เล่นน้ำสงกรานต์อย่างไร? ให้ผิวไม่พัง ไกลฮีทสโตรก

การเล่นสาดน้ำนั้นเป็นของคู่กัน แต่บางครั้งการเล่นน้ำที่ไม่สะอาดท่ามกลางอากาศร้อนและไอแดดก็นำมาซึ่งปัญหาที่ทำร้ายผิวมากมาย เราจึงควรปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยวิธีการง่าย ๆ ทั้งก่อนและหลังจากการ"เล่นน้ำสงกรานต์"

"กรุงเทพธุรกิจ" ได้รวบรวมวิธีการเตรียมตัวมาฝาก เพื่อที่จะทำให้คุณสนุกสุดเหวี่ยงไร้กังวล เพราะถึงจะเล่นน้ำสนุกชุ่มฉ่ำแค่ไหน แสงแดดตัวการก็ยังสาดส่องมาที่ผิวของเราทั้งวัน ดังนั้น ไปติดตามเคล็ดไม่ลับ การเล่นน้ำสงกรานต์ให้ผิวสดใส ไม่หมองคล้ำกันได้เลย

ผศ. พญ.สุธินี รัตนิน สาขาวิชาโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยวิธีการง่าย  ๆ ทั้งก่อนและหลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 

1.หลีกเลี่ยงน้ำที่สกปรก เช่น น้ำบาดาล น้ำจากคูคลอง

2.สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

3.ควรทาครีมกันแดดสูตรน้ำ SPF50 ขึ้นไป ก่อนเล่นน้ำ 2 ชั่วโมงและทุก 2 ชั่วโมงระหว่างเล่นน้ำ

4.หากระคายเคืองผิว รีบล้างน้ำสะอาด อย่าเพิ่งฟอกสบู่หรือยาฆ่าเชื้อในทันที

5.หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีฟองมาก ควรใช้สบู่อ่อน ๆ ทำความสะอาดหากผิวเกิดการระคายเคืองจากการเล่นน้ำ

6.หลังเล่นน้ำเสร็จแล้วควรรีบอาบน้ำให้สะอาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

"ไอเทม"ไม่ควรพลาดเล่นน้ำสงกรานต์ให้สุดปัง หยุดพฤติกรรมสุดยี้

เที่ยวสงกรานต์อุ่นใจ “สิทธิประกันสังคม” รักษาได้ทุกที่ ไม่ต้องสำรองจ่าย

เล่นน้ำสงกรานต์ให้ผิวยังคงสดใส ไม่หมองคล้ำ

วิธีดูแลผิวให้สดใสในช่วงเล่นน้ำสงกรานต์ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้ 

1.เลือกที่จะเล่นน้ำในช่วงเวลาก่อน 10.00 น. หรือหลัง 15.00 น. เป็นต้นไป เพื่อหลีกเลี่ยงปริมาณรังสี UV ที่เข้มข้นในช่วงเวลา 10.00 – 15.00 น. ซึ่งสามารถทำให้ผิวหมองคล้ำ เหี่ยวย่นได้ง่ายมาก

2.เลือกใช้ครีมกันแดด SPF 50 PA+++ waterproof ทาลงบนผิวนอกร่มผ้าทั้งหมด อย่าลืมทาบริเวณคอ ต้นคอ ใบหู หลังเท้าด้วยนะคะ เพราะถึงแม้แดดจะร่มหรือฟ้าจะครึ้มฝนจะตก ก็ยังต้องทาครีมกันแดด เพราะรังสี UV จะมีอยู่เสมอตราบเท่าที่ยังมีแสงให้เราเห็นอยู่ และเพื่อการปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องทาครีมกันแดดก่อนออกแดด20นาที และทาซ้ำทุก 2 ชม. จนกว่าจะกลับเข้าบ้าน

3.ก่อนการเล่นน้ำควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ที่เนื้อผ้าไม่หนาหรือบางจนเกินไป ควรเลือกใช้โทนสีสดใส อย่างเหลือง แดง เขียว ฟ้า ม่วง น้ำตาล แต่ไม่ต้องถึงกับเป็นสีดำสนิท น้ำเงินเข้ม น้ำตาลเข้ม เพราะสีเหล่านี้สามารถดูดซับแสงแดดได้ดีมาก แต่ไม่ควรสวมเสื้อผ้าสีอ่อน เพราะเวลาโดนน้ำแล้วจะดูโป๊เกินไป และสวมหมวกปีกกว้างเพื่อบังแดดด้วย

