“On The Ground” โซโล่แทนใจ “ROSÉ” เมื่อไอดอลเองก็ต้องการความธรรมดา
การได้เป็น “ไอดอล” เฉิดฉายอยู่ท่ามกลางแสงสีและผู้คนอย่าง ROSÉ แห่ง BLACKPINK แต่เมื่อได้ไปสู่จุดสูงสุดเธอกลับมองลงมาและตระหนักว่าแท้จริงแล้วความธรรมดาคือสิ่งที่ต้องการ
“I worked my whole life. Just to get right, just to be like "Look at me, I'm never coming down" I worked my whole life. Just to get high, just to realize. Everything I need is on the, everything I need is on the ground.”
นี่เป็นท่อนฮุคของเพลง “On The Ground” เพลงโซโล่เพลงแรกของ “ROSÉ” หรือ โรเซ่ สาวสวยผมบลอนด์จากวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีชื่อดัง “BLACKPINK” ที่เป็นที่รู้จักและมีแฟนคลับมากมายทั่วโลกถึงขั้นได้ขึ้นแสดงในงานเทศกาลดนตรี "Coachella" งานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯงานหนึ่งก็ว่าได้
ดังนั้น จึงสามารถเรียกได้ว่า "BLACKPINK" เป็นวงศิลปินเกาหลีที่ประสบความสำเร็จในระดับสากล และแน่นอนว่าสมาชิกแต่ละคนต่างก็ปล่อยเพลงโซโล่เป็นของตน รวมทั้ง โรเซ่ ที่ปล่อยออกมาถึง 2 เพลงด้วยกันและโด่งดังมียอดวิวทะลุล้านทั้งคู่ แน่นอนว่าเพลงเหล่านี้ติดหูใครหลายคนแน่นอน โดยเฉพาะ "On The Ground" ที่ปล่อยออกมาเป็นเพลงแรก หลายคนอาจจะโฟกัสไปที่ความไพเราะของดนตรีและการขับร้อง หรือความสวยงามอลังการของมิวสิกวิดีโอ
แต่ถ้าหากพิจารณาให้ลึกลงไปถึงท่อนฮุคที่ยกมาข้างต้นแล้วนั้นผู้ฟังจะรับรู้ได้เลยว่าโรเซ่ต้องการสื่อสารอะไรออกมา เพราะถ้าหากแปลตามตรงจะได้ข้อความว่า “ฉันทำงานมาตลอดทั้งชีวิต เพื่อแค่ให้ถูกต้อง และเพียงแค่ให้ถูกชื่นชมว่า มองฉันสิ ฉันไม่เคยล้มลงหรอก ฉันทำงานมาตลอดทั้งชีวิต แต่ก็คิดได้ว่าทุกสิ่งที่ฉันต้องการก็คือความธรรมดา”
แต่ถ้าแปลให้เข้าใจแบบภาษาง่ายๆ โรเซ่กำลังบอกว่า เธอทำงานมาตลอดชีวิต เพราะมันคือเรื่องที่ถูกต้องหรือควรจะเป็น ทำเพื่อให้หลายคนยอมรับว่า เธอไม่มีทางล้มลงแน่นอน เธอทำงานมาทั้งชีวิตจนสุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องการจริงๆ ก็คือ การใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆ นั่นเอง
เพลงของวงคือคอนเทนต์ของค่ายเพลงที่จะใช้เพื่อเรียกยอดวิวหรือยอดการติดตามศิลปิน จึงเป็นเพลงที่ค่อนข้างอยู่ในกระแส มีท่อนฮุคที่ร้องตามได้ง่ายและมีจังหวะติดหู แต่เพลงโซโล่นั้นเป็นเพลงที่ศิลปินต้องการแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองออกมา และโรเซ่เองก็ทำเช่นนั้น ด้วยการเล่าชีวิตของเธอที่มีสถานะเป็นไอดอลคนหนึ่งที่สุดท้ายแล้วก็ต้องการชีวิตธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
- โรแซนน์ พัก หรือ พัก แช-ย็อง
