‘เพ ลา เพลิน’ พื้นที่เรียนรู้ ในวันที่มากกว่า 'Wellness Tourism'
"เพ ลา เพลิน“ บูติค รีสอร์ทแอนด์ แอดเวนเจอร์แคมป์ ภายใต้การดูแลของคนรุ่นใหม่ ”ประณัย สายชมภู" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด พื้นที่กว่า 400 ไร่ จ.บุรีรัมย์ เป็นทั้งสถานที่จัดแคมป์ปิ้ง และ AROKAYA Wellness Sala ศูนย์สุขภาพแบบองค์รวม
KEY
POINTS
- บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด จากธุรกิจการศึกษา พัฒนาสู่ที่พัก แคมป์ปิ้ง อุทยานดอกไม้เมืองหนาว และ Wellness Tourism หรือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
- บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ อ.คูเมือง ห่างจากตัวเมือง บุรีรัมย์ 30 กิโลเมตร มีทั้งโซนที่พัก โซนจัดแคมป์ปิ้งสำหรับนักเรียนนักศึกษา และ AROKAYA Wellness Sala (เอกายาสหคลินิก) ศูนย์สุขภาพแบบองค์รวม
- "เพ ลา เพลิน" เรียกว่าตอบโจทย์เทรนด์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมกับการเชื่อมโยงอารยธรรมอีสานใต้ที่มีอย่างยาวนานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
จากธุรกิจการศึกษา ค่อยๆพัฒนามาเป็น ที่พัก และแคมป์ปิ้ง อุทยานดอกไม้เมืองหนาว สู่ Wellness Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ วันนี้ “อุทยานการเรียนรู้เพลาเพลิน” ภายใต้การดูแลของคนรุ่นใหม่ ประณัย สายชมภู กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด ที่หลอมรวม คน 2 เจนต่างวัยให้อยู่ร่วมกันอย่างลงตัวทำให้รายได้ ปี 2566 จึงโตกว่าปี 2565 ถึง 20%
พื้นที่กว่า 400 ไร่ อ.คูเมือง ห่างจากตัวเมือง บุรีรัมย์ 30 กิโลเมตร มีห้องพัก 73 ห้อง มีทั้งโซนที่พัก โซนจัดแคมป์ปิ้งสำหรับนักเรียนนักศึกษา และ AROKAYA Wellness Sala (เอกายาสหคลินิก) ศูนย์สุขภาพแบบองค์รวม โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งศาสตร์แผนไทย จีน ปัจจุบัน และคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โดยทั้งหมดถูกบูรณาการรวมกันเพื่อพัฒนาสู่ Wellness Tourism ควบคู่ไปกับการยกระดับพืชและสมุนไพรไทยสู่สากล ให้บริการกับผู้ที่มาพัก และประชาชนในพื้นที่
“เดิมเราทำธุรกิจร่วมกับสถานศึกษาและภาคการศึกษา จะมีกิจกรรมให้เด็กมาเข้าค่าย เพราะมีพื้นที่ทำแคมป์ปิ้ง หลากหลาย ทั้งค่ายเกี่ยวกับอิงลิชโปรแกรม หมวดการเรียนรู้นอกห้องเรียน และอื่นๆ ต่อมาก็พัฒนาเป็นพื้นที่ศึกษาดูงานที่เชื่อมโยงกับ Wellness Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ผ่านมามีทั้งภาครัฐ เอกชน และนักศึกษามาดูงานจำนวนมาก โดยเป็นคนไทย 70% แบ่งเป็นเยาวชน 30% หน่วยงานราชการ และนักท่องเที่ยวทั่วไปในสัดส่วนเท่ากันคือ 20% ที่เหลือ 30% เป็นนักท่องเที่ยวจากเวียดนาม จีน ลาว และกัมพูชา และทางบุรีรัมย์กำลังจะเปิดเป็นสนามบินนานาชาติ อนาคต เราก็มีการเตรียมพร้อมรองรับชาติอื่นๆ ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ธุรกิจWellnessไทยเติบโต อันดับ 15 ของโลก ปั้นแบรนด์ “เวลเนสอัตลักษณ์ไทย”
- ไทยครัวโลก Soft Power แต่กำลังเจอปัญหา 'ความมั่นคงทางอาหาร'
- แพทย์แผนไทย X Soft Power ผลักดัน 'นวด-อาหาร-สมุนไพร ท็อป 3 เอเชีย
เป้าหมายของ “ประณัย” ในฐานะผู้บริหารมือใหม่วัย 30 ปีดูแล “เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด” มาแล้ว 7 ปี อยากหลอมรวมคนรุ่นใหม่ที่มีอยู่ 40% กับคนรุ่นเก่า 60% ให้เป็นหนึ่งด้วยการทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นมากกว่าสถานที่รองรับ Wellness Tourism เ่ท่านั้น แต่ต้องเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนทุกช่วงวัยและต่อยอดสร้างอาชีพให้กับวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่และชาวบ้านในพื้นที่ด้วย
