แค่ "เที่ยว" ก็เท่ากับ "ลงทุน" เมื่อการลงทุนไม่ใช่เรื่องเงินเสมอไป
"การลงทุน" อาจไม่ใช่การเอาเงินไปซื้อหุ้น ซื้อเหรียญคริปโทฯ อสังหาฯ หรือซื้อพันธบัตร เพื่อเก็งกำไรเสมอไป เมื่อการลงทุนที่ดีที่สุด คือ "ลงทุนในตัวเอง" และการออกเดินทาง "ท่องเที่ยว" ก็เป็นหนึ่งในวิธีลงทุนที่ดี
การท่องเที่ยวถือเป็นการ "ลงทุนในตัวเอง" ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง นอกจากเพิ่มประสบการณ์ชีวิต ปรับทัศนคติให้ดีขึ้น ฝึกความยืดหยุ่น ความอดทน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และมีงานวิจัยชี้ว่า ช่วยเพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งงานได้ 6.5%
จริงอยู่ว่าการออกเดินทางท่องเที่ยวก็ต้อง “ใช้เงิน” จำนวนหนึ่งเช่นกัน แต่การใช้เงินในบริบทนี้ เป็นเหมือนการซื้อเวลาและซื้อประสบการณ์อันมีค่า ที่คุณต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะร้านค้าไหนๆ ก็ไม่มีขาย และการเดินทางเหล่านั้นจะช่วยพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ของคุณให้ดีขึ้นได้โดยธรรมชาติ
ยกตัวอย่าง คนที่ชอบเที่ยวต่างประเทศมักจะพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศของตัวเองได้แบบไม่รู้ตัว เผลออีกทีก็สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้คล่องแคล่ว ซึ่งสามารถเอาไปต่อยอดสู่อาชีพต่างๆ ได้หลากหลาย หรือบางคนก็กลายเป็นนักวางแผนทริป ต่อยอดสู่อาชีพ Trip Planner หรือ Travel Stylist ได้ เป็นต้น
และนี่คือเหตุผลที่ยืนยันว่า “การเดินทางท่องเที่ยว” เป็น “การลงทุนในตัวเอง” ที่ดีที่สุดซึ่งทุกคนสามารถทำได้ แค่จัดสรรเงินและเวลาว่างให้ดี แล้วเริ่มก้าวออกจาก Comfort Zone ของคุณ
1. การเดินทางช่วยเปิดโลกกว้าง รู้จักเข้าใจผู้อื่น
เมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว คุณจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นการเปิดประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้เห็นผู้คนใหม่ๆ ได้กลิ่น-ได้ยิน-ได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ ได้ลิ้มรสอาหารใหม่ๆ ทำให้เข้าใจความแตกต่างของวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ทำให้มีความเข้าอกเข้าใจผู้คน ขณะเดียวกันก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ซึ่งคุณจะไม่ได้รับประสบการณ์เหล่านี้ผ่านรายการท่องเที่ยวทางทีวี แต่จะต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น
2. การเดินทางทำให้รู้จักเคารพผู้อื่น
การเดินทางทำให้คนเรารู้จักเจียมตัว และค้นพบว่าโลกนี้น่าอัศจรรย์ เต็มไปด้วยสถานที่อันน่าทึ่งที่รอการสำรวจ ยิ่งออกไปผจญภัยมากเท่าไร ก็ยิ่งได้เห็นโลกกว้างขึ้นและกว้างขึ้น ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้ว คนเราล้วนตัวเล็ก ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องทำตัวยิ่งใหญ่เหนือใคร (เพราะไม่ว่าจะใหญ่มาจากไหนก็เล็กกว่าโลกนี้อยู่ดี)
3. เรียนรู้การสู้กับปัญหา ฝึกความอดทน ฝึกการวางแผน
การเดินทางไม่ได้สวยงามเสมอไป มันไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน บางครั้งเจอฝนตกหนัก หลงทาง โดนล้วงกระเป๋า ฯลฯ แต่ไม่เป็นไร การเดินทางจะเปลี่ยนคุณให้เป็นนักวางแผนที่ดีขึ้น รอบคอบมากขึ้น ฝึกความอดทน ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทุกอย่างล้วนทิ้งร่องรอยไว้และฝึกให้เราแข็งแกร่งมากขึ้น
4. การเดินทางสร้างความทรงจำตลอดชีวิต
การเดินทางจะตัดคุณออกจากกิจวัตรทางโลก และเปลี่ยนคุณไปสู่มุมมองการใช้ชีวิตใหม่ๆ และได้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ บ่อยครั้งเมื่อเรานึกถึงความทรงจำที่มีกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเวลาที่เราได้ใช้ไปกับพวกเขานั้นช่างมีความสุขและประเมินค่าไม่ได้
