เปิดแนวคิดหมอโน้ต จากผ่าตัดมะเร็งสู่ศัลยกรรมตกแต่ง

เปิดแนวคิดหมอโน้ต จากผ่าตัดมะเร็งสู่ศัลยกรรมตกแต่ง

เป็นหมอผ่าตัดโรคมะเร็งที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ มาโดยตลอด ตั้งแต่เรียนจบเมื่อปี 2558  ถึงวันที่ควบตำแหน่งผู้บริหารศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง KPS Kasemrad Plastic Surgery

KEY

POINTS

  • ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะมาเป็นผู้บริหารศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง เพราะเรียนจบมาก็เป็นหมอผ่าตัดที่รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ทุกครั้งที่ได้ผ่าตัด เหมือนได้พักผ่อน
  • โดยเฉพาะผ่าตัดมะเร็งที่ต้องใช้สมาธิแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 3-4 ชม.พอเสร็จก็ผ่อนคลายและมีความสุข 
  • การจะทำศัลยกรรม ผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาร หรืออุปกรณ์ หัตถการต่างๆ 

เป็นหมอผ่าตัดมะเร็งที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ มาโดยตลอด ตั้งแต่เรียนจบเมื่อปี 2558  ถึงวันที่ควบตำแหน่งผู้บริหารศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง KPS Kasemrad Plastic Surgery พร้อมผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งความงามที่มีแนวโน้มเติบโตตามเทรนด์ดูแลความงามและพฤติกรรมสวยทันทีของคนรุ่นใหม่ และผู้สูงวัยก็ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์ ทำให้วันนี้ "หมอโน้ต-นาวาตรี นพ.สุเมธ บุญญเจตน์พงษ์" ได้สะสมประสบการณ์เตรียมเป็นเจ้าของรพ.ความงามในอนาคตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แม้ว่าจะเป็นผู้บริหาร KPS แล้วแต่ “หมอโน้ต”ตั้งใจว่า จะไม่ทิ้งคนไข้มะเร็งอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นสิ่งที่ตั้งใจมาตั้งแต่สมัยเรียนศัลยกรรมทั่วไปที่ศิริราช และเฉพาะทางผ่าตัดมะเร็งที่จุฬาฯ จนไปเรียนศัลยกรรมความงามที่เกาหลี ปัจจุบันหลังจากเสร็จภาระกิจที่ "รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า"แล้ว นาวาตรี นพ.สุเมธ จะไปตามนัดคนไข้ที่ต้องการทำศัลยกรรมต่อที่ KPS โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

"รพ.กรุงเทพ"ทุ่ม 200 ล้าน เปิดศูนย์การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ “The da Vinci Xi”

‘มะเร็งปอด’ มีโอกาสพบใน ‘ผู้หญิง’ มากกว่าผู้ชาย แม้ไม่เคยสูบบุหรี่

ทุ่ม 200 ล้านบาท เปิด KPS อีก 2 แห่ง ในปี2568

การคลุกคลีในวงการผ่าตัดมาโดยตลอดชีวิตการทำงาน ทำให้รู้จักหมอที่อยู่ในสายงานเดียวกันที่มากพอจนสามารถพัฒนาเป็นทีมงานที่เชี่ยวชาญที่จะบริหารศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมตกแต่งร่วมกันได้ทันทีหลังจากตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกับกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์เมื่อปี 2566 จนเป็นที่มาของการเปิดศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมตกแต่ง KPS Kasemrad Plastic Surgery แห่งแรกในโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ต่อมาปี 2567 เปิดแห่งที่ 2 ในโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง และปลายปีนี้จะเปิดแห่งที่ 3 ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค เป็นการให้บริการที่ตอบรับกับเทรนด์กลุ่มคนที่ใช้บริการเสริมความงามกันทุกเพศทุกวัยในปัจจุบัน

“ใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจในการเป็นพันธมิตรกัน มีการประชุมร่วมกันปลายปี 65 จากนั้น  1 เดือนต่อมาก็เคาะสรุป ใช้เวลารีโนเวท 3 เดือน เปิดให้บริการได้ในมี.ค.2566 ถือว่าเร็วมากจากนั้น 5-6 เดือนต่อมาก็เปิดที่รามคำแหง และภายในสิ้นปี2567 นี้จะเปิดสาขา 3 ที่บางแค จะเป็นการให้บริการครบวงจร” 

“หมอโน้ต”ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจว่า จากการเปิดให้บริการ KPS แห่งแรกมีรายได้ 70 ล้านบาท ปี 2567 เปิดให้บริการเพิ่มอีก 2 แห่ง ตั้งเป้ารายได้สาขาละ 20 ล้านบาทต่อเดือน  ในปี 2568 จะเปิด KPS อีก 2 แห่ง ในกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รวมใช้งบลงทุนทั้งหมด 200 ล้านบาท หรือแห่งละ 30-50 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์การแพทย์ รวมทั้งเพิ่มบริการใหม่ ครอบคลุมศัลยกรรมใบหน้า หน้าอก ลดน้ำหนัก เสริมความงาม และเทคโนโลยีดูแลผิวพรรณ

