“น้ำข้าวโพดสกัด” ลุงพล เปลี่ยน “รีไทร์” เป็น “รีสตาร์ต”

“น้ำข้าวโพดสกัด” ลุงพล  เปลี่ยน “รีไทร์” เป็น “รีสตาร์ต”

คุยกับ “อนันต์ วิวัฒนผล” หรือ “ลุงพล” ผู้สูญเสียขาขวาจากมะเร็งกระดูก กลับมองว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสเตรียมพร้อมกับชีวิตที่เหลือ และค้นพบอาชีพใหม่ น้ำข้าวโพดสกัด MyCron by uncle pol shop

KEY

POINTS

  • คุยกับ “อนันต์ วิวัฒนผล” หรือ “ลุงพล” ผู้สูญเสียขาขวาจากมะเร็งกระดูก แต่หมอบอกว่าอาจอยู่ได้ 3 เดือน แต่ลุงพลกลับมองว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสเตรียมพร้อมกับชีวิตที่เหลือ
  • การต่อสู้กับมะเร็งถึง 2 ครั้ง ระหว่างการรักษาตัว ลุงพล เกิดไอเดียอาชีพใหม่ น้ำข้าวโพดสกัด MyCron by uncle pol shop โดยใช้เวลา 6 เดือนในการคิดค้นสูตร จนได้น้ำข้าวโพดเนื้อเนียน หวานธรรมชาติ 
  • ลุงพล มองว่า การเกษียณอายุไม่ใช่จุดสิ้นสุด ไม่ควรใช้คำว่า รีไทร์ชีวิต ควรจะใช้คำว่า “รีสตาร์ต” ชีวิตเราย่อมรีสตาร์ตใหม่ได้เสมอ 

หากพบว่าชีวิตคุณจะอยู่ได้อีก 3 เดือน คุณจะทำอย่างไร ? เวลา 90 วันอาจดูไม่มาก แต่ในมุมมองของ “อนันต์ วิวัฒนผล” หรือ “ลุงพล” วัย 65 ปี ผู้สูญเสียขาขวาจากมะเร็งกระดูก กลับมองว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสเตรียมพร้อมกับชีวิตที่เหลือ 

 

การตรวจพบความผิดปกติที่เข่าขวาในปี 2558 ทำให้ลุงพลตัดสินใจไปพบแพทย์ และตรวจพบว่าเป็นมะเร็งกระดูก อาจจะอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือน หรือนานที่สุดคือ 6 เดือน ลุงพลใช้เวลากว่า 2 ปีในการต่อสู้กับมะเร็ง ให้เคมีบำบัด 6 เดือน เดือนละ 1 ครั้ง หลังจากผ่าตัดเสร็จต้องให้เคมีบำบัดอีก 1 ปี และตรวจเจอมะเร็งรอบที่ 2 ต้องตัดขา รับเคมีบำบัดต่ออีก 6 เดือน กระทั่งค้นพบไอเดียอาชีพใหม่ระหว่างการนอนพักรักษาตัว คือ น้ำข้าวโพดสกัด MyCron by uncle pol shop จากสูตรที่คิดเอง ทดลองชิมเอง จนเริ่มทำจริงๆ จังๆ ในปี 2562

 

ลุงพล เล่าย้อนไปในช่วงที่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็งว่า ตอนนั้นที่ได้ยินใจเสียไปเลย คิดว่าทำไมเวลาเรามันสั้นขนาดนี้ นึกไม่ออกว่าสิ่งที่เราต้องทำต่อไปนี้มีอะไรบ้าง แค่คิดวันละเรื่อง 3 เดือนก็ยังไม่พอ แต่ระหว่างนั่งวีลแชร์รอรถมารับกลับ เห็นผู้ป่วยฉุกเฉินนอนแน่นิ่งบนเตียงที่เขาเข็นมา แวบหนึ่งคิดขึ้นมาว่า คนนี้เขารู้ตัวหรือเปล่าว่าเขาตายหรือยังไม่ตาย แต่เรายังมีสติครบถ้วน รู้ล่วงหน้าอีก 3 เดือน 90 วัน หรือ 180 วัน มีโอกาสตั้งเยอะ

 