4.ไม่ควรใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าที่อับหรือมิดชิด เพราะถ้าเท้าแช่น้ำอยู่นาน ๆ จะเกิดการอับ และติดเชื้อราที่เท้าได้ ซึ่งรักษายากมาก

5.พยายามหลีกเลี่ยงแป้งดินสอพองผสมสีที่อาจมีสารอันตรายต่อผิวหน้า เลือกทำเลเล่นที่มั่นใจได้ว่าใช้น้ำสะอาด เพื่อป้องกันผิวแพ้สารหรือเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมาจากน้ำที่ไม่รู้แหล่ง และไม่ควรผสมแป้งหรือสารอื่นลงในน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์ เพราะอาจเข้าตา ทำให้ระคายเคือง เกิดสิวอุดตัน หรือติดเชื้อที่ผิวหนังได้

6.หากสนุกสนานกับการขึ้นกระบะท้ายรถเพื่อเล่นน้ำ ควรหมั่นแวะจุดพักร่ม และดื่มน้ำบ่อยๆ 

7.หลังเล่นน้ำสงกรานต์เสร็จ ควรจะต้องรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย สระผม และเช็ดตัวให้แห้ง 

เทคนิคการเลือกครีมกันแดด เล่นน้ำสบายใจ

เทศกาลวันหยุดแสนสนุกสนานในช่วงหน้าร้อน ต้องยกให้เทศกาลสงกรานต์ ผู้คนต่างออกมาสาดน้ำ ปะแป้งกันอย่างสนุกสนาน อีกนัยหนึ่งก็เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่ไทยในคราวเดียว

แต่ช่วงหน้าร้อน สิ่งที่รุนแรงตามมา คือ แสงแดด ที่สามารถทำลายผิวของเราโดยไม่รู้ตัว หลายคนสนุกสนานกับการเล่นสงกรานต์ แต่เมื่อกลับบ้านมาพบว่ามีสีผิวที่คล้ำลง

ตัวช่วยที่ดีในการกันแดด คือ ครีมกันแดด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับสภาพอากาศด้วย ผลิตภัณฑ์กันแดดหลายคนโฆษณาว่ามีค่า SPF ที่สูงมาก แต่ในความจริงแล้ว ครึมกันแดดที่มีค่า SPF เพียง 30 ก็สามารถป้องกันรังสียูวีได้มากถึง 97% แล้ว เลือกครีมกันแดดที่เป็น broad spectrum ซึ่งสามารถกันได้ทั้งยูวีเอและยูวีบี นอกจากนี้ควรทากันแดดก่อนใส่เสื้อผ้า เพื่อให้ครอบคลุมผิวได้มากที่สุด ควรทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมง และทาครีมก่อนออกแดด 20 นาที

นอกจากนี้เราสามารถใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อกันแดดได้เพิ่มเติม เช่น หมวก หรือ ร่ม เพียงเท่านี้การเล่นน้ำสงกรานต์ที่จะต้องออกแดดเพื่อความสนุก ก็จะไม่สามารถทำลายผิวได้ ผิวจะไม่หมองคล้ำให้เป็นความกังวลใจได้อีกต่อไป

เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย ปลอดโรค

1. ไม่นำน้ำหรือน้ำแข็งใส่ถุงพลาสติกและขว้างปา เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

2. การใช้แป้ง แนะนำหลีกเลี่ยงการทาบริเวณตา,จมูกและหู เนื่องจากมีโอกาสทำให้ระคายเคืองและติดเชื้อได้

3. ควรใช้น้ำสะอาด หลีกเลี่ยงแหล่งน้ำที่อาจจะมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ เช่น คลอง คูน้ำ บึง เป็นต้น

4. ในกรณีที่มีแผลตามร่างกาย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ เนื่องจากจะทำให้แผลมีการอักเสบและติดเชื้อได้

5. ในกรณีที่มีการผิดปกติที่ผิวหนัง เช่น รอยผื่นแดง บวม แดง คัน ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ แนะนำพบแพทย์

6. หากมีน้ำเข้าบริเวณใบหน้าเกิดการระคายเคืองที่ตา แนะนำให้ล้างด้วยน้ำสะอาด หากอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ และหากมีการสำลักน้ำ สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ จาม มีเสมหะ มีไข้ แนะนำให้พบแพทย์

เนื่องจากในช่วงวันสงกรานต์จะมีสภาพอากาศร้อนมากที่สุดของปี อาจเกิดโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (HEATSTROKE) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะ หน้ามืด หมดสติ ชักเกร็ง และเสียชีวิตได้