การเดินทางท่องเที่ยวก็เช่นกัน มันจะถูกบันทึกเป็นหนึ่งในความทรงจำอันหอมหวาน ที่ทำให้คุณมีความสุขทุกครั้งที่ได้นึกถึง และมีผลวิจัยชี้ว่าความทรงจำที่ดีเป็นพลังใจให้การใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันได้ (อ้างอิง : คนไทย 91.4% เห็นว่าความทรงจำ “มีคุณค่า” ขณะเดียวกัน คนไทย 67.9% เห็นว่าความทรงจำ “เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข” ช่วยเพิ่มพลังใจให้ชีวิตในปัจจุบันได้)
5. สอนให้คุณมีความสุขกับช่วงเวลานั้นๆ
การท่องเที่ยวสอนให้คุณเห็นความสำคัญของ “ช่วงเวลา ณ ขณะนั้น” มักเป็นช่วงเวลาสวยงามเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเดินทาง ที่ช่วยทำให้คุณลืมความเครียดในชีวิตประจำวัน และทำให้คุณมีความสุขได้
อีกทั้งยังทำให้เข้าใจความสุขที่แท้จริงของชีวิต ลองคิดดูว่า จะมีสักกี่คนที่ได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามของโลกเราได้อย่างใกล้ชิดแบบนี้ ทำให้คนเราเรียนรู้ที่จะซาบซึ้งกับความสุขเรียบง่ายที่โลกใบนี้มอบให้
6. การเดินทางทำให้คุณมีความรับผิดชอบ
การเดินทางคนเดียวบังคับให้เราอยู่นอก Comfort Zone ตัดขาดความสะดวกสบาย ซึ่งจะทำให้เราเปิดรับผู้คนและประสบการณ์ใหม่ๆ มากขึ้นโดยอัตโนมัติ การเดินทางสอนให้พึ่งพาตนเอง เพิ่มความมั่นใจในตนเอง สามารถไปไหนมาไหนได้ไม่ต้องกลัวการลองสิ่งใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้ภาษาใหม่ ฝึกการสื่อสารกับคนแปลกหน้า ฝึกการวางแผน ฯลฯ ในขณะเดียวกันก็มีความรับผิดชอบ และทำสิ่งต่างๆ อย่างระมัดระวัง
7. การท่องเที่ยวปราบความเครียด เพิ่มความคิดสร้างสรรค์
นอกจากนี้ มีข้อมูลจาก Forbes รายงานว่าในทางจิตวิทยา การท่องเที่ยวให้ผลดีต่อสุขภาพจิตและช่วยคลายเครียดได้อย่างดี โดย ดร.ทามารา แมคคลินทอค กรีนเบิร์ก นักจิตวิทยาคลินิกในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ อธิบายว่า ความเครียดจากการทำงานในแต่วันส่งผลให้จิตใจย่ำแย่ ดังนั้นการหยุดพักจากความเร่งรีบจึงจำเป็นสำหรับการผ่อนคลายจิตใจ โดยเฉพาะการออกไปเที่ยว จะช่วยให้ระดับ "ฮอร์โมนคอร์ติซอล" (ฮอร์โมนความเครียด) ในร่างกายต่ำลง ทำให้รู้สึกสงบ พึงพอใจ คลายเครียด และมีความสุขมากขึ้น
ที่สำคัญ.. งานวิจัยอีกหลายชิ้นชี้ว่า การเดินทางท่องเที่ยวยังช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทักษะการแก้ปัญหา และเพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งในที่ทำงานอีกด้วย!
ยืนยันด้วยคำอธิบายของ ศาสตราจารย์อดัม กัลลินสกี (Adam Galinsky) แห่ง Columbia Business School ผู้เขียนงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาความเชื่อมโยงระหว่าง "ความคิดสร้างสรรค์กับการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ" เขาพบว่า การเดินทางไกลช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเรียนรู้ และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรม ผู้คน และวิถีชีวิตท้องถิ่นของสถานที่นั้นๆ เท่านั้น
8. ลาพักร้อนช่วยเพิ่มพลังทำงาน เพิ่มโอกาสเลื่อนตำแหน่ง
อีกทั้งมีบทความวิชาการของ Harvard Business Review รายงานว่า จากการศึกษาวิจัยกลุ่มคนทำงาน 400 คนทั่วโลก ของสถาบันเพื่อการวิจัยเชิงบวกประยุกต์พบว่า การลาพักร้อนส่งผลให้พวกเขามีระดับความสุขและพลังงานสูงขึ้น 94% เมื่อมีพลังในการทำงานเต็มที่ ก็ส่งผลให้ประสิทธิภาพของงานดีขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่ “สมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐอเมริกา” ได้ทำวิจัยใน Project : Time Off หัวข้อ “การพักร้อนมีผลกระทบต่อบริษัทและพนักงานอย่างไร” พบผลการวิจัยว่า การลาพักร้อนช่วยเพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง
โดยพนักงานที่ใช้ “วันลาหยุด” ทั้งหมดต่อปี มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับผู้ที่ลาพักร้อนเพียงไม่กี่วันต่อปี แต่ทั้งนี้ต้องเป็นการลาพักร้อนที่มีการจัดสรรเรื่องงานไว้เสร็จแล้ว และได้พักผ่อนหรือท่องเที่ยวอย่างเต็มที่จริงๆ
-----------------------------------------
อ้างอิง: quora, forbes, Harvard Business Review, medium, psychreg.org