บริหารคนฉบับเจนฯ 2 'ที.แมน' เปิดพื้นที่คนรุ่นใหม่ เข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อน

ก้าวสู่ปีที่ 51 ในการดำเนินธุรกิจ บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ ที.แมน ที่หลายคนอาจจะคุ้นตากับยาน้ำแก้ไอ “ไอยรา” หรือ สเปรย์สำหรับช่องปาก “Propoliz” แต่ความจริงแล้ว แบรนด์เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ภายใต้ กลุ่มบริษัท ที.แมน มีรวมทั้งสิ้นกว่า 221 แบรนด์

 

อีกทั้ง ยังนำเข้าหรือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอกอีก 18 แบรนด์ รวมทั้งสิ้นกว่า 804 ผลิตภัณฑ์ (SKUs) และมีเครือข่ายกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นพันธมิตรครอบคลุมทั้งร้านขายยา โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรมและเสริมความงาม ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)

 

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล มาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP PIC/S) มาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการกระจายยา (GDP PIC/S) มาตรฐานห้องปฏิบัติการระดับสากล ISO 17025 และการรับรองมาตรฐานอื่นๆ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• 'เอสซีจี' ชู องค์กรแห่งโอกาส สร้างคน นวัตกรรม วัฒนธรรม
• 'ยูนิโคล่' พัฒนาคนตั้งแต่ 'จุดเริ่ม' สร้างผู้นำ เติบโตไปพร้อมธุรกิจ
• ไขกุญแจความสำเร็จ 'แสนสิริ' องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย

 

DNA จากรุ่นสู่รุ่น

ประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สานต่อเจน 2 เผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ในการ “มุ่งมั่นขับเคลื่อนนวัตกรรมสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน” นับเป็นการส่งต่อ ดีเอ็นเอ จากคุณแม่ (ภญ.คำนวณ คงศุภลักษณ์) และ ปณิธานของคุณพ่อ (ธีรวัฒน์ ฐานะโชติพันธ์) ที่อยากจะสร้างสินค้าที่ดีมีคุณภาพให้คนไทยเข้าถึงสินค้า ในราคาที่เหมาะสม เป้าหมายที่สำคัญ คือ การเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นผู้นำ Healthcare ในไทย นำนวัตกรรมไปเปิดตลาดสู่แบรนด์ระดับโลก (Global Brand) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย

 

“หากย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้นของ ที.แมน ผู้บุกเบิก คือ คุณพ่อ จากเด็กจัดยาจีนในเยาวราช ด้วยความขยันจนเจ้าของให้โอกาสเป็นเซลล์แมน โดยคุณพ่อ 1 คน สามารถทำยอดขายได้เท่ากับ 5 คน หลังจากนั้น 4-5 ปี จึงขยับมาสู่เจ้าของกิจการ และเปิดบริษัทซื้อมาขายไปได้รับการตอบรับดี กระทั่งก่อตั้งโรงงานในปี 2515 และมองว่าหากอยากจะให้สินค้าได้รับการตอบรับในตลาดต้องสร้างคุณภาพ จึงลงทุนทำมาตรฐาน GMP โรงงานแรกๆ โดยคุณแม่เป็นเภสัชกรคนแรกที่มาสมัครงาน”

 

จากความชื่นชอบของคุณแม่ในเรื่องสมุนไพรไทย ที.แมน จึงเป็นโรงงานแรกที่ลงทุนทำสารสกัดสมุนไพร เปลี่ยนสารสกัดสมุนไพรที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก โดยใช้ความรู้ของคุณแม่ด้านยาแผนปัจจุบัน พัฒนาเป็นยาแก้ไอ “ไอยรา” โดยลงทุนด้านนวัตกรรม พัฒนาจนได้รับการยอมรับที่ดีในกลุ่มพรีเมียมเซกเมนต์

 

มองหาจุดแข็งเปิดเวทีคนรุ่นใหม่

การดูแลคนภายใต้การบริหารของเจนฯ 2 ที.แมน มีการนำระบบเข้ามาตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป นำไอทีเข้ามาช่วยในการทำงาน สิ่งสำคัญ คือ Open Mindset ช่วยกันคิดและวิเคราะห์ ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนานวัตกรรม หลักการคือ โฟกัสที่คน สร้าง Engagement ให้เกิด ไม่ว่าจะคนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า ทั้งที่ปรึกษาที่อยู่มานาน และคนรุ่นกลางที่ทำในสิ่งที่เชี่ยวชาญ รวมถึงการหา Successor ทั้งหมด คือ สิ่งที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง

 

