เจน3 ‘เวชพงศ์โอสถ’ รุกธุรกิจสุขภาพ สมุนไพรขึ้นห้างรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
“เวชพงศ์โอสถ” ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่าย ยาสมุนไพรจีนและไทย ครองตลาดมายาวนานถึง 120 ปี ก้าวสู่ เจน 3 ของครอบครัวเวชพงศา ในการดูแลธุรกิจ
KEY
POINTS
- ปัจจุบันการใช้ยาสมุนไพรไม่ใช่เรื่องของผู้สูงอายุ เพราะคนรุ่นใหม่ก็ให้ความสนใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรมากขึ้น
- การทำธุรกิจร้านยาต้องจำไว้เสมอว่า คนที่มาหาเราเป็นคนที่มีความเดือดร้อนมาแล้วขั้นหนึ่ง หน้าที่ของเราคือการปัดเป่าความเดือดร้อนนั้น
- 3-5 ปี ในอนาคต อยากเห็นเวชพงศ์โอสถ มีสาขามากขึ้น เพื่อทำให้การบริการทางการแพทย์แผนจีน แพทย์แผนไทย เข้าถึงทุกคน
“เวชพงศ์โอสถ” ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่าย ยาสมุนไพรจีนและไทย ครองตลาดมายาวนานถึง 120 ปี ก้าวสู่ เจน 3 ของครอบครัวเวชพงศา ในการดูแลธุรกิจ โดยมีสินค้า ผลิตภัณฑ์ 1,000 กว่ารายการ ที่ยึด 3 หลักปรัชญา “กตัญญู ขยันหมั่นเพียร และซื่อสัตย์” ในการทำธุรกิจตั้งแต่สมัยอาก๋งมาจนถึงปัจจุบัน ส่งต่อมายังรุ่นต่อรุ่น
เริ่มจากรุ่นอาก๋ง ที่โล้สำเภาจากประเทศจีน เดินทางมาประเทศไทย ปีแรกทำงานหานำเงินไปจ่ายค่าสำเภา ปีที่สอง เก็บเงินมาเปิดร้านชา มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ป่วย มีเจ้านายผู้ใหญ่ใจดีเอ็นดูส่งสมุนไพรมาให้ใช้จนหายดี เกิดความคิด “สมุนไพรมีความสำคัญกับชีวิต สามารถทำประโยชน์ให้กับผู้คนต่างๆได้” จึงผันตัวเองมาจำหน่ายเครื่องยาสมุนไพรและตั้งชื่อว่า ฮกอันตึ๊ง ต่อมาลูกชายคนโตรับกิจการต่อขยายกิจการและเปลี่ยนจาก แซ่ มาเป็นนามสกุล เวชพงศา พร้อมชื่อกิจการเป็น “เวชพงศ์โอสถ” ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
3 ปรัชญาสร้างDNA พนักงาน “เวชพงศ์โอสถ”ธุรกิจฉบับครอบครัว
'จีน' เปิดกว้างต่างชาติลงทุน 'เฮลท์แคร์' เพิ่ม เป็นเจ้าของโรงพยาบาลได้ 100%
เวชพงศ์โอสถ ร้านยาสมุนไพรจีนในห้าง
เจน2 “เวชพงศ์โอสถ”ขยายกิจการทั้งการผลิตและการจำหน่าย มีความครบถ้วนของธุรกิจมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเป็นร้านขายยาที่รับมาและขายไปเท่านั้น แต่มีหน่วยผลิต หน่วยจัดหา หน่วยขายทั้งขายส่งและขายปลีก เป็นการขยาย และวางรากฐานธุรกิจ ปัจจุบันเข้าสู่ เจน 3 ที่เริ่มขยายเข้าสู่ศูนย์การค้า ไม่ได้ตั้งอยู่ที่เยาวราชที่เดียว โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 16 สาขา รวมเยาวราช