หรือที่หลายคนเรียกกันว่า "โรเซ่" ที่รับบทนักร้องหลักแห่งวงแบล็กพิงก์ ศิลปินสาวสวยสุดฮอตแห่งวงการ K-Pop ที่มีรางวัลการันตีมากมายไม่ว่าจะในฐานะวงหรือฐานะการปล่อยเพลงโซโล่ โรเซ่ เป็นชาวเกาหลี-นิวซีแลนด์เนื่องจากครอบครัวของเธอย้ายไปอยู่ที่นั่น ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลียและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนถึงช่วงมัธยม ระหว่างเรียนโรเซ่มีความสนใจในเครื่องดนตรีหลายชนิด โดยเฉพาะ กีตาร์ และ เปียโน รวมถึงเข้าร่วมกับคณะร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์
ดูจากชีวิตในช่วงวัยรุ่นของโรเซ่แล้วก็ไม่ต่างจากเด็กสาวธรรมดาทั่วไป แต่แล้วสิ่งที่จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็คือในปี 2012 เธอได้เข้าร่วมการคัดเลือกจากค่ายวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ตามคำแนะนำของคุณพ่อของเธอเอง โดยการร้องและเล่นกีตาร์ในเพลง "I’m Yours" และ "I Won’t Give Up" ของ "Jason Mraz"
และทำให้เธอได้อันดับที่หนึ่งจากผู้สมัครประมาณ 700 คน หลังจากนั้น เธอต้องย้ายไปอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดกับวายจีเมื่อ 7 พ.ค. 2012 เป็นต้นมา
เวลาล่วงเลยไป จนถึงปี 2016 วายจีประกาศรายชื่อสมาชิกและชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการ โดยมี "โรเซ่" ซึ่งเป็นชื่อในวงการเป็นหนึ่งในสมาชิกวงแบล็กพิงก์ และโรเซ่ได้ปรากฎตัวครั้งแรกในรายการ อินกีกาโย เมื่อ14 ส.ค. 2016 เพื่อโปรโมตอัลบั้มแรกของวง
ภาพโรเซ่จาก Instagram roses_are_rosie
จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 6 ปี แล้วที่โรเซ่โลดแล่นอย่างโดดเด่นอยู่ในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการออกเวิลด์ทัวร์กับเพื่อนสมาชิก การออกเพลงเดี่ยวถึง 2 เพลง ได้แก่ “On The Ground” ตามมาด้วย “GONE” การเป็นนางแบบให้กับนิตยสารแฟชั่นชื่อดังหลายฉบับ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับเสื้อผ้าและเครื่องประดับระดับไฮเอนด์หลากหลายแบรนด์ และการได้รับเชิญให้ไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ต่างๆ ในหลายประเทศ ด้วยที่นั่งแบบฟร้อนท์โรว์
ทำให้นอกจากงานเพลงแล้วการออกงานสังคมเหล่านี้ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งให้โรเซ่โด่งดังข้ามทวีปไปทั่วโลก เป็นที่รู้จักของศิลปินระดับโลกหลายคน ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ที่หลายคนมองโรเซ่จากมุมมองภายนอก โรเซ่ก็เป็นหนึ่งในศิลปินเกาหลีที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก เป็นต้นแบบให้กับเด็กสาวหลายคนที่กำลังเดินตามหาความฝันเช่นเดียวกับตัวเธอในอดีต
- มีอะไรอยู่ในเนื้อเพลง On The Ground
เพลงโซโล่เพลงแรกของโรเซ่ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ทั้งภาพของมิวสิกวิดีโอที่มีความอลังการ การขับร้องของโรเซ่ ซาวด์ดนตรีที่มีความเป็นสากล ส่งให้เพลงนี้ได้รับรางวัล การแสดงเต้นยอดเยี่ยม จากเวทีเอ็มเน็ตเอเชียนมิวสิกอะวอร์ดส ,มิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยม (ต่างประเทศ) จากเวทีเอเชียป็อปมิวสิกอะวอร์ดส, อินเตอร์เนชันแนลรีเวเลชัน จากเวทีเบรกทูดูอะวอร์ดส, ห้าอันดับเพลงเคป็อปยอดฮิต (กลางปี 2021) จากเวทีจูกซ์มาเลเซียท็อปมิวสิกอะวอร์ดส และ รางวัลศิลปิน – หญิงเดี่ยว จากเวทีฮันทอมิวสิกอะวอร์ดสภาพโรเซ่จาก Instagram roses_are_rosie