ที.แมน มีพนักงานทั้งรายวันและรายเดือนรวมแล้วกว่า 1,000 คน โดยพนักงานทั่วไประดับจูเนียร์ อายุไม่เกิน 30 ปี ในระดับซีเนียร์ ราว 40 ปีขึ้นไป และ ผู้บริหารระดับสูงช่วงอายุราว 45 ปีขึ้นไป เรียกว่ามีทุกเจนฯ ไม่ว่าจะ X Y Z ทั้งนี้มีการนำ StrengthsFinder มาใช้ในการมองหาจุดแข็งและพัฒนาจุดอ่อน โดยมองว่า ในจุดแข็งยังมีจุดอ่อนซ่อนอยู่ หากเราสื่อสารกับคนอื่นซึ่งมีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกัน จะเกิดความเข้าใจ และสุดท้าย มี HR ในการประสาน เพื่อให้องค์กรสามารถเดินหน้าไปได้ ไม่ว่าจะเจนฯ ไหนก็ตาม

 

“ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยมีบ้าง การแก้ปัญหา คือ ต้องทำความเข้าใจความหลากหลายของพนักงาน จุดแข็ง และเข้าหาเขา เมื่อช่องว่างเกิดก็เดินเข้าไปหาช่องว่างและแก้ไข ฉะนั้น ต้องยอมรับ ทำความเข้าใจ และเปิดพื้นที่ สิ่งสำคัญ คือ ให้เวที ให้การมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่ จะเป็นการสร้าง Successor และจะทำให้เขาอยู่กับเราได้นาน”

 

อีกทั้ง ยังมีแผนในการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Functional Skills กลุ่มทักษะตามสายงาน และ Non- Functional Skills ทักษะในด้านอื่นๆ การทำงาน การปรับตัวด้านเทคโนโลยี อาทิ ทีมเภสัชกร และ ทีมฝ่ายขาย ในการส่งอบรมอัปเดตความรู้ใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังมีทีมเภสัชกร คอยเป็น Product Trainer ให้กับทีมขายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ เพื่อให้สามารถถ่ายทอดนวัตกรรม Healthcare ให้แก่ลูกค้าได้อย่างถูกต้อง

 

 

“ความท้าทายในฐานะเจน 2 ต้องทำให้ Success ภาพในอนาคตอยากจะให้ ที.แมน ไม่แก่ตามเรา ไม่แก่ไปกับเรา Forever young โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาขับเคลื่อนอย่างไร้รอยต่อและอยู่ได้ทุกเจเนอเรชั่น อยากให้สินค้าของเราไปอยู่ทุกช่วงอายุของคนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสูงอายุแบบที่เราทำอยู่และจะยังเดินหน้าต่อด้วยคอนเซปต์นี้ไปเรื่อยๆ”

 

ประพล กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนับเป็น ดีเอ็นเอ ที่ส่งต่อจากรุ่นเจน 1 ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัวเป็นการส่งต่ออย่างไร้รอยต่อ และเราพยายามส่งต่อถึงผู้บริหาร และคนทำงาน ที่ประยุกต์ใช้นวัตกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดของเสีย เกิดประโยชน์ต่อองค์กรมากที่สุด

 

“ความฝันของแม่ในยุคนี้ท่านทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว คือ สร้างผลิตภัณฑ์ของไทยให้คนไทย ในฐานะเจน 2 อยากจะทำให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น ด้วยการพัฒนานวัตกรรมและขยายไปยังตลาดต่างประเทศ การกลัดกระดุมเม็ดแรกถูกต้อง มันจะถูกต้องหลังจากนั้น” ประพล กล่าวทิ้งท้าย

 

เคารพ “ความหลากหลาย” ในองค์กร

เพื่อให้กลไกการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งนำไปสู่ประโยชน์สูงสุดต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที.แมน ได้จัดทำนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล Environmental, Social and Governance โดยในด้านการดูแลพนักงานนั้น มุ่งเน้นการเคารพความหลากหลายและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม สนับสนุนและเคารพการปกป้องสิทธิมนุษยชนไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ชุมชน และสังคมรอบข้าง

 

คำนึงถึงความเสมอภาคและเสรีภาพที่เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ภาษา สีผิว เพศ อายุ การศึกษา สภาวะทางร่างกาย หรือสถานะทางสังคม ป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การบังคับใช้แรงงาน (Forced Labor) การใช้แรงงานเด็ก (Child Labor) และการคุกคามทางเพศ เป็นต้น

 

อีกทั้ง ยังมีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิของพนักงานตามหลักสิทธิมนุษยชน และการจ้างงานที่เป็นธรรม ส่งเสริมโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ รวมทั้งพัฒนาความรู้ ความสามารถศักยภาพของบุคลากร เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็น หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง คุ้มครองพนักงานที่รายงานเรื่องดังกล่าว และคำนึงถึงความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยมีนโยบายการแจ้งเบาะแส รับข้อร้องเรียนการทุจริตและการกระทำผิดเป็นการเฉพาะ