“ยุทธเดช เวชพงศา” กรรมการบริหาร บริษัท เวชพงศ์โอสถ (ฮกอันตึ๊ง) จำกัด อายุ 63 ปี ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”ว่าหากเปรียบเทียบ เจน 1 รุ่นอาก๋ง จะตั้งร้านยาและทำให้เป็นปึกแผ่น ส่วน เจน 2 จะเป็นการขยาย และวางรากฐานธุรกิจ พอมาถึง เจน 3 เมื่อ 6 ปีที่แล้วได้เริ่มขยายเวชพงศ์โอสถเข้าสู่ศูนย์การค้า หรือตามส่วนต่างๆ ไม่ได้ตั้งอยู่ที่เยาวราชที่เดียว
ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 16 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล สีลม คอมเพล็กซ์, เซ็นทรัล ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัล เวสต์เกต, ไอคอนสยาม, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เดอะมอลล์ ท่าพระ, เดอะมอลล์ บางแค และ เมกา บางนา รวมเยาวราช
คนรุ่นใหม่ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรมากขึ้น
ปัจจุบันการใช้ยาสมุนไพรไม่ใช่เรื่องของผู้สูงอายุ เพราะคนรุ่นใหม่ก็ให้ความสนใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรมากขึ้น แต่ทั้งนี้จะต้องมีการนำเทคโนโลยีเพื่อเข้ามาใช้ เพื่อให้การใช้ยาสมุนไพรง่าย สะดวก ซึ่งเวชพงศ์โอสถ ผลิตสินค้าโดยเคารพองค์ความรู้และแนวคิดยาแผนไทยและยาแผนจีน แต่เราประยุกต์และพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อตอบโจทย์ของผู้ใช้ ตั้งแต่วัตถุดิบ การแปรรูป ให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนมากขึ้น
ขณะที่ ไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยน เวลาวันหยุดคนจะไปเดินห้าง เพื่อไปซื้อของ ไปทานข้าว ดังนั้น เมื่อธุรกิจค้าปลีกย้ายเข้าไปอยู่ในห้าง จึงได้ร่วมกับเซ็นทรัล ในการเปิดร้านยาในห้าง โดยห้างแรกที่เปิด คือ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าอยู่ที่นั้น เช่น คนจีน นักท่องเที่ยวจีน และความพร้อมของสถานที่ หลังจากนั้นเราก็เป็นพันธมิตรกับเซ็นทรัล และตอนนี้ได้ขยายการเปิดร้านยาในกลุ่มเดอะมอลล์
“การนำ ร้านยาจีน ยาแผนโบราณ หรือที่หลายๆ คน เรียกว่า ยาสมุนไพร สามารถเข้ามาตั้งอยู่ในห้างได้และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี เช่น ยาเป่าคอ เป็น ที่นิยมของคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่มักจะมีปัญหาเรื่องของการเจ็บคอ หรือมีแผลในปาก การใช้ยาเป่าคอแค่ครั้งเดียวก็สามารถช่วยพวกเขาได้ พอได้ผลคนก็ใช้และคนก็เชื่อ”
ธุรกิจสุขภาพที่ใช้สมุนไพรเป็นหลัก
เจน 3 ของเวชพงศ์โอสถมีการดำเนินการให้ครบวงจรมากขึ้น ให้บริการสุขภาพมากขึ้น เปิดคลินิกแพทย์แผนจีน และเกิดธุรกิจใหม่ ขึ้นมา 3 ธุรกิจ คือ
1.คลินิกการแพทย์แผนจีนเวชพงศ์โอสถ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว และ เดอะมอลล์ บางแค