ทำให้โรเซ่ดังเปรี้ยงปร้างแบบแรงสุดฉุดไม่อยู่ แต่เมื่อมองลึกเข้าไปถึง “สาร” ที่โรเซ่ต้องการจะสื่อออกมาแล้วก็จะเห็นได้ว่าชีวิตการเป็นไอดอลของเธอนั้นไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนคิด อย่างเช่นท่อนแรกของเพลงเธอร้องว่า
“My life’s been magic seems fantastic. I used to have a hole in the wall with a mattress. It’s funny when you want it, suddenly you have it. You find out that your gold’s just plastic”
ถ้าฟังเพียงผิวเผินก็อาจจะไม่มีอะไรเป็นเพียงเนื้อเพลงทั่วไปที่แปลง่ายๆ ว่า “ชีวิตของฉันเป็นดั่งเวทมนตร์ดูเหมือนเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ ฉันเคยมีเพียงห้องเล็กๆ กับฟูกนอนธรรมดา ตลกดีนะเมื่อคุณรู้สึกต้องการอะไรสักอย่าง แล้วทันใดนั้นก็ได้มาครองทันที แต่สุดท้ายกลับพบว่าสิ่งมีค่าที่ได้มาเป็นเพียงแค่ของที่ไม่มีราคา”
แต่ถ้าสังเกตไปที่ใจความหลักก็อาจจะแปลโดยสรุปว่า ชีวิตของโรเซ่นั้นช่างสุดแสนจะมหัศจรรย์ ทั้งที่เมื่อก่อนนั้นเธอเองก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง แต่เมื่อเธอเข้ามาอยู่ในวงการตามที่เธอฝันแล้วก็พบว่าสิ่งที่เธอพยายามไขว่คว้าตามหามาตลอดนั้นสุดท้ายแล้วเธออาจจะไม่ได้อะไรเลย
ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ การที่โรเซ่ใช้คำว่า You และ I แต่ทั้งเพลงเธอไม่ได้กล่าวถึงใครอื่นเลยนอกจากตัวเธอเอง นั่นหมายความว่าโรเซ่กำลังคุยกับตัวเองในอดีตอยู่ นั่นก็คือ
“My world’s been hectic seems electric, But I’ve been waking up with your voice in my head. And I’m trying to send a message. And let you know that. Every single minute I’m without you, I regret it”
หากฟังครั้งแรกหลายคนอาจจะงงว่า You นั่นคือใคร ใช่คนรักของเธอหรือไม่ เพราะเมื่อแปลออกมาแบบคร่าวๆ จะได้ใจความว่า “โลกของฉันดูเหมือนน่าตื่นเต้นและแสนวุ่นวาย แต่ฉันมักก็จะตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับเสียงเธอดังก้องอยู่ในหัว ฉันพยายามส่งข้อความนี้ออกไป และบอกให้เธอได้รู้ว่า ฉันเสียใจกับเวลาทุกนาทีที่ไม่ได้อยู่กับเธอนะ”
แต่ถ้าหากประกอบรวมกับเนื้อเพลงโดยรวมก็จะทราบได้ว่าเธอกำลังขอโทษตัวเธออีกคนนั่นเองโดยประเด็นนี้ถูกนำมาเฉลยในมิวสิกวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งท่อนที่โรเซ่คุยกับตัวเธอเอง “Every day, every night. I’ve been thinking back on you and I”
ถ้าให้แปลเร็วๆ ก็จะได้ความหมายว่า “ทุกๆ วัน ทุกๆ คืน ฉันเฝ้าย้อนคิดถึงเรื่องราวระหว่างเรา” และแน่นอนว่าเราในที่นี้ก็คือ โรแซนน์ และ โรเซ่ นั่นเอง และสิ่งสุดท้ายที่เชื่อว่าอาจจะเป็นอีกหนึ่งสารจากโรเซ่ก็คือ
