สงสัยหรือไม่!! ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว ทำไม? ยังเป็น 'ไข้หวัดใหญ่'

สงสัยหรือไม่!! ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว ทำไม? ยังเป็น 'ไข้หวัดใหญ่'

จากสถานการณ์ ‘โรคไข้หวัดใหญ่’ ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี โดยสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด เป็นสายพันธุ์ A (H1N1) สถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 6 มิถุนายน 2567 พบผู้ป่วยสะสม 217,806 ราย

KEY

POINTS

  • ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคระบบทางเดินหายใจจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา สาเหตุติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม น้ำมูก เสมหะ หรือพูดคุย การสัมผัส
  • อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ดูเผิน ๆ จะเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่อาการมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาซึ่งจะค่อย ๆ แสดงอาการ
  • แต่ละปีแม้จะฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็สามารถเป็นไข้หวัดใหญ่ได้เพราะวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 70% – 90% เมื่อฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วจะสร้างภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดภายใน 2 สัปดาห์

จากสถานการณ์ ‘โรคไข้หวัดใหญ่’ ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี โดยสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด เป็นสายพันธุ์ A (H1N1) สถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 6 มิถุนายน 2567 พบผู้ป่วยสะสม 217,806 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กและกลุ่มวัยเรียน ผู้เสียชีวิต 18 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป

กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำประชาชนดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับการป้องกันโควิด 19 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง ได้แก่

  • ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
  • หญิงตั้งครรภ์
  • เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
  • ผู้มีโรคเรื้อรัง
  • โรคธาลัสซีเมีย (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
  • โรคอ้วน
  • ผู้พิการทางสมอง

สามารถเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน การจัดกิจกรรมรวมตัวเป็นกลุ่มในระยะนี้ (เช่น โรงเรียน ค่ายทหาร ฯลฯ) ควรมีการคัดกรองผู้มีอาการป่วยก่อนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเข้มงวด หากพบให้งดเข้าร่วมกิจกรรมและรีบไปพบแพทย์

ทั้งนี้ ในการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่นั้น พบว่ามีการระบาดหนัก ทุกๆ 10 ปี ซึ่งในปี 2009 ที่ผ่านมาได้เกิดการระบาดทั่วโรค และประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สูงถึง 120,000 คน นอกจากนี้อากาศที่แปรปรวนและฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้นก็เป็นกลไกสำคัญที่จะเพิ่มการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่อีกด้วย

เคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าทำไม? ต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี แถมต่อให้ฉีดวัคซีนป้องแล้ว ก็ยังสามารถเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้อีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ฉีดฟรี “วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไฮโดส” สิทธิข้าราชการ 65 ปีขึ้นไป

หมอมนูญ เตือน ไข้หวัดใหญ่ รุนแรงกว่าที่คิด แนะ ผู้สูงวัย รีบฉีดวัคซีนป้องกัน

ไข้หวัดใหญ่ คืออะไร? สาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อ

นพ.ชยพล ชีถนอม อายุรแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่าการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปีเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ แต่ทั้งนี้ ทำไมฉีดป้องกันโรคแล้ว ยังป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ได้อยู่นั้น ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับโรคดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยป่วยเป็นโรคดังกล่าวมาแล้ว

  • ทำความเข้าใจโรคไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคระบบทางเดินหายใจจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา โดยสายพันธุ์ที่พบมากมี 2 สายพันธุ์คือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H1N1 และ H3N2) อันตรายสูง กลายพันธุ์ได้ ระบาดเป็นวงกว้าง และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B (Yamagata, Victoria) ที่ติดต่อง่าย แต่อาการไม่รุนแรงเท่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

  • สาเหตุโรคไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม น้ำมูก เสมหะ หรือพูดคุยในระยะประมาณ 1 – 2 เมตร  หรือสัมผัสเชื้อที่ติดอยู่บนพื้นผิวของวัตถุ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือคีย์บอร์ด

ผู้ป่วยจะสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนแสดงอาการ และยังสามารถแพร่เชื้อได้ต่อไปอีก 5 วันหลังแสดงอาการ ผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องจะสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่า

มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา หากได้รับวัคซีนหรือป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มาก่อน ร่างกายมักมีภูมิต้านทานโรค หากเชื้อไวรัสตัวใหม่นั้นมีความใกล้เคียงกับเชื้อตัวเก่าที่เคยเป็น ร่างกายจะมีแอนติบอดีป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไประดับแอนติบอดีในร่างกายจะลดลง

หากสัมผัสกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ร่างกายไม่เคยรู้จักมาก่อน แอนติบอดีที่มีอยู่เดิมจะไม่สามารถสู้กับและป้องกันการติดเชื้อได้

สงสัยหรือไม่!! ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว ทำไม? ยังเป็น \'ไข้หวัดใหญ่\'

เช็กให้ชัวร์ ว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ 

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ดูเผิน ๆ จะเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่อาการมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาซึ่งจะค่อย ๆ แสดงอาการ

โดยอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีดังนี้ 

  • มีไข้ หนาวสั่น และเหงื่อออก
  • ปวดศีรษะและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • เจ็บคอและไอแห้ง
  • ปวดตา
  • มีน้ำมูก จาม
  • หายใจถี่
  • ท้องเสียและอาเจียนซึ่งพบได้บ่อยในเด็ก

ซึ่งอาการไข้หวัดใหญ่ในผู้ใหญ่ ที่ควรรีบพบแพทย์

  • เจ็บหน้าอก หายใจถี่
  • เวียนศีรษะ
  • ชัก
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
  • โรคประจำตัวกำเริบหรือทรุดตัว

ส่วน อาการไข้หวัดใหญ่ในเด็ก ที่ควรรีบพบแพทย์

  • เจ็บหน้าอก หายใจลําบาก
  • ภาวะขาดน้ำ
  • ปากเขียว
  • ชัก
  • ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
  • โรคประจำตัวกำเริบหรือทรุดตัว

ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ แต่หากอาการรุนแรง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างปอดบวมและเสียชีวิตได้

  • ภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่

คนหนุ่มสาวซึ่งมีสุขภาพดีมักหายจากไข้หวัดใหญ่ได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามในเด็กและผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ดังต่อไปนี้

  • ภาวะหายใจลําบากเฉียบพลัน
  • โรคหอบหืดกำเริบ
  • หลอดลมอักเสบ
  • หูอักเสบ
  • โรคหัวใจ
  • โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ ซึ่งอันตรายมากในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

สงสัยหรือไม่!! ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว ทำไม? ยังเป็น \'ไข้หวัดใหญ่\'

การป้องกันการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่

เนื่องจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% สุขอนามัยที่ดีสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ล้างมือเป็นประจําด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
  • ไม่สัมผัสตา จมูก และปาก
  • เมื่อจะจามหรือไอ ควรจามหรือไอใส่ข้อศอกหรือกระดาษทิชชู่ และล้างมือทุกครั้ง
  • ทำความสะอาดโทรศัพท์หรือพื้นผิวของสิ่งของที่สัมผัสบ่อย
  • หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด โดยเฉพาะในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่ระบาด
  • หลีกเลี่ยง ไม่ใกล้ชิดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำคัญอย่างไร

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ รวมถึงลดความรุนแรงของโรค การระบาดของโรค และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้คนทุกเพศทุกวัยฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี แม้จะเคยป่วยไข้หวัดใหญ่มาแล้วก็ต้องฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน

สงสัยหรือไม่!! ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว ทำไม? ยังเป็น \'ไข้หวัดใหญ่\'

ทำไมฉีดวัคซีนป้องกันแล้วยังเป็นไข้หวัดใหญ่

แต่ละปีแม้จะฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็สามารถเป็นไข้หวัดใหญ่ได้เพราะวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 70% – 90% เมื่อฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วจะสร้างภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดภายใน 2 สัปดาห์

นอกจากช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ ยังช่วยลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน แต่เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละปีมีการเปลี่ยนสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงวัยที่มีภูมิต้านทานค่อนข้างต่ำ

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ถึง 31 ธ.ค. 67

ผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 และมาตรา 39 อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลประจำปี 2567 ณ สถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตนได้ฟรี ซึ่งในปี 2567 นี้ ได้ขยายการให้บริการฉีดวัคซีนออกไป  ถึง 31 ธันวาคม 2567 

เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตนได้อย่างทั่วถึง โดยแนะนำให้ติดต่อนัดหมายการฉีดวัคซีนกับสถานพยาบาลตามสิทธิก่อนเข้ารับบริการ สำหรับผู้มีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้วัคซีนควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเข้ารับบริการ 

หากประชาชนต้องการรับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือหากมีข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่ง หรือที่สายด่วน 1506

สงสัยหรือไม่!! ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว ทำไม? ยังเป็น \'ไข้หวัดใหญ่\'

อ้างอิง: โรงพยาบาลกรุงเทพ ,โรงพยาบาลเมดพาร์ค