2.กาญ่า เดอะ รีทรีท เรสซิเดนซ์ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ อยู่หลังเซ็นทรัลอีสวิลล์ ซึ่งรับดูแลผู้สูงอายุทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอาการอัลไซเมอร์ ปัจจุบันมีประมาณ 50 เตียง โดยมีการบริการ 3 รูปแบบ คือ 1.กลุ่มที่อยู่ระยะยาว ประมาณ 70% จะเป็นผู้สูงอายุอัลไซเมอร์ 2.กลุ่มที่อยู่ระยะสั้น กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องพักฟื้น หลังการผ่าตัด 3.กลุ่ม Daycare ผู้สูงอายุที่มาเข้าสังคม มาหาเพื่อน
ซึ่งกาญ่า มีปรัชญาในการทำธุรกิจ คือ การดูแลเป็นแบบเฉพาะรายบุคคลที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุนั้นๆ รวมถึงเน้นเรื่องของการเข้าสังคม ผู้สูงอายุยังเคลื่อนไหวได้ เพราะต้องการฟื้นฟู ให้ชีวิตของผู้สูงอายุ มีความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อให้ผู้สูงอายุได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี พยายามให้ผู้สูงอายุทำได้ด้วยตนเอง
3. S&V Herbal Clinic คลินิกการแพทย์แผนไทยเวชพงศ์โอสถ มีสาขาเพชรเกษม 48 และ สาขาเซ็นทรัล ชิดลม ให้บริการกลุ่มออฟฟิศซินโดรม ปวดหลังปวดคอ ปวดไหล่ ทั้งหมดนี้ คือ ธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดจาก ความรู้ดั้งเดิม ซึ่งเป็นการก้าวจากการเป็นเพียงร้านยา เริ่มขยายขอบเขตเป็นธุรกิจสุขภาพ
ใช้เทคโนโลยีตรวจสอบย้อนกลับได้
ในส่วนของกระบวนการผลิตนั้นมีการควบคุมคุณภาพ มีการตรวจสอบว่าวัตถุดิบที่นำเข้ามานั้นได้มาตรฐานหรือไม่ และต้องผ่านกระบวนการล้างหรือทำความสะอาด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสมุนไพรแต่ละชนิด เพราะแต่ละตัวนั้นจะมีกระบวนการแตกต่างกันบางชนิดไม่สามารถล้างน้ำได้ ก็ต้องใช้วิธีการเป่าลม หรือต้องคัดแยกด้วยมือทีละชิ้น หรือใช้เครื่องมือในการคัดแยก ทำให้สินค้ามีการพัฒนาปรับเปลี่ยนคุณภาพให้ดีขึ้น
เวชพงศ์โอสถ มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 200 คน มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เช็กสต๊อกการบริหารจัดการข้อมูลว่าแหล่งที่มาหรือสินค้าที่ขายอยู่ในขณะนี้จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ให้ความสำคัญในทุกๆขั้นตอน อาทิ การซื้อวัตถุดิบต้องมีเภสัชกรในการตรวจสอบวัตถุดิบ ทางด้านความชื้น สีสัน การปนเปื้อน และต้องมีการวิเคราะห์วัตถุดิบต่างๆเมื่อทำเสร็จในแต่ละขั้นตอนจะต้องมีการเซ็นชื่อรับรอง โดยการบันทึกต่างๆ จะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้แต่คนจะต้องมีผู้บันทึกข้อมูล ต้องมีผู้รับผิดชอบ
สมุนไพรที่เก็บมาไว้ในสต๊อกพยายามนำมาใช้ให้ไม่เกินปี เพราะสมุนไพรแต่ละชนิดบางตัวสามารถเก็บได้นานบางตัวสามารถเก็บได้ไม่นาน ดังนั้นการเก็บสมุนไพรจะต้องเป็นปีต่อปี โดยใช้วิธีการซื้อตามฤดูกาล และมีเทคโนโลยีในการเก็บสมุนไพร