“ทำไมเราต้องมานั่งเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เรายังไม่ได้สู้กับมันเลย แต่อีกคนเขาไม่เหมือนเรา คนในโลกนี้มีสักกี่คนที่รู้ชะตากรรมชีวิตของตัวเองว่าเหลืออีกกี่วัน เรายังโชคดี เรารู้ว่าเรายังมีเวลาอีกตั้ง 90 วัน หรือ 180 วัน ดังนั้น สิ่งที่จะทำเราต้องตั้งสติดีๆ และค่อยๆ เลือก มันทำให้อารมณ์เปลี่ยน”

 

“น้ำข้าวโพดสกัด” ลุงพล  เปลี่ยน “รีไทร์” เป็น “รีสตาร์ต”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

รีสตาร์ตชีวิตใหม่ 

ลุงพล เล่าต่อไปว่า ใจคิดว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป โชคดีตรงที่ตั้งสติได้ ไม่คิดว่าชีวิตในวัยเกษียณมันจะต้องสิ้นสุดลง อย่าใช้คำว่า รีไทร์ ควรจะใช้คำว่า รีสตาร์ต ชีวิตเราสตาร์ตใหม่ได้เสมอ พอตัดขาเสร็จ นอนนิ่งๆ อยู่กับเตียง รู้สึกว่าตนเองเป็นภาระคนอื่น เหมือนนอนรอความตายไปวันๆ โดยที่เราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ แต่เมื่อเราลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ตั้งสติดีๆ ช่วยตัวเองให้ได้ เราเคยมี 2 ขา เหลือขาเดียว ก็ใช้ขาเดียวให้เกิดประโยชน์ ตัดขาขวาไป สองมือ สมอง สองตาก็ยังอยู่ เราก็รีสตาร์ตตัวเองใหม่ ใช้ศักยภาพที่มีให้เกิดประโยชน์

 

จนกระทั่งนึกถึงอาหารเพื่อสุขภาพอย่าง “น้ำข้าวโพด” เพราะในน้ำข้าวโพดมีเบตาแคโรทีน เวลาที่เขาแยกเนื้อข้าวโพดออกจากซัง จะใช้มีดสไลด์หรือเครื่องปั่น แต่จมูกข้าวโพดตรงปลายที่ติดอยู่กับซังถูกเอาไปทิ้ง เหมือนการทิ้งของดี จึงนำซังกับจมูกข้าวโพดมาสกัดน้ำด้วยความร้อน เอาน้ำนั้นมาต้มใส่เนื้อ เข้าเครื่องโม่บด จะได้เนื้อเครื่องดื่ม เนียนนุ่ม ละมุน และคุมความหวาน ให้อยู่ที่ประมาณ 6.5 Brix - 7 Brix ซึ่งเท่ากับความหวานที่ได้จากธรรมชาติ โดยใช้เวลาคิดค้นสูตรนานกว่า 6-7 เดือน

 

ปัจจุบัน น้ำข้าวโพดสกัด MyCron by uncle pol shop ส่งขายในกทม. และปริมณฑล ผลิตสูงสุดได้วันละ 600-700 ขวด ตามความต้องการของลูกค้า โดยมีการสอนวิธีทำน้ำข้าวโพดให้กับเพื่อนรุ่นน้องซึ่งบ้านอยู่ดำเนินสะดวก และใช้ข้าวโพดหวาน (Sweet Corn) ซึ่งปลูกแถวราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี เป็นแหล่งเพาะปลูกใหม่ สด รสชาติดี ผ่านกระบวนการพาสเจอไรซ์ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 6-7 วัน เพราะไม่ได้ผสมนม ไม่ได้ใส่สารกันบูด และสารกันตกตะกอน

 

“น้ำข้าวโพดสกัด” ลุงพล  เปลี่ยน “รีไทร์” เป็น “รีสตาร์ต”

 

ทำชีวิตให้เหมือนตุ๊กตาล้มลุก

หากย้อนกลับไปก่อนที่จะเป็นมะเร็ง เรียกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลุงพลต้องเผชิญกับปัญหา เพราะหลังจากทำมาหลายอาชีพ และก่อนป่วยเป็นมะเร็ง ประกอบธุรกิจโคมไฟประหยัดพลังงาน เกิดน้ำท่วมโรงงานที่บางบัวทอง สูงกว่า 150 เมตร เรียกว่าสินค้าที่สั่งมาเต็มโรงงานเสียหายทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญ คือ กำลังใจจากครอบครัวและกำลังใจจากตัวเอง

