ-จริงใจ

สิ่งสำคัญ คือ การเข้าใจคนต่างเจเนอเรชั่น เริ่มตั้งแต่กระบวนการสัมภาษณ์ “ขยล” เล่าต่อว่า เราต้องการเข้าใจน้องๆ ทุกคน ว่าจุดมุ่งหมายในชีวิตเขาคืออะไร ต้องคุยว่า Passion ของเขาคืออะไร เพราะ Passion สำหรับเด็กรุ่นใหม่ก็มีความสำคัญ

 

“การบริหารทั้งฝั่ง SKY และ เมทเธียร์ ไม่ต่างกัน คือ บริหารด้วยหลัก Empathy การเข้าอกเข้าใจ และสิ่งที่มาคู่กัน คือ Honesty ความจริงใจ แค่สองคำนี้ก็ถือว่าครอบคลุม พอเราเข้าใจเขา พูดคุยกับเขาอย่างจริงใจ พนักงานจะรับรู้ได้ คนทุกเจเนอเรชั่นจะรับรู้ได้ และเราจะบริหารได้”

 

สำหรับ Baby Boomer คือ คนที่กำลังจะสูงวัย เกษียณ ทำงานกันเกือบ 30 ปี เป็น Silent Generation ไม่ค่อยพูด ทำงาน บริหาร และมองหาการใช้ชีวิต เตรียมเกษียณ ขณะที่ เจน X ได้ประสบการณ์การทำงานจาก Baby Boomer และมีโอกาสทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ที่เป็นเจน Y ทำให้คนกลุ่มนี้มี Communication Skills หรือ ทักษะในการสื่อสารที่ดีที่สุด มีความ Innovation สูงที่จะต่อยอดในการขับเคลื่อนองค์กร มีประสบการณ์ สามารถสร้างบริการใหม่ๆ ได้ เป็นเจเนอเรชั่น ที่จะสร้างเป็นผู้บริหาร และสื่อสารไปยังเจน Y และ เจน Z

 

ส่วนคน เจน Y และ เจน Z ข้อดี คือ เป็นเจนที่รู้เทคโนโลยีมาก เป็น Digital Generation เราต้องบริหารงานด้วยการฟังเยอะๆ ผู้บริหารฟังไอเดีย เรียนรู้วิธีการทำงานด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเขา

 

\'เมทเธียร์\' บริหารคนต่างเจน ชูหลักคิด \'Empathy & Honesty\'

 

Empower ในเวลาที่เหมาะสม

ขยล กล่าวต่อไปว่า สำหรับเมทเธียร์ ซึ่งมีคนรุ่นใหม่อยู่ที่เจน Y กว่า 80 % ต้อง Empower ในเวลาที่เหมาะสม คัดเลือกคนที่ใช่ แล้วค่อย Empower ไปตาม Career Path เจน Y ต้องการแสดงออกทางความคิด ให้คนรับฟัง เราต้องรับฟังเขา ฟังไอเดียใหม่ๆ และเป็นโค้ช เปิดโอกาสทางความคิดให้เขาแสดงออก เอาไอเดียมาจากเขาเยอะๆ เก็บเกี่ยวไอเดียใหม่ๆ จากเจน Y เจน Z เพราะเขาเห็นโลกที่ผมไม่เห็น ต้องให้เวลารับฟังความคิดเห็นใหม่ๆ โอกาสใหม่ๆ รวมถึงการสร้างบรรยากาศให้เขารู้สึกสนุกในการทำงาน มีความสุข ไม่เครียด ต้องโค้ช และไกด์เขาได้

 

อัปสกิล คนทำงาน

สำหรับ เมทเธียร์ ซึ่งให้บริการครอบคลุมทั้งแม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ช่าง และนำเทคโนโลยีเข้ามาจับเป็นรายแรกของไทย เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาด 24 ชั่วโมง ระบบ AI CCTV ตัวช่วยดูแลความปลอดภัยในจุดที่ไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัย ระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ ระบบสแกนใบหน้าเข้าอาคาร และระบบสแกนป้ายทะเบียนสำหรับลานจอดรถ

 

ให้บริการลูกค้า 5 กลุ่ม คือ 1.ภาครัฐ เช่น ศูนย์ราชการ 2. Mixed-use ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม 3. โรงพยาบาล ที่ต้องการการดูแลความสะอาดที่แตกต่าง 4. โรงงานอุตสาหกรรม ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และ 5. สถานศึกษา ดังนั้น ส่งที่สำคัญ คือ การพัฒนาคนให้เดินไปพร้อมความต้องการลูกค้าและเทคโนโลยี