ดูแลเบื้องต้นขณะออกไปบริเวณพื้นที่กลางแจ้ง 

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ
• หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด
• หลีกเลี่ยงแสงแดด อากาศร้อนจัด เป็นระยะเวลานาน
• ส่วมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่ใส่เสื้อผ้าสีทึบ ควรเลือกใส่เสื้อผ้าโทนสีสดใส เช่น แดง เหลือง ขาว ฟ้า เขียว ห้ามใส่เสื้อผ้าโทนสีทึบๆ เพราะสีทึบจะดูดซับแสงแดดได้ดีมาก
• ใส่หมวก หรือใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว
• พยามยามหลีกเลี่ยงแป้งดินสอพองผสมสีที่อาจมีสารอันตรายต่อผิวหน้า เลือกทำเลที่ใช้น้ำสะอาดเล่นเพื่อป้องกันผิวแพ้สารอันตราย และเชื้อโรคที่ปะปนมากับน้ำ
• หลังเล่นน้ำสงกรานต์ถ้าเผลอลืมทากันแดดแล้วเกิดผิวไหม้ ให้ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบรรเทาอาการแสบร้อน
• ถ้ามีผื่นผิวหนังทั้งจากเชื้อราหรืออาการระคายเคืองหลังเล่นน้ำสงกรานต์ ควรพบแพทย์ทันที

ปฐมพยาบาลโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก

1. รีบนำผู้ป่วยเข้าในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และให้หลีกเลี่ยงจากพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก

2. จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงาย และยกขาขึ้นสูง เพื่อให้ระบบไหลเวียนของเลือดไปสู่หัวใจและสมองได้ดีขึ้น

3. คลายเสื้อผ้าให้หลวม เพื่อระบายความร้อน

4. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น เช็ดให้ทั่วร่างกาย เพื่อระบายความร้อน

5. ดื่มน้ำเย็นระบายความร้อนภายในร่างกาย หากหมดสติ ไม่แนะนำให้กรอกน้ำเข้าปาก เนื่องจากอาจทำให้สำลักน้ำลงปอดได้

6. ถ้าคนไข้มีอาการซึม ไม่รู้สึกตัวให้รีบเรียกรถพยาบาลโดยทันที โทร. 02-483-9944 ศูนย์บริการผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ (Emergency Room) โรงพยาบาลนวเวช มีบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยรถพยาบาลฉุกเฉิน (Advance ambulance) พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฉุกเฉินและทีมสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Team) ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง ควบคู่กับเครื่องมือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยในการช่วยชีวิตคนไข้วิกฤตและผู้ประสบเหตุฉุกเฉิน หรือ โทร.1669

ฟื้นฟูผิว ให้กลับมาสุขภาพดีเหมือนเก่า

กว่าจะผ่านเทศกาลสงกรานต์มาได้ นอกจากจะโดนสาดน้ำกันแบบจุก ๆ แล้ว ผิวเรายังต้องผจญกับทั้งฝุ่นควัน และแดดหน้าร้อนกันแทบจะทั้งวัน แม้จะทาครีมกันแดดก็อาจจะยังไม่เพียงพอ ผิวจึงอาจเสียหายและเสื่อมโทรมไปบ้าง บางคนอาจถึงกับผิวไหม้แดดจนแดง แสบ ผิวลอกกันเลยทีเดียว

เมื่อหมดช่วงเทศกาลแล้ว ก็คงถึงเวลาแล้วที่จะกลับมากู้ผิวพัง บำรุง ซ่อมแซมกันหน่อย เราจึงได้รวบรวม 7 วิธี ฟื้นฟูสภาพผิวมาฝาก พร้อมแนะนำครีมฟื้นฟูผิว เพื่อให้ผิวกลับมาสุขภาพดีเหมือนเก่า มาทำตามกันได้เลย

วิธีการดูแลผิวที่เห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด

เบื้องต้นการดูแลเพื่อกู้สภาพผิวหลังสงกรานต์ ควรสังเกตปัญหาผิวของตัวเองหลังเล่นสงกรานต์เพื่อให้การดูแลรักษาเป็นไปอย่างถูกต้องและถูกวิธี เช่น ผิวไหม้แดด ภูมิแพ้ หรือผดผื่นก็อาจจะมีการดูแลที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามการดูแลตัวเองด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะเป็นการทำร้ายผิวซ้ำลงไปอีก และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกครีมฟื้นฟูผิวคือสิ่งสำคัญและเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด 

1. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด แต่ให้อาบน้ำเย็นแทน

การอาบน้ำร้อนอาจกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบและระคายเคืองได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผิวของเราเสียหายยิ่งกว่าเดิมเช่น แห้งกร้าน คัน ผิวลอก ได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถทำลายสมดุลความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว ทำให้สูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติและโปรตีนที่ทำให้ผิวสุขภาพดี น้ำร้อนทำให้เซลล์เคราตินที่อยู่บริเวณชั้นนอกสุดของผิวหนังเสียหาย ทำให้ผิวแห้งและป้องกันไม่ให้เซลล์กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ นอกจากครีมฟื้นฟูผิวแล้ว การอาบน้ำเย็นจะช่วยเสริมการฟื้นตัวของผิวด้วยการเพิ่มเกราะป้องกันความชุ่มชื้นตามธรรมชาติได้ดีกว่าน้ำร้อน

2. หลีกเลี่ยงการสครับหรือขัดผิวแรง ๆ

ในระหว่างที่ใช้ครีมฟื้นฟูผิวอยู่นั้นควรหลีกเลี่ยงการสครับหรือขัดถูผิวแรง ๆ เพราะมันสามารถขจัดน้ำมันที่ดีที่ผิวของคุณต้องการในการมีสุขภาพที่ดีได้ ทำให้ผิวของคุณแห้ง แดง เป็นขุย และระคายเคือง เป็นการตอกย้ำให้ผิวเสียไปมากกว่าเดิม โดยในระยะนี้อาจจำเป็นต้องงดการสครับผิวไปถึง 2 สัปดาห์กันเลยทีเดียว

3.งดใช้สบู่ที่มีความเป็นกรดสูง หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่าง ๆ

ขณะที่ผิวยังคงฟื้นฟูอยู่นั้น ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เนื่องจากสบู่ที่มีความเป็นกรดนั้นอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและแห้งกร้านมากกว่าเดิม ควรใช้สบู่ที่อ่อนโยนควบคู่ไปกับครีมฟื้นฟูผิว และสบู่ที่ใช้ก็ควรจะเป็นแบบที่ปราศจากน้ำหอมและไวเทนนิ่ง ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพื่อที่จะไม่ขัดขวางการฟื้นฟูโดยธรรมชาติของผิวนั่นเอง

4.หลังอาบน้ำ ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวซับหยดน้ำออกจากผิว ห้ามใช้ผ้าเช็ดตัวถู หรือเช็ดผิวแรง ๆ

ควรซับผิวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูเนื้อนุ่มหลังอาบน้ำในขณะที่ผิวของคุณยังฟื้นตัวอยู่ และหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนูถูผิวเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและความแห้งกร้านมากขึ้น เนื่องจากการใช้ผ้าขนหนูถูสามารถขจัดน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น การซับผิวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูเนื้อนุ่มเป็นวิธีทำให้ผิวแห้งที่อ่อนโยนกว่าโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม

5.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเคมี หรือสารที่ก่อให้เกิดการแพ้

ครีมฟื้นฟูผิวที่มีสารเคมีหรือสารที่ก่อให้เกิดการแพ้นั้น สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ เมื่อผิวของคุณกำลังฟื้นตัว ผิวจะบอบบางและระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงครีมฟื้นฟูผิวที่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ เพื่อป้องกันอาการแพ้เพิ่มเติมด้วย คุณอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมฟื้นฟูผิวจากธรรมชาติที่มีโอกาสเกิดการระคายเคืองน้อยกว่าแทนได้

6.เลือกใช้ครีมฟื้นฟูผิวที่ช่วยลดการอักเสบ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว เสริมชั้นผิวให้แข็งแรง

นอกเหนือจากคำแนะนำและข้อควรหลีกเลี่ยงที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว แน่นอนว่าหากต้องการให้ผิวฟื้นฟูกลับมามีสุขภาพดีนั้น ก็จำเป็นต้องพึ่งพาครีมฟื้นฟูผิว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จะช่วยลดการอักเสบ ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง อย่างเช่น ครีมฟื้นฟูผิวหน้าสูตรผิวแพ้ง่าย  ที่มีคุณสมบัติรักษาอาการคัน ระคายเคือง ผิวหนังอักเสบ

7.ทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดอยู่เสมอ

การใช้ครีมฟื้นฟูผิวเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เราควรต้องปกป้องผิวจากแสงแดดควบคู่กันไปด้วย เพราะนอกจากจะป้องกันผิวจากแสงแดดแล้ว ยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดสิวด้วย และในขณะที่สภาพผิวอยู่ในช่วงการใช้ครีมฟื้นฟูผิวอยู่นั้น ผิวเราก็อาจเกิดการแพ้ หรือระคายเคืองได้ง่าย เนื่องจากผิวยังคงบอบบาง ฉะนั้นครีมกันแดดที่ใช้จึงควรเลือกสรรครีมสำหรับผิวบอบบางเป็นพิเศษ 