ด้วยการทำให้ “อโรคยา เวลเนส ศาลา” (Arokaya Wellness Sala) เป็นศูนย์การเรียนรู้และต่อยอดการพัฒนาพืชสมุนไพร จับมือกับวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพร เพ ลา เพลิน เพื่อชุมชน จ.บุรีรัมย์ ปลูกกัญชงระบบปิด เกรดทางการแพทย์ ส่งให้โรงพยาบาลคูเมือง และองค์การเภสัชกรรม และ กะเม็ง วัชพืชที่มีสารสำคัญช่วยเรื่องแผลกดทับ ส่งรพ.คูเมือง
ขณะเดียวกัน ก็ปลูกพืชสมุนไพร อีกหลายชนิดส่งโรงงานสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็น ขมิ้นชัน ตะไคร้ รวมถึงพืช ผัก ผลไม้ต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้ในโรงแรมและห้องอาหารของเรา ที่ปลอดภัยจากสารเคมี และร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ช่วยเรื่องการรักษา และซัปพลีเมนต์ภายใต้แบรนด์ “AKAYA (เอกายา)” ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและเครื่องสำอาง ทั้งเซรั่ม ครีมบำรุง น้ำมันนวด ที่สามารถขายได้ทั่วไป และตลาดให้การตอบรับเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาพืชสมุนไพรให้เป็นพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจะต้องประกอบกัน 3 ส่วนทั้งเรื่องต้นน้ำ ซึ่งสมุนไพรที่ปลูกต้องได้คุณภาพตั้งแต่การปลูก ไม่มีสารเจือปน และได้มาตรฐานทางการแพทย์ และสามารถนำไปแปรรูปพัฒนาเป็นเครื่องสำอางต่อไป ส่วน กลางน้ำ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ และปลายน้ำ การนำไปจำหน่าย ซึ่ง ที่เพ ลา เพลิน ทำทั้ง 3 ส่วนโดยปลายน้ำจะเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งทำให้ยอดรายได้รวมปี 2566 เพิ่มขึ้น 20 % จากปี 65
“เทรนด์การท่องเที่ยวมาทาง Wellness ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจะต้องพัฒนารูปแบบการให้บริการตอบโจทย์ลูกค้าที่ก้าวเข้ายัง เพ ลา เพลิน ที่จะได้ทั้งการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่เชื่อมโยงอารยธรรมอีสานใต้ที่มีอย่างยาวนาน โดยเฉพาะบุรีรัมย์ เป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญสมัยอารยธรรมขอมอย่างพนมรุ้ง และเมืองต่ำ แม้ว่าจะห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร และพื้นที่อำเภอคูเมืองก็ยังมี เพ ลา เพลินที่จะเป็นจุดที่รวมศูนย์อารยธรรมต่างให้ผู้คนได้มาศึกษาเรียนรู้ได้ที่ อโรคยา เวลเนส ศาลา” (Arokaya Wellness Sala)”
‘อโรคยา เวลเนส ศาลา’ ศูนย์รวมศาสตร์การแพทย์
ย้อนอดีตไปในพุทธศตวรรษที่ 16 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอม ได้จารึกไว้ว่า “โรคทางร่างกายของประชาชนนี้เป็นโรคทางใจที่เจ็บปวดยิ่ง....” พระองค์จึงมีพระราชดำริให้มี “อโรคยาศาล” ขึ้นมา เพื่อบรรเทาทุกข์ราษฎร ที่เป็นเสมือนทุกข์ของเจ้าเมืองด้วยเช่นกัน
จากตำนานอารยธรรมอีสานใต้ ที่มีการใช้สมุนไพรมาปรุงยา เพื่อบรรเทารักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เชื่อมโยงมาสู่ปัจจุบัน ตำนานการรักษาของ “อโรคยาศาล” มาสู่ “อโรคยา เวลเนส ศาลา” ศูนย์สุขภาพองค์รวม AROKAYA Wellness Sala ที่มีหลักการว่า “ป้องกันก่อนรักษา” ด้วยศาสตร์ธรรมชาติและสมุนไพร ใช้นวัตกรรมเข้าไปสร้างมาตรฐาน มีความปลอดภัย ทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์แผนปัจจุบัน