 

\'เมทเธียร์\' บริหารคนต่างเจน ชูหลักคิด \'Empathy & Honesty\'

 

ขยล อธิบายว่า เรามีทีม People Development ดีไซน์หลักสูตรกลาง อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถดีไซน์หลักสูตรกลางให้ครอบคลุมได้ จึงมีการตั้งงบประมาณสำหรับเทรนนิ่งให้กับพนักงานทุกคนในทีมของเมทเธียร์ทั้งหมด 10,000 บาทต่อคนต่อปี เพื่อเสริมศักยภาพในการทำงาน ตามความสนใจ

 

ขณะเดียวกัน สำนักงานวังทองหลางพื้นที่ 20 กว่าไร่ ยังมีตึกเทรนนิ่งทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน ทีมช่าง ที่จะเรียกกลับมารีสกิลสม่ำเสมอ รวมถึงมีศูนย์ Robotic ทดสอบหุ่นยนต์ทำความสะอาด และหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย อีกทั้ง ยังจ้างเป็นพนักงานประจำเมื่อผ่านเกณฑ์ที่กำหนด มีระบบสหกรณ์ และให้ทุนการศึกษากับลูกหลานพนักงานกว่า 150 คน

 

สร้างคน สร้างความยั่งยืน

ทุกวันนี้ แต่ละบริษัทมักพูดถึงการทำธุรกิจให้ยั่งยืน “ขยล” มองว่า การสร้างคน ทำให้ธุรกิจยั่งยืนได้ เพราะไม่ใช่แค่ทำงาน แต่ต้องกลับมาเทรนด์ใหม่ตามหลักสูตรที่มากขึ้น และมีการรีสกิล ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา พบว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งได้รับรางวัล Zero Waste และพนักงานของเราก็มีส่วนร่วม สิ่งที่ทำ คือ ส่งคนไปถอดหลักสูตร และดึงคนจากไซต์อื่นๆ มาเทรนเพื่อขยายผลให้ลูกค้ารายอื่นๆ เดินหน้าสู่ความยั่งยืนและตอบโจทย์ ESG มาตรฐานสากล

 

“สิ่งที่เราพัฒนาคน ไม่ใช่อยู่บนโลกใบเดิม ทำความสะอาดแบบเดิม แต่อนาคตต้อง ESG อนาคตต้อง Net Zero ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่กลายเป็นเทรนนิ่งคนให้มีศักยภาพมากขึ้นในการทำงานเพื่อรองรับอนาคตที่จะมาข้างหน้า”

 

\'เมทเธียร์\' บริหารคนต่างเจน ชูหลักคิด \'Empathy & Honesty\'

 

ท้ายนี้ “ขยล” กล่าวว่า Vision ของเมทเธียร์ คือ การเปลี่ยนแปลงสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระดับประเทศ แต่การจะเปลี่ยนแปลงแบบนั้นได้เราต้องไม่คิดแค่ตัวเอง แต่ต้องคิดว่าสิ่งที่เราทำมันมีคุณค่า มีความหมายต่อสังคมก่อนเป็นที่ตั้ง และอยากจะให้คนในทีมทุกคนคิดแบบนั้น

 

“แน่นอนว่าค่าตอบแทนเราให้ตอบโจทย์ระดับหนึ่ง แต่หากยังมีงานที่สร้างคุณค่าให้กับเขา หากองค์กรยังมีความหมายเพื่อประโยชน์ของสังคมอยู่ เขาก็จะมีจุดยืนแบบเดียวกัน และสุดท้าย สิ่งสำคัญ คือ การสื่อสารไปถึงพนักงาน หากผู้บริหารคิดและมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ดี ในฐานะ CEO ขององค์กร คือ การที่คุณต้องสื่อสารสิ่งเหล่านั้นให้ไปถึงพนักงานทุกคนอย่างต่อเนื่อง ครั้งเดียวไม่ได้ ต้องสื่อสารไปเรื่อยๆ เป็นสิ่งสำคัญกว่าการแค่คิดว่าจะบริหารงานอย่างไร”

 

\'เมทเธียร์\' บริหารคนต่างเจน ชูหลักคิด \'Empathy & Honesty\'