8. บำรุงด้วยว่านหางจระเข้ ตัวนี้จะเป็นตัวช่วยปลอบประโลมผิวจากผิวแห้งไหม้จากแดด ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ จะใช้แบบสดๆ หรือจะใช้แบบเป็นเจลก็ได้น๊าา

9. หลีกเลี่ยงจากแสงแดด

การตากแดดจะทำให้ผิวเรายิ่งคล้ำเสียขึ้นไปอีกน๊า

10. ทาครีมกันแดดทุกวัน 

การทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพจะช่วยปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้น

11.งดใช้ whitening การสครับหน้า และการใช้ครีมที่มี whitening 

สาวๆควรพักไว้ 1 - 2 สัปดาห์ เพราะผิวเรายังไม่อยู่ในภาพที่อ่อนแอ

12. รับประทานผัก ผลไม้

การทานผัก ผลไม้ที่มีวิตามินจะช่วยให้ผิวแข็งแรง บำรุงให้ผิวสวย กระจ่างใส

13. ดื่มน้ำให้มากๆ

การตากแดดนานๆทำให้ผิวสูญเสียน้ำในผิว ฉะนั้นสาวๆควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อทดแทนน้ำที่เสียไป อย่างน้อยวันละ 8-10แก้วแต่ถ้าทำเป็นประจำจะดีมากเลย เพราะจะทำให้ผิวนุ่มชื้น สดใส

ถ้าไม่อยากให้ผิวต้องเผชิญกับสภาพปัญหาเหล่านี้ หลังกลับจากเล่นน้ำสงกรานต์ ควรทำความสะอาดผิดให้หมดจด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าตามมาภายหลัง!

14.ล้างหน้าให้สะอาด 

หลังกลับมาจากเล่นน้ำสงกรานต์ ควรรีบล้างทำความสะอาดหน้าโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกที่มากับน้ำ ทำให้ผิวเกิดปัญหา รวมถึงบาวคนเสี่ยงต่อการแพ้แป้ง และดินสอพอง หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง หรือมีสิวตามาภายหลัง ในกรณีที่แพ้แป้ง หรือน้ำอบ แนะนำให้ใช้น้ำเกลือ หรือแอลกอฮอล์เช็ดก่อนล้างหน้า จะช่วยทำให้อาการแพ้ต่างๆ เบาบางลง

15.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิว 

หากรู้สึกแสบผิวหน้าควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมก่อให้เกิดการระคายเคือง อาทิ โฟมล้างหน้าที่มีเม็กสครับ หรือเม็ดบีด โดยควรเลือกสูตรที่อ่อนโยน รวมถึงล้างหน้าด้วยน้ำเย็นประมาณ 2-3 วัน ซึ่งเป็นการช่วยฟื้นฟูกลับมาสู่ภาวะปกติดังเดิม

16.งดใช้เครื่องสำอาง

ถือเป็นสิ่งที่สาวหลายคนทำได้ยาก และค่อนข้างลำบากใจสุดๆ แต่ถ้ารู้สึกแสบร้อนที่บริเวณผิวหน้า หลังจากลับจากเล่นน้ำสงกรานต์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด ครีมกันแดด รวมถึงมอยเจอไรเซอร์ อีกทั้งผลิตพภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ก็มีส่วนทำให้ผิวหน้าพังเช่นกัน!

17.แตงกวาช่วยบำรุงผิวได้ดี 

แตงกว่ามีสรรพคุณที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาชุ่มชื้น โดยให้นำแตงกวาที่หั่วบางๆ มาโบะให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออก ซึ่งจะเห็นได้ว่าผิวกระจ่างใสขึ้น

18.ทานผัก-ผลไม้ที่มีเบตาแคโรทีน

มะเขือเทศ แตงกวา รวมถึงส้ม มีสารเบตาแคโรทีน ที่มีส่วยช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสวย เปล่งประกายอย่างมีออน่าดังเดิม โดยแนะนำให้รับประทานประมาณครึ่งหนึ่งของมืออาหาร จะได้ผลดีเยี่ยม

เมื่อความสนุกจากการเล่นน้ำสงกรานต์หมดลง อย่าลืมดูแลตัวเอง ดูแลผิวให้กลับมาสวย ใสตามเดิม ยิ่งใครที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายด้วยแล้วยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ 

อ้างอิง:โรงพยาบาลนวเวช ,รามาแชนแนล , sakuraspathailand , zermixthailand ,ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