 

ลุงพล เล่าต่อไปว่า ตอนนั้นได้กำลังใจมาจากครอบครัวและสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง คือ กำลังใจอยู่ที่เราฝึกฝนกับตัวเราเองด้วย โชคดีที่เคยฝึกฝนมาบ้าง ทำให้เข้าใจการสร้างกำลังใจให้กับตนเอง การไม่สูญเสียความรู้สึกโดยที่ไปกังวลใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นเกินไป รู้จักเข้าใจและปล่อยวาง ทำให้ปรับแนวความคิด แก้ไขปัญหาด้วยสติที่มีอยู่ได้ อยากเป็นคนคิดบวกก็ไปอยูใกล้คนคิดบวกบ่อยๆ เราจะได้พลังบวก อย่าไปอยู่กับคนคิดลบเพราะเราจะได้แต่พลังลบ

 

เกษียณอายุไม่ใช่จุดสิ้นสุด ไม่ควรใช้คำว่า รีไทร์ชีวิต ควรจะใช้คำว่า “รีสตาร์ต” ชีวิตเราย่อมรีสตาร์ตใหม่ได้เสมอ ทำชีวิตให้เหมือนตุ๊กตาล้มลุก รู้จักว่าข้างไหนหนัก ข้างไหนเบา ข้างที่เป็นจุดถ่วง สมดุลของมันก็จะยกข้างเบาขึ้นเสมอ เราจะอยู่ข้างเบาหรือข้างหนัก ตั้งสติให้ดีและคิดให้ดีๆ จะพบว่าความจริงของชีวิตไม่ได้อยู่ที่คนอื่น อยู่ที่ตัวเราเป็นหลัก การอยู่ที่ตัวเราเป็นหลักนั้น จะทำให้ชีวิตมีความสุข การสร้างความดีไม่จำเป็นต้องตักบาตรทุกวัน พูดดี ทำดี ให้ความรู้สึกที่ดีแก่ผู้อื่นคุณก็ได้บุญ

 

“น้ำข้าวโพดสกัด” ลุงพล  เปลี่ยน “รีไทร์” เป็น “รีสตาร์ต”

 

ใจเข้มแข็ง กายก็เข้มแข็ง

ปัจจุบัน ลุงพลเรียกว่าใช้ชีวิตในวัยเกษียณที่ได้รีสตาร์ตใหม่ แม้ไม่ได้หวนกลับไปทำธุรกิจเดิมที่เคยทำแล้ว แต่ยังมีน้ำข้าวโพดสกัด ที่สร้างความสุข กับการที่มีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุน และส่วนหนึ่งสั่งไปแจกโรงทานจำนวนมาก

 

ท้ายนี้ ลุงพล ฝากทิ้งท้ายให้กำลังใจคนที่กำลังป่วยหรือท้อกับชีวิตว่า คนป่วยอย่างผมป่วยหนักมาก่อน ใกล้ตายมาหลายรอบ เราเข้าใจตัวเราเองว่า กายกับใจแยกกัน หากใจเราเข้มแข็ง กายก็ย่อมแข็งแรงตาม หากกายแย่ ใจยังเข้มแข็ง กายก็ไม่ปวด ยังสามารถสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้น ใจอย่าท้อ

 

“ผมพูดได้เพราะผมเคยทำมาแล้ว เคยเป็นคนป่วยที่ใกล้ตายมาแล้ว เพราะหมอบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน ผมยังรับสภาพนั้น เข้าใจตัวเอง จึงพูดได้ว่าหากคุณสร้างกำลังใจให้กับตัวเองได้ คุณจะเอาชนะทุกสิ่งได้ กำลังใจไม่ต้องรอจากผู้อื่น กำลังใจหาจากรอบข้างได้ด้วย แต่กำลังกายกำลังใจตัวคุณเอง สร้างได้ด้วยตัวคุณเองเท่านั้น”

 

“น้ำข้าวโพดสกัด” ลุงพล  เปลี่ยน “รีไทร์” เป็น “รีสตาร์ต”