'เจฟฟ์ เบซอส' ชอบ Work Life Hamony แต่ลูกจ้าง Amazon บอกงานหนักจนไม่ได้พัก
“ทำงานผสานชีวิตส่วนตัว” VS “ทำงานตลอดเวลาไม่พัก” อาจมีเส้นบางๆ คั่นอยู่ ‘เจฟฟ์ เบซอส’ ผู้ก่อตั้ง Amazon ชูแนวคิด “Work-Life Harmony” ชีวิตส่วนตัวและงานผสานกันหนึ่งเดียว แต่ลูกจ้าง Amazon เผย ชั่วโมงทำงานของบริษัทนี้ยาวนานเกินไป
Key Points:
- ‘เจฟฟ์ เบซอส’ ผู้ก่อตั้ง Amazon ไม่เชื่อในแนวคิด Work Life Balance เพราะเขามองว่าชีวิตส่วนตัวและการทำงานต้องผสานกันให้กลมกลืน หรือที่เรียกว่า Work-Life Harmony
- ขณะที่เมื่อต้นปี 2023 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ลูกจ้าง Amazon สาขาอังกฤษ ออกมาหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องเรื่องชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และแทบไม่ได้พัก
- อย่างไรก็ตาม “Work Life Balance” และ “Work-Life Harmony” ต่างก็เป็นแนวคิดที่ดีทั้งคู่ คนทำงานแต่ละอาชีพต้องปรับใช้ให้เหมาะกับชีวิตและการทำงานของตนเอง
การจัดการ “สมดุลชีวิตส่วนตัวกับการทำงาน” (Work Life Balance) ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ประเด็นดังกล่าวถูกจุดกระแสขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อชาวโซเชียลถกเถียงกันถึงกรณี ‘เจฟฟ์ เบซอส’ ผู้ก่อตั้ง Amazon แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลก ผู้ซึ่งคัดค้านแนวคิด Work Life Balance มาแต่ไหนแต่ไร เพราะเขามองว่าคนเราควรทำงานและใช้ชีวิตแบบ Work-Life Harmony มากกว่า ในขณะที่พนักงานคลังสินค้าของ Amazon เผยว่าพวกเขามีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานเกินไป บางครั้งทำงานตลอดเวลาแบบไม่มีพัก
- ลูกจ้างอาจไม่อินกับ "Work-Life Harmony" บางคนทำงานหนักจนไม่ได้พัก
เมื่อต้นปี 2023 ที่ผ่านมา สำนักข่าว CNBC รายงานว่า พนักงานคลังสินค้าของบริษัท Amazon ในประเทศอังกฤษหลายร้อยคน ได้ออกมาหยุดงานประท้วง 24 ชั่วโมง เพราะพวกเขาทำงานหนักเกินไปจนไม่ได้หยุดพัก และเรียกร้องให้บริษัทปรับปรุง “สภาพการทำงานให้ดีขึ้น”
เนื่องจากพวกเขาต้องทนกับชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน อัตราการบาดเจ็บสูง การทำงานที่ไม่หยุดยั้ง ไม่ได้พัก รวมถึงการเฝ้าติดตามพนักงานผ่านการใช้เทคโนโลยี AI จนทำให้พนักงานเครียดและวิตกกังวล โดยพนักงานในอังกฤษบางคนถึงขั้นบอกว่า “พวกเราถูกปฏิบัติเหมือนหุ่นยนต์ ไม่สิ หุ่นยนต์ยังได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าพวกเราเสียอีก”
ขณะที่ก่อนหน้านั้นในช่วงปี 2020-2021 ก็เคยมีกรณีพนักงานคลังสินค้าของ Amazon ในสหรัฐ พูดถึงสภาพการทำงานอันหนักหน่วงมาแล้วเช่นกัน หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ต้องทำงานหนักมาก บางครั้งไม่มีเวลาไปห้องน้ำด้วยซ้ำ”
ที่ผ่านมา Amazon ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานแล้วเกี่ยวกับข้อบกพร่องด้านแรงงาน โดยพนักงานแผนกคลังสินค้าและการจัดส่ง มักออกมาเปิดเผยว่า การทำงานในโกดังสินค้าของ Amazon นั้นไม่ปลอดภัย มีสภาพการทำงานที่ไม่ดี ตลอดจนมีความพยายามอย่างมากในการห้ามพนักงานไม่ให้เข้าร่วมสหภาพแรงงาน
- Work Life Balance ต่างจาก Work-Life Harmony อย่างไร?