ทั้งนี้การทำธุรกิจร้านยาต้องจำไว้เสมอว่า คนที่มาหาเราเป็นคนที่มีความเดือดร้อนมาแล้วขั้นหนึ่ง หน้าที่ของเราคือการปัดเป่าความเดือดร้อนนั้น อย่าทำให้ความเดือดร้อนมากขึ้น ต้องใช้ของดีเพราะคนที่มาร้านยาคือคนป่วย ถ้าไม่ใช้ของดีจะไม่หาย ถ้ารักษาอย่างผิดวิธี หรือใช้ยาไม่มีคุณภาพ เวลาที่เสียไปในการรักษาไม่สามารถนำคืนมาได้ เพราะเวลาขณะนั้นอาจจะเป็นเวลาทองของการรักษาอาการป่วย หากรักษาอย่างถูกวิธีได้ยาคุณภาพ ก็จะทำให้การรักษาดีขึ้น หายเร็วขึ้น เป็นหัวใจการทำธุรกิจร้านยา ที่อาก๋งสอนไว้และยึดมั่นมาจนทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม เวชพงศ์โอสถ มีการแบ่งแยกระหว่างครอบครัวและธุรกิจอย่างชัดเจนบริหารแบบบริษัท จำกัด บริหารธุรกิจด้วยธุรกิจ และ ความคิดแบบใหม่ ทำให้บริษัทเดินต่อไปได้เรื่อยๆ ส่วนในอนาคตที่วางไว้ อยากเปลี่ยนเวชพงศ์โอสถให้เป็น บริษัทครอบครัวที่เป็นสากล 3-5 ปี ในอนาคต อยากเห็นเวชพงศ์โอสถ มีสาขามากขึ้น เพื่อทำให้การบริการทางการแพทย์แผนจีน แพทย์แผนไทย เข้าถึงทุกคน
“ธุรกิจร้านยาเหมือนน้ำซึมบ่อทราย จะไม่ได้ทำให้เรารวยมากมายอย่างรวดเร็ว แต่ถ้ารักษาบ่อน้ำให้ดี ก็จะมีกินมีใช้ไม่มีวันหมด หน้าที่ของเรา คือ การรักษาบ่อน้ำนี้ให้ใสสะอาดทั้งสำหรับบริษัทเอง ผู้บริโภค และคู่ค้า โดยเฉพาะเรื่องของความซื่อสัตย์ ความจริงใจที่ทำให้เวชพงศ์โอสถอยู่ยืนยาวมาถึง 120 ปี เพราะหากนึกถึงเวชพงศ์โอสถจะต้องนึกถึงของที่ดี มีคุณภาพ”ยุทธเดช กล่าว
ปรัชญาในการทำธุรกิจ
1.กตัญญู รู้คุณ คือ กตัญญูต่อบ้านเกิดและบ้านที่อยู่อาศัย นั่นคือ ประเทศจีนและประเทศไทย การทำอย่างไรก็ได้ให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี สร้างร้านค้า สร้างสิ่งต่างๆเพื่อตอบแทนสังคมไทย ส่วนประเทศจีน ได้มีการสร้างโรงเรียนประถมวัย เนื่องจากคนในบ้านเกิดขาดความรู้ และในพื้นที่ไม่มีโรงเรียนประถมวัย
2.ขยันหมั่นเพียร ซึ่งรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 จะมองว่า ชีวิตคืองาน (work is life) เพราะเขาผ่านความยากลำบาก ถ้าเขาไม่ทำเขาจะไม่มีเงินไม่มีกิน ในแต่ละปีครอบครัวจะมีโอกาสเที่ยวเพียงครั้งเดียว คือ ช่วงตรุษจีน ดังนั้น ใครมีหน้าที่ทำงานก็จะทำงาน ใครมีหน้าที่เรียนก็จะเรียน ไม่ได้เที่ยว พอมารุ่นที่ 3 เริ่มมี Work Life Balance มากขึ้น
3.ความซื่อสัตย์ ทุกคนต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อทุกภาคส่วน ทั้งในครอบครัว พนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าซื่อสัตย์ จริงใจ สื่อสารทิศทางเดียวกัน