รวมฮิต 12 หนัง-ซีรีส์  ‘จักรวาลคู่ขนาน - มัลติเวิร์ส’ 

รวมฮิต 12 หนัง-ซีรีส์  ‘จักรวาลคู่ขนาน - มัลติเวิร์ส’ 

ชวนดู 12 ภาพยนตร์และซีรีส์ แนวผจญภัยใน “จักรวาลคู่ขนาน” หรือ “มัลติเวิร์ส” เอาใจคนชอบ “Doctor Strange in the Multiverse of Madness”

กระแส “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” กำลังมาแรงไปทั่วโลก รายได้เปิดตัวเฉพาะในไทยเพียงวันเดียวกวาดไปถึง 41 ล้าน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่ “จักรวาลมาร์เวล” พาผู้ชมไปสัมผัสกับโลกในจักรวาลอื่น ๆ หรือที่เรียกว่า มัลติเวิร์ส

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ได้รวบรวมรายชื่อภาพยนตร์-ซีรีส์ 12 เรื่องที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางไป “จักรวาลคู่ขนาน” หรือ “มัลติเวิร์ส” แต่ ไม่นับรวมการเดินทางข้ามเวลา และ มิติของเวลา 

  • ภาพยนตร์

1. The One (2544)

ภาพยนตร์แนวแอ็กชันไซไฟ เรื่อง “The One” นำแสดงโดย “เจ็ท ลี” (Jet Li) นักแสดงฮ่องกงเจ้าบทบาท ออกฉายในปี 2544 เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ๆ ที่ใช้แนวคิดมัลติเวิร์สมาเป็นแกนหลักของเรื่อง โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำรวจนายหนึ่งต้องต่อสู้กับวายร้ายซึ่งก็คือตัวของเขาเองในอีกจักรวาลที่พยายามลบตัวตนของเขาในทุกจักรวาล เพื่อจะได้เป็นสิ่งมีชีวิตสุดแข็งแกร่งที่เรียกว่า The One 

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับคำวิจารณ์ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ทำให้ผู้ชมได้รู้จักกับคอนเซ็ปต์มัลติเวิร์ส

 

2. Coherence (2556)

Coherence” ภาพยนตร์แนวไซไฟระทึกขวัญทางจิตวิทยา เปิดตัวครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์ออสติน แฟนทาสติก เฟสต์ (Austin Fantastic Fest) และได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 88%

Cohenrence เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อน 8 คนที่จัดปาร์ตี้กันในคืนที่มีดาวหางเคลื่อนผ่านโลก และขณะที่ดาวหางเคลื่อนผ่านโลก ได้เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้น ซึ่งยิ่งรู้เรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้น้อยเท่าไหร่จะยิ่งทำให้รับชมได้สนุกและพบกับความเซอร์ไพรส์มากขึ้นเท่านั้น

3. Spider Man Into The Spider Verse (2561)

มาถึงภาพยนตร์แอนิเมชันซูเปอร์ฮีโรอย่าง “Spider Man Into The Spider Verse” (2561) ซึ่งเป็นครั้งแรกของภาพยนตร์สไปเดอร์แมนที่ตัวเอก คือ สไปเดอร์แมนผิวดำไมล์ โมราเลส” ไม่ใช่ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เหมือนกับเวอร์ชันภาพยนตร์ฉบับคนแสดงของจักรวาลมาร์เวล ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่มีสไปเดอร์แมนจากคนละจักรวาลมาปรากฏตัวถึง 6 คนด้วยกัน

Spider Man Into The Spider Verse ได้รับคำวิจารณ์ในระดับที่ดีเยี่ยม โดยในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ได้รับคะแนนสูงถึง 97% และยังสามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ครั้งที่ 91 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันจากค่ายอื่นที่ไม่ใช่จาก Disney หรือ Pixar ที่รางวัลนี้ ในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ Rango (2554) ด้วยความสำเร็จขนาดนี้ทำให้ Spider Man Into The Spider Verse กำลังจะมีภาคต่ออีก 2 ภาค โดยมีกำหนดออกฉายในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ

 

4. Happy Death Day 2U (2562)

จากความประสบความสำเร็จของ “Happy Death Day” (2560) หนังสยองขวัญแนวใหม่ที่ตัวละครตายวนไปวนมา ตายซ้ำตายซาก ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งรายได้และคำวิจารณ์ จนมีการสร้างภาค 2 ตามออกมาในปี 2562 “Happy Death Day 2U” โดยคราวนี้แหวกแนวออกมา ไม่ได้แค่ติดลูปความตาย แต่กลายเป็นหนังไซไฟ พูดถึงเรื่องควอนตัมและต่างมิติอีกด้วย