ปรากฏการณ์ดังกล่าวนำมาซึ่งคำถามว่า ระหว่างแนวคิด “Work Life Balance” กับวิธีคิดแบบ “Work-Life Harmony” ที่ เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ยกย่องนั้น แบบไหนเหมาะกับชีวิตและการทำงานมากกว่ากัน แต่ก่อนจะหาคำตอบ ลองมาทบทวนกันอีกครั้งว่า แนวคิด 2 รูปแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร
1. Work Life Balance : ชีวิตที่แบ่งเวลางานออกจากเวลาส่วนตัว เพื่อให้ร่างกายและจิตใจพักผ่อนได้เต็มที่
แนวคิดความสมดุลในชีวิตและการทำงาน เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยเป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างภาระผูกพันส่วนบุคคล (personal life) กับหน้าที่การงาน (work) รวมถึงผลกระทบต่อกันและกัน โดยมุ่งสร้างความสมดุลระหว่างเวลาชีวิตส่วนตัวและเวลาทำงาน เพื่อลดความขัดแย้งของบุคคลต่อชีวิตส่วนตัว ครอบครัว และสิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน
กลุ่มคนที่เชื่อใน Work Life Balance มองว่าความสมดุลของชีวิตและการทำงานเป็นสิ่งจำเป็น แต่มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามจังหวะชีวิต ขึ้นอยู่กับความพอใจในการจัดสรรเวลางานกับเวลาส่วนตัว การกำหนดสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานของแต่ละคนมีเส้นแบ่งไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องให้เวลาแต่ละด้านเท่ากัน แต่มันคือความสามารถในการจัดสรรเวลาให้เกิดความพึงพอใจ
หากชีวิตส่วนตัวและเวลาไม่สมดุลกัน ผลที่ตามมาคือปัญหาสุขภาพอย่างมากมาย เช่น ความเครียดทางจิตใจ ซึมเศร้า ทำงานไม่มีประสิทธิผล เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว เหนื่อยล้าสะสม ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายอีกด้วย
2. Work-Life Harmony : ชีวิตที่ผสานกันเป็นวงกลม เวลางานและเวลาส่วนตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้เกิดการทำงานในรูปแบบ Work From Home ซึ่งทำให้พื้นที่ของชีวิตและการงานอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เรื่องงานกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวจึงแยกออกจากกันไม่ได้ คนทำงานบางกลุ่มจึงมองว่าแนวคิด Work-life Balance อาจใช้ไม่ได้จริง
เจฟฟ์ เบซอส นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเป็นมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยติดอันดับ 6 ของโลก ได้เปิดเผยว่า เขาเชื่อในแนวคิด “Work-Life Harmony” มากกว่า โดยมองว่าการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว ควรผสานกันเป็นหนึ่งเดียวในลักษณะวงกลม
Work-Life Harmony คือ ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวจะดำเนินไปอย่างสอดประสานกัน มีผลต่อกันและกัน โดยไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ เมื่อคนคนหนึ่งสามารถมีความสุขในการทำงานทุกวัน เขาก็จะกลับบ้านอย่างมีความสุข ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และยิ่งเขามีความสุขมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีเยี่ยมขึ้นมากเท่านั้น “มันคือชีวิตที่ประสานกันเป็นวงกลม ไม่ใช่ความหมายของการสร้างสมดุล”
อย่างไรก็ตาม การจัดการชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้ลงตัวนั้น แต่ละคนย่อมมีปัจจัย-เงื่อนไขชีวิต-ลักษณะงาน ที่แตกต่างกันออกไป คงไม่สามารถเอาวิธีใดวิธีหนึ่งไปจัดการชีวิตและงานของคนทุกอาชีพได้ สุดท้ายแล้วคงต้องเป็นการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับชีวิตการทำงานของใครของมัน โดยที่ไม่ตัดสินวิธีคิดและวิธีการใช้ชีวิตของคนอื่นน่าจะดีที่สุด
-------------------------------------------
อ้างอิง : CNBC, Businessinsider, More Perfect Union