ปักหมุด...กรุงเทพฯ ต้องเป็น เมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก
พัฒนาคลอง เชื่อมชุมชน เตรียมเส้นทางที่ปลอดภัย มี"เทศกาล"ที่สนุกทุกเดือน กรุงเทพฯโฉมใหม่ต้องดีกว่าเดิม เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกและคนไทย
เพื่อกระตุ้น การท่องเที่ยว ใน กรุงเทพมหานครอีกครั้ง หลังจากซบเซาจากสถานการณ์โควิดมานาน
และเป็นระยะแรกของการเปิดประเทศต้อนรับ นักท่องเที่ยว ทางกรุงเทพมหานครและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างสีสันให้เมืองกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 ทางกรุงเทพมหานคร โดย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้จัดประชุมเรื่อง "แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่"
กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า
- กทม.ร่วมกับ ททท.
ชัชชาติ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ถ้าจะให้ เศรษฐกิจ ดีขึ้น การท่องเที่ยวต้องเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เพราะกทม.ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
เราเป็นแค่ผู้อำนวยความสะดวก ดูแลเรื่อง โครงสร้างพื้นฐาน แต่ การท่องเที่ยวจะเข้าใจตลาด และวิธีการปฏิบัติมากกว่า
“มีการแลกเปลี่ยนกันหลายเรื่อง เรื่องแรก. ดูนโยบาย 216 เรื่อง มีหลายเรื่องสอดคล้องกับการดำเนินการการท่องเที่ยว เช่น ย่านที่มีอัตลักษณ์ 50 ย่าน เพื่อหาคุณค่าทางวัฒนธรรม
เรามี 12 เฟสติวัล 12 เทศกาล ซึ่งการท่องเที่ยวเสนอ เทศกาล 12 เดือน มา อาจมี เทศกาลแข่งเรือยาว เทศกาลดอกไม้ เทศกาลหนังกลางแปลง เทศกาลคราฟท์ นอกจากนี้ งานวิ่งอะเมซิ่งไทยแลนด์ อาจมาอยู่เป็นเทศกาลที่เราจัด"
- กรุงเทพฯ เวนิชตะวันออก
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า มีหลายโครงการสามารถผลักดันเรื่องการท่องเที่ยวในคลอง
“ย้อนกลับไปถึง เวนิชตะวันออก เราอาจเลือกคลองสักแห่งที่เหมาะสม แล้วพัฒนาไป อาจขยายจากที่รัฐบาลหรือท่านผู้ว่าฯอัศวินได้ทำไว้
เช่น คลองโอ่งอ่าง ขยายผลมาถึง คลองแสนแสบ หรือว่าคลองอื่นในฝั่งธนบุรี เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยว เสริมสร้างอัตลักษณ์ของกรุงเทพฯ
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ แบรนด์ดิ้งกรุงเทพฯ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มีมิติสอดคล้องกับความต้องการของคนทั่วโลก
สื่อที่ใช้ก็มีหลายรูปแบบที่จะเจาะให้ถึงกลุ่มลูกค้า แต่ละเซ็กเมนท์ สร้างแบรนด์ของกรุงเทพให้เข้มแข็งขึ้น ดึงลูกค้าต่างประเทศเข้ามา
ช่วงแรกนี้ ลูกค้าต่างประเทศ ยังมีน้อย อาจเน้น ลูกค้าในประเทศ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย การสร้างเนื้อหาที่สอดคล้องกับลูกค้าในประเทศ เป็นสิ่งที่ต้องเร่งทำ”
- ปรับโครงสร้างพื้นฐาน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า กทม.ต้องรับผิดชอบเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ต้องเตรียมเส้นทางต่าง ๆ ที่ปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว มีความสะดวก ห้องน้ำสาธารณะ และป้ายบอกทาง
“เป็นอีกวาระที่ การท่องเที่ยว จะต้องผลักดัน เศรษฐกิจ ให้กลับมา ได้เรียนท่านรองไปว่า ต้องทำแบบเป็นรูปธรรม ตั้งเป้าหมายให้ชัด แล้วทุกเดือนต้องมีความก้าวหน้า
ตอนนี้ตลาดหลาย ๆ ที่เปลี่ยนไป ตลาดอินเดีย มาแรง เราต้องคุยกับทางอินเดียว่าจะมีคอนเทนท์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าจากอินเดียอย่างไร
กรุงเทพฯ พัฒนาได้ ไม่ใช่กทม.เป็นคนทำ แต่ต้องร่วมมือกันกับทุกภาคส่วน
มีทั้งโรงแรม ร้านอาหารลงไปถึงคนขับมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ สามล้อ มีคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวเยอะ
ถ้าอยากให้เศรษฐกิจกลับคืนมา การท่องเที่ยวกรุงเทพต้องกลับมา จะทำให้เราฟื้นได้เร็วขึ้น”
- ทำกรุงเทพฯให้เป็นหมุดหมายของทุกคน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรมต่าง ๆ จะกระตุ้นเศรษฐกิจและความสนุกให้กับคนกรุงเทพและผู้มาเยือน แต่ต้องวางแผนล่วงหน้า
“เดือนหน้าเป็นฟิล์มเฟสติวัล หนังกลางแปลง แต่ละชุมชนมีเรื่อง งานคราฟท์ การท่องเที่ยวทำได้เพราะมีข้อมูลอยู่แล้วว่า แต่ละหน่วยมีหัตถกรรมอะไร
งานแข่งเรือยาว ก็น่าสนุกนะ เดือนตุลาคม เราเชิญเรือยาวจากต่างประเทศมาได้ไหม เพราะทุกประเทศก็มี ฮ่องกง สิงคโปร์ มาแข่งเรือยาวกันเลย ลอยกระทงเดือนพฤศจิกายนก็เป็นไฮไลท์ประจำเดือนอยู่แล้ว
แม้กระทั่ง การจัดงานวิ่ง อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอน เราสามารถทำให้เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกได้
อาจอยู่ในระดับเดียวกับ บอสตันมาราธอน นิวยอร์คมาราธอน ให้อยู่ในปฏิทินที่คนต้องมา ก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้
เอา ซอฟต์พาวเวอร์ ที่เรามี เสน่ห์เรื่องอาหาร ความมีน้ำใจ ประสานกันวางแผน มี ยุทธศาสตร์ ที่ชัดเจน
ผมเชื่อว่าเราจะกลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกได้ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ให้กับคนได้
ส่วน ตลาดนัดจตุจักร เรามีแผนจะพัฒนาให้เป็น ตลาดระดับโลก การท่องเที่ยวจะมีส่วนในการให้ข้อมูล ความต้องการของลูกค้าจากต่างชาติว่าเขาต้องการอะไร
เรื่อง คลอง เราจะขยายให้ยาวขึ้น เดิมมี คลองโอ่งอ่าง คลองบางลำภู ถ้าพัฒนาให้ยาวขึ้นไปถึง คลองแสนแสบ แล้วทำริมคลองให้ดี ดูเรื่องคุณภาพน้ำ
มีเรือวิ่งอยู่แล้ว การเดินทางก็จะคล่อง สะดวกขึ้น ตลอดทางมีชุมชน มัสยิด วัด ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ถ้าทำโปรแกรมพวกนี้ได้ก็น่าสนใจ แล้วสร้างเศรษฐกิจชุมชนได้ด้วย
ส่วน ฝั่งธน ก็จะดู คลองภาษีเจริญ คลองแถวทุ่งครุ คลองบางมด เป็นชุมชนเข้มแข็ง ก็เลือกคลองพวกนี้มาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แล้วสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้มาเยือน”