“อโรคยา เวลเนส ศาลา” AROKAYA Wellness Sala เป็นแหล่งเผยแพร่ศาสตร์ความรู้เรื่องสมุนไพรและกัญชากัญชง ตั้งอยู่ในเพ ลา เพลินใน อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ภายในมี นิทรรศการ ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของ “อโรคยาศาล” ที่ใช้สมุนไพรรักษาโรคมาตั้งแต่อดีตกาล ต่อด้วยความรู้และภูมิปัญญด้านการแพทย์แผนไทย การจัดแสดงสมุนไพร เครื่องมือเครื่องใช้ และประโยชน์ของสมุนไพรมีห้องทดลองสกัดสมุนไพร ห้องตรวจ ห้องทำหัตถการ มีการสาธิต การสุมยา การนวดประคบ นวดกษัย ฝังเข็ม พอกตา เผายา
เป็นศูนย์เรียนรู้ ถ่ายทอดองค์ความรู้ศาสตร์การรักษากว่าพันปี ให้บริการแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์แผนปัจจุบันมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์มีแพทย์มาประจำให้คำปรึกษาเพื่อเป็นการ‘ป้องกันก่อนการรักษา เช่น บางคนเริ่มมีอาการออฟฟิศซินโดรม ก็รักษาขั้นเริ่มต้น ป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น แต่คนไข้อาจไม่สะดวกมารักษาที่นี่ได้ทุกวัน แพทย์จะให้คำแนะนำกลับไปดูแลตัวเองหรือไปรักษาในที่อื่น ๆ ที่สะดวกกว่า
หรือถ้ามาเที่ยวชม ก็จะได้ความรู้กลับไป เรามีนิทรรศการมองสาธารณสุขผ่านห้วงเวลา, เพลินสมุนไพร, มีทำหัตถการสุมยาสมุนไพรเพื่อผ่อนคลายสูดไอสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหย บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก ช่วยให้ทางเดินหายใจโปร่งโล่ง ปอดแข็งแรง และหัตถการรักษาอื่นๆ
มีการ Blend ชาสมุนไพร AKAYA ตำรับจักรพรรดิ์, มีเมนูอาหารปลอดสารพิษ Buriram Food Series จากวัตถุดิบท้องถิ่นและกัญชง Medical Grade จากวิสาหกิจชุมชนเพลาเพลินฯ โดยเชฟที่ผ่านการอบรม Cann Food Certified องค์ความรู้อาหารจากสมุนไพรไทยอีกด้วย
และยังกิจกรรมต่างๆเกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านสมุนไพรไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ขณะที่มาพักและยังนำองค์ความรู้ที่ได้กลับไปใช้ต่อได้อีกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา และหน่วยงานราชการที่เน้นมาทำด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้
ทั้งนี้ เพลาเพลิน บุรีรัมย์ ได้รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Thailand Tourism Award ครั้งที่ 14 ประจำปี2566 ใน “สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้” โดย พิจารณาภายใต้แนวคิด 3 แกนหลัก
1. การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ส่งเสริมรูปแบบการท่องเที่ยวที่มีความหมายและนำไปสู่ความยั่งยืน มีกระบวนการจัดการที่คำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม กลไกสำคัญประกอบด้วย BCG Economy Model/Responsible Tourism/Low Carbon Management
2. ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Safety & Health Administration)
3. ความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยว (Customers Interest)
ทั้งนี้ เพลาเพลิน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นำเสนอประสบการณ์ภายนอกห้องเรียนให้แก่เยาวชน และประชาชนทั่วไปให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์ในการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ และได้ลงมือทำกิจกรรมจริง โดยเน้นไปในแนวทางการสร้าง Play and Learn for sustainabilityและลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาเรียนรู้ และสร้างโอกาสประสบการณ์ใหม่ๆสู่ทุกกลุ่มเยาวชน-นักท่องเที่ยวทั่วไป
เพ ลา เพลิน ยังได้รับรางวัลโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ระดับเงิน หรือ ดีมาก จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกด้วย