เปิดแนวคิดหมอโน้ต จากผ่าตัดมะเร็งสู่ศัลยกรรมตกแต่ง

เทคโนโลยีทางการแพทย์ ตอบโจทย์ผ่าตัด-ศัลยกรรม

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีทางเลือกในการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้สวยงามและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งการผ่าตัดและหัตถการ ซึ่งจะเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติไม่เห็นรอยแผล และเข้ากับรูปหน้าได้อย่างกลมกลืน การปรับรูปหน้าให้สมดุลกันทั้งใบหน้า เช่น การปรับโครงหน้าให้เรียวเล็กขึ้น หรือการปรับรูปจมูกให้เข้ากับรูปหน้าการผสมผสานระหว่างการผ่าตัดและหัตถการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการให้มากที่สุด 

“ที่สำคัญผู้คนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น จึงเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การให้คำแนะนำและการดูแลหลังการผ่าตัดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วและผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน ซึ่งในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมจะสามารถตรวจสุขภาพและรู้ผลภายใน 1 ชม.และสามารถให้บริการผ่าตัดได้ภายใน2 ชม.หลังจากรู้ผลตรวจสุขภาพแล้วเป็นต้น” 

ทั้งนี้ หัตถการหรือการทำผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง ต้องมีห้องผ่าตัดใหญ่บางครั้งมีการผ่าตัดที่ใช้ยาชาเฉพาะที่ ซึ่งใช้ปริมาณยาชาเฉพาะที่เป็นจำนวนมาก หรือการทำผ่าตัดหลายอวัยวะพร้อมๆ กันในการทำผ่าตัดครั้งเดียว ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อการใช้ยาชาเฉพาะที่ในปริมาณสูง การผ่าตัดที่ใช้ยาชา เฉพาะที่ร่วมกับยารับประทานที่ทำให้หลับ หรือยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำที่ทำให้หลับ หรือมีการดมยาสลบร่วมด้วย และการผ่าตัดที่มีการดมยาสลบให้ผู้ป่วยหลับ ซึ่งหัตถการเหล่านี้ต้องดำเนินการในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมด้วย

เปิดแนวคิดหมอโน้ต จากผ่าตัดมะเร็งสู่ศัลยกรรมตกแต่ง

มาตรฐานความปลอดภัย ปัจจัยผู้บริโภคให้ความสำคัญมากสุด

“ศ.นพ.คลินิก อภิรักษ์ ช่วงสุวนิช”นายกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย เคยให้สัภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”ไว้ว่าเทรนด์ศัลยกรรมความงามที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคยุคใหม่และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ การดูแลผิวและความงาม ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ต่างชาติ เนื่องจากค่าบริการในไทยที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับค่าบริการเฉลี่ยของโลก เช่นเดียวกับศัลยกรรมตกแต่ง

กลุ่มที่ให้ความสนใจเรื่องของศัลยกรรมความงามจะเป็นกลุ่ม Gen Y ผู้หญิง และ LGBTQIA+ ซึ่งมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับความสวยความงามมากขึ้นและมีโอกาสใช้จ่ายด้านเวชศาสตร์ความงามสูงขึ้น โดยผู้บริโภคจะเลือกใช้บริการจากโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางและคลินิก ศัลยกรรมตกแต่งความงามเป็นหลัก ขณะที่การทำศัลยกรรมในต่างประเทศก็ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ มาตรฐานความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากที่สุด

เปิดแนวคิดหมอโน้ต จากผ่าตัดมะเร็งสู่ศัลยกรรมตกแต่ง

การจะทำศัลยกรรมควรดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาร หรืออุปกรณ์ หัตถการต่างๆ ควรจะเป็นไปตามมาตรฐาน สถานพยาบาลหรือคลินิกต้องมีความสะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน และที่สำคัญอย่าพิจารณาเพียงเฉพาะราคา ยิ่งราคาถูกยิ่งต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพราะตอนนี้มีทั้งของปลอม และแพทย์ที่ไม่ชำนาญการในการบริการหัตถการ

“ขณะนี้มีแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งที่ผ่านการเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย มีประมาณ 450 คน และมีในสาขาอื่นๆ ซึ่งแพทย์สาขาหู คอ จมูก ที่ผ่านการอบรมตามเกณฑ์ที่กำหนดสามารถทำศัลยกรรมตกแต่ง หรือศัลยกรรมความงามได้ เพียงแต่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง"

แพทย์ที่ผ่านการเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติที่ได้รับอนุมัติและวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือผู้ทรงคุณวุฒิในหลักสูตรสาขาวิชาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง (Thai Board of Plastic and Reconstructive Surgery) จากราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทยและแพทยสภา ตามหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งเป็นระยะเวลาของหลักสูตร 3 ปี และหลักสูตร 5 ปี

เปิดแนวคิดหมอโน้ต จากผ่าตัดมะเร็งสู่ศัลยกรรมตกแต่ง