แม้ว่าภาค 2 จะไม่ประสบผลทำเร็จเท่าภาคแรก เนื่องจากโทนของภาพยนตร์เปลี่ยนไป ไม่ได้สยองจัดเต็มเหมือนเดิม แต่ Happy Death Day ยังคงได้ไปต่อในภาคที่ 3 ซึ่งขณะที่อยู่ในการพัฒนาบท ต้องมาลุ้นกันว่าในภาคใหม่นี้จะแปลกแหวกแนวขนาดไหน หรือจะกลับไปเป็นแนวหนังไล่เชือดเหมือนเดิม

 

5. Everything Everywhere All at Once (2565) 

การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “มิเชล โหย่ว” ในภาพยนตร์ไซไฟ คอมเมดี้ “Everything Everywhere All at Once” ด้วยบทของหญิงชาวจีนที่มีชีวิตแสนน่าเบื่อ ต้องแบกรับภาระทุกอย่างภายในครอบครัว วันดีคืนดีกลับพบว่าตัวเองไปหลุดเข้าไปในมัลติเวิร์ส ทำให้พบว่าตัวเธอในแต่ละจักรวาลมีอาชีพและค้นพบว่ามีคนพยายามจะกำจัดตัวเธอในจักรวาลต่าง ๆ ให้สิ้นซาก

Everything Everywhere All at Once ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยโกยคะแนนจากนักวิจารณ์ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 97% และกำลังจะเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 12 พ.ค. นี้ (แต่ในต่างประเทศฉายตั้งแต่เดือน เม.ย.)

 

6. Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2565)

Doctor Strange in the Multiverse of Madness” นำแสดงโดย “เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์” (Benedict Cumberbatch) ในบท “Doctor Strange” หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า “หมอแปลก” โดยมีเรื่องราวต่อเนื่องมาจาก Spider-Man: No Way Home 

กลับมาคราวนี้ Doctor Strange ไม่ได้มาคนเดียว ยังมี “วันด้า แม็กซิมอฟฟ์” (Wanda Maximoff) หรือเจ้าของฉายา “สกาเล็ต วิตช์” แสดงโดย “เอลิซาเบธ โอลเซน” (Elizabeth Olsen) มาร่วมด้วย พร้อมเปิดตัวละครใหม่ที่จะเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องอย่าง “อเมริกา ชาเวซ” (America Chavez) รับบทโดย “โซชิตล์ โกเมซ” (Xochitl Gomez)

สำนักข่าว Variety คาดการณ์ว่า "Doctor Strange in the Multiverse of Madness" จะสามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐด้วยรายได้ไม่ต่ำกว่า 175 ล้านดอลลาร์ สำหรับรายได้ในต่างประเทศ จะกวาดรายได้ราว 125-140 ล้านดอลลาร์ ทำให้ในสุดสัปดาห์แรกจะทำรายได้ทั่วโลกประมาณ 285-340 ล้านดอลลาร์

 

  • ซีรีส์

1. Sliders (2538)

ซีรีส์แนวไซไฟอเมริกันเรื่อง “Sliders” เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไปท่องเที่ยวในจักรวาลคู่ขนาน (และจักรวาลอื่น ๆ) ผ่านรูหนอน โดยระหว่างทางได้ประสบพบเจอร์กับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ที่ต้องเอาตัวรอด ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จพอสมควร จะถูกสร้างทั้งหมด 5 ซีซัน มีการทำเป็นหนังสือการ์ตูนคอมมิค และเทรดดิ้งการ์ด

 

2. Doctor Who (2548)

Doctor Who” เป็นซีรีส์แนวไซไฟของอังกฤษที่ออกอากาศยาวนานตั้งแต่ปี 2506 และมีการเปลี่ยนนักแสดงผู้รับบท Doctor มาแล้วทั้งหมด 13 ครั้ง ในครั้งล่าสุดคือปี 2548 รับบทโดย “โจดี้ วิททาเกอร์” (Jodie Whittaker) ซึ่งครั้งแรกที่มี Doctor เป็นผู้หญิง

หานับตั้งแต่การออกอากาศครั้งแรก Doctor Who เป็นซีรีส์แนววิทยาศาสตร์ที่ออกอากาศยาวนานที่สุดในโลก และถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จมากที่สุดของภาพยนตร์ชุดสืบเนื่องแนววิทยาศาสตร์ที่ผ่าน ๆ มา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในเรื่องราวของ Doctor คนที่ 13 นี้จะเริ่มมีการพูดถึงและเดินทางไปยังจักรวาลอื่น ไม่ใช่แค่การเดินทางข้ามเวลาไปอดีตและอนาคตเหมือน Doctor คนอื่น ๆ 

 