“I’m way up in the clouds. And they say I’ve made it now. But I figured it out. Everything I need is on the ground” นั่นก็คือตอนนี้ฉันอยู่สูงเหลือเกินอยู่เหนือมวลเมฆอีกนะ พวกเขาต่างก็บอกว่าฉันทำมันสำเร็จแล้วล่ะ แต่ที่สุดแล้วฉันก็ค้นพบว่าทุกสิ่งที่ฉันต้องการกลับเป็นแค่ชีวิตธรรมดาๆ เท่านั้นเอง
- การแสดงออกผ่านมิวสิกวิดีโอ
ภาพแรกของมิวสิกวิดีโอหรือเอ็มวี คือภาพของโรเซ่ในลุคไอดอลสาวสุดปังนั่งอยู่หน้ากระจกแต่งหน้าท่ามกลางแสงสีสว่างสดใส ตัดไปที่ภาพโรเซ่กำลังเดินอยู่หน้าโรงภาพยนตร์แบบสวยๆ ต่อด้วยภาพเดี่ยวที่เน้นไปที่ตัวโรเซ่เพื่อตอกย้ำว่านี่แหละคือไอดอล
ภาพจาก ROSÉ - 'On The Ground' M/V
ภาพจาก ROSÉ - 'On The Ground' M/V
ก่อนที่แสงของภาพในเอ็มวีค่อยๆ มืดลงเล็กน้อย และมีโรเซ่กำลังนั่งอยู่บนชิงช้าแต่เมื่อเธอไกวชิงช้าออกไปแล้วเมื่อชิงช้ากลับมากลับกลายเป็นภาพของโรเซ่ในลุคของ โรแซนน์ และหลังจากนั้นโรแซนน์ได้ไปปรากฏตัวอยู่ที่ห้องแต่งตัวของโรเซ่ ทั้งคู่ต่างใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุข
ภาพจาก ROSÉ - 'On The Ground' M/V
ภาพจาก ROSÉ - 'On The Ground' M/V
ภาพจาก ROSÉ - 'On The Ground' M/V
ก่อนที่โรแซนน์จะเขียนชื่อบนกระจกว่า ROŚE แต่ชื่อนั้นก็หายไปและปรากฎชื่อของ Roseanne ขึ้นมาแทน แล้วหลังจากนั้นโรแซนน์ก็หายไป ดังนั้นจึงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าในเพลง "On The Ground" โรเซ่กำลังพูดคุยกับตัวเองในอดีต
ภาพจาก ROSÉ - 'On The Ground' M/V
ภาพจาก ROSÉ - 'On The Ground' M/V
เหมือนกับกำลังเล่าให้โรแซนน์ฟังว่าที่ผ่านมาชีวิตของเธอได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้วจากการพยายามทำงานหนักมาโดยตลอดจนประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน ทำให้เธอกลับมาคิดถึงโรแซนน์อีกครั้งว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เธอพยายามมาทั้งหมดนั้นแม้จะช่วยให้เธอโด่งดังและประสบความสำเร็จ แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วชีวิตคนเรานั้นไม่ได้ต้องการอะไรเลยนอกเหนือไปจากการมีชีวิตธรรมดาๆ เท่านั้น
สุดท้ายนี้จากการที่โรแซนน์กลายมาเป็นโรเซ่จนถึงทุกวันนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เธอต้องจากครอบครัวของเธอที่ออสเตรเลียมาอยู่เกาหลีเพียงคนเดียวพร้อมกับกีตาร์หนึ่งตัว ต้องผ่านการฝึกหนักถึง 6 ปี ร่วมกับสมาชิกคนอื่นที่ไม่เคยได้มีโอกาสรู้จักกันมาก่อน
จึงไม่แปลกที่แม้ว่าปัจจุบันเธอจะเป็นไอดอลที่ถือว่าในระดับท็อปของวงการเพลงเกาหลีใต้ แต่เธอก็อยากจะบอกกับทุกคนว่าการที่มีชีวิตที่สุดแสนจะธรรมดานั้นคือเรื่องที่ดีและควรจะเป็นที่สุดแล้ว เธอจึงเลือกส่งสารนี้ถึงแฟนเพลงและคนทั่วโลกด้วยเพลง "On The Ground" นั่นเอง
อ้างอิง : South China Morning Post, RIAS, blackpinkmusic, และ YG family
ขอขอบคุณคลิปจาก : Youtube