3. Fringe (2551)

Fringe” เป็นซีรีส์แนวไซไฟ ที่ในช่วงแรกเป็นการไขคดีเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ สัตว์ประหลาด หรือโรคประหลาด แบบจบในตอน แต่ที่จริงแล้วในแต่ละซีซันมีปมใหญ่ที่ผูกซ่อนไว้ จนกลายเป็นเรื่องราววุ่นวายระหว่างจักรวาลคู่ขนาน ที่มีนักเดินทางข้ามเวลามาเข้ามาเกี่ยวข้อง

Fringe ถูกยกให้เป็นหนึ่งในซีรีส์แนวไซไฟในใจของใครหลายคน แม้ว่าในซีซัน 5 ซึ่งเป็นซีซันสุดท้ายนั้นจะเละเทะ และออกทะเลไปบ้างก็ตาม แต่ก็เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่คอซีรีส์แนวไซไฟไม่ควรพลาด

 

4. The Flash (2557)

ซีรีส์เรือธงและได้รับความนิยมสูงสุดของจักรวาล “Arrowverse” อย่าง “The Flash” ซูเปอร์ฮีโรที่มีความเร็วเหนือแสงของ DC จนได้รับการขนานนามว่าเป็นคนที่เร็วที่สุดในโลก (แต่ศัตรูมักเร็วกว่าเสมอ) วิ่งเร็วจนสามารถข้ามไปยังจักรวาลอื่นได้

 

ในช่วงหนึ่งที่จักรวาล Arrowverse ได้รับความนิยมอย่างสูง ได้มีการครอสโอเวอร์เอาตัวละครต่าง ๆ จากในซีรีส์ใน Arrowverse มารวมกัน ไม่ว่าจะเป็น “Arrow” “The Flash” “Legend of Tomorrow” “Supergirl” “Batgirl” และ “Black Lightning” เป็นอีเวนต์พิเศษ ซึ่งจะต้องดูแต่ละเรื่องให้ครบ ไม่ต่างจากจักรวาลมาร์เวล (อันที่จริงฝั่งซีรีส์ของ DC เล่นประเด็นมัลติเวิร์สก่อนมาร์เวล)

อีเวนต์ที่เป็นการรีเซ็ตจักรวาลมัลติเวิร์สทั้งหมดคือ “Crisis on Infinite Earths” ที่ออกฉายในปี 2563 และทำให้รู้ว่าภาพยนตร์และซีรีส์ทุกเรื่องที่ผ่านมาของ DC ล้วนอยู่ในมัลติเวิร์สเดียวกันทั้งหมด แม้แต่ Snyderverse จักรวาลภาพยนตร์ DC ของแซ็ก สไนเดอร์

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Arrowverse กำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่ดีนัก เนื่องจากซีรีส์เกือบทั้งหมดได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เหลือเพียงแค่ The Flash เท่านั้นที่ยังได้ไปต่อในซีซัน 9 

 

5. The Man in the High Castle (2558)

The Man in the High Castle” เป็นซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ทางเลือกของสหรัฐ ที่จำลองเหตุการณ์ในโลกคู่ขนานว่าจะเป็นอย่างไรหากฝ่ายอักษะ (ประกอบด้วย นาซีเยอรมนี อิตาลี และจักรวรรดิญี่ปุ่น) ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และย้ายมาตั้งรกรากที่สหรัฐ ซึ่งแม้จะดูสิ้นหวัง แต่กลุ่มที่ต่อต้านฝ่ายอักษะก็ยังมีความหวังด้วย ฟิล์มหนังที่บรรยายถึงเหตุการณ์ในอนาคตและชัยชนะของฝ่ายพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 

ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลกมาจากนวนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ ฟิลิป เค. ดิก (Philip K. Dick) และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย ตลอดจนกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ถูกสร้างทั้งหมด 4 ซีซันด้วยกัน

 

6. What If...?  (2565)

What If...?” เป็นแอนิเมชันซีรีส์ที่ควรดูเป็นอย่างยิ่งก่อนการไปชม Doctor Strange in the Multiverse of Madness เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมแล้ว ยังได้รับรู้ที่มาที่ไปของตัวละครและคอนเซ็ปต์มัลติเวิร์สในแบบฉบับมาร์เวล

What If...?” เป็นการตั้งคำถามแบบง่าย ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนนี้เป็นคนนั้นแทน หรือถ้าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบแบบนี้แทนจะเป็นอย่างไร เช่น จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากัปตันคาร์เตอร์ กลายเป็นอเวนเจอร์สคนแรกแทน กัปตันอเมริกา หรือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีซอมบี้ในจักรวาลมาร์เวล เป็นต้น

 

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์รวบรวม (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค. 2565)

กราฟิก: วราภรณ์ คำสม

รวมฮิต 12 หนัง-ซีรีส์  ‘จักรวาลคู่ขนาน - มัลติเวิร์ส’