“Dine in the Dark” ดินเนอร์ 4 คอร์สในที่มืดสนิท

กินอาหารในความมืด Dine in the Dark (ไดน์ อิน เดอะ ดาร์ก) กลับมาอีกครั้งที่ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล

ในวันพฤหัสที่ 28 และวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 18.00 – 20.30 และ 20.30 – 22.30 น. (วันละ 2 รอบ)

กินในที่มืด...โดยใช้ประสาทสัมผัสที่เหลืออยู่ ได้แก่ การสัมผัส ลิ้มรส การดมกลิ่น การได้ยิน เพื่อสื่อสารและลิ้มลองเมนูลับ 4 คอร์ส ที่จะไม่เปิดเผยจนกว่าจะสิ้นสุดการรับประทานอาหาร

     Dine in the Dark ที่โรงแรมแกรนด์ เชอราตัน สุขุมวิทฯ 

Dine in the Dark หรือ Dining in the Dark เคยจัดในเมืองไทยหลายครั้ง เสิร์ฟโดยผู้บกพร่องทางสายตา ในห้องที่มืดสนิท 

ก่อนเข้าห้องรับประทานอาหาร ผู้บกพร่องทางสายตาจะเป็นผู้นำทุกท่านเดินเกาะไหล่กันเข้าไปในห้อง โดยทั่วไปจัดโต๊ะละ 8-10 ท่าน ทุกท่านมีหมายเลขโต๊ะ เมื่อนั่งประจำที่แล้ว บริกร (ผู้บกพร่องทางสายตา) จะแนะนำว่า ช้อนส้อมและมีดของแขกแต่ละท่านวางตำแหน่งตามหลักการรับประทานอาหาร มีแก้วน้ำและขวดอยู่ขวามือ ใครต้องการไวน์ก็จะเสิร์ฟแก้วและไวน์เพิ่มให้ โดยแขกทุกท่านรินน้ำหรือไวน์ด้วยตัวเอง

    (Credit: noirdininginthedark.com)

จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการ ไดน์ อิน เดอะ ดาร์ก เริ่มต้นจานเรียกน้ำย่อย 1-2 คอร์ส เมนคอร์ส และจบด้วยของหวาน

แขกจะตื่นเต้นเมื่อได้ลิ้มลองอาหาร และสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ทุกคนมองไม่เห็น ใช้เพียงประสาทสัมผัสที่เหลือคาดเดาเมนูตรงหน้า แล้วเมื่อจบคอร์ส ทุกท่านก็จะออกมาพบเมนูที่ได้รับประทานไปจริงภายนอก ให้เก็บภาพเป็นที่ระลึก

   (Credit: Dans Le Noir)

วัตถุประสงค์ของกินในที่มืด ก็เพื่อเปิดประสบการณ์การรับประทานมื้อพิเศษ เพื่อใช้ประสาทสัมผัสที่เหลือทำงานอย่างตรงไปตรงมาที่สุด และเพื่อเรียนรู้และเข้าใจผู้ที่อยู่ในโลกแห่งความมืด

พิเศษเมื่อซื้อผ่านไลน์ช็อป ราคาท่านละ 1,750 บาทสุทธิ พร้อมเครื่องดื่มต้อนรับ 1 แก้ว จากราคาปกติท่านละ 1,942 บาทสุทธิ และโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล บริจาค 50 บาท ในทุก ๆ การจองให้กับมูลนิธิเพื่อคนตาบอด ที่ไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศไทย

สั่งจอง ไดน์ อิน เดอะ ดาร์ก ทางไลน์ที่ https://bit.ly/SGS_LINEShopping หรือ อีเมล: [email protected] หรือโทร.0 2649 8355

    (Credit: tripoto.com)

ความเป็นมาของ Dine in the Dark : หรือ Dark Dining จัดดินเนอร์ในห้องอาหารที่ปิดทึบ มืดสนิท มองไม่เห็นอาหาร ไม่เห็นโต๊ะ-เก้าอี้ อุปกรณ์ที่ใช้บนโต๊ะอาหาร คนเสิร์ฟด้วย เพื่อสะท้อนถึงโลกมืด สภาวะที่มองอะไรไม่เห็น

กินในที่มืด เริ่มเมื่อปี ค.ศ.1999 ที่กรุงปารีส โดย Michel Reilhac เริ่มคิดโปรเจคนี้ตั้งแต่ปี 1997 ยุคแรกก็เปิดให้บริการในร้านอาหารทั่วไปในย่าน Montorgeuil ในปารีส ช่วงฤดูร้อนปี 1999

ต่อมาในปี 2003 ชาวฝรั่งเศสนาม Edouard de Broglie ร่วมกับ มูลนิธิคนตาบอดในฝรั่งเศส สร้าง “เชนภัตตาคารแห่งความมืด” และขยายแนวคิดพร้อมมีร้านอาหารร่วมโครงการในเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งเกิดจากไอเดียการกินอาหารที่บ้านแบบปิดตา อาศัยรสสัมผัสและกลิ่น เพื่อรับรสของอาหาร

     (Credit: thefork.com)

ไม่กี่ปีต่อจากนั้น การกินที่มองไม่เห็นเริ่มนิยมทั่วยุโรป ข้ามไปอเมริกา มาฮิตในเอเชีย ปี 2014 เกิดเป็นเชนภัตตาคารแห่งความมืด หรือ Dans le Noir แพร่สู่ยุโรปและรัสเซีย สู่ร้านค้าต่าง ๆ จนถึงสปาด้วย

ก่อนเข้าห้องไปดินเนอร์ ต้องขอให้เก็บกล้องและมือถือ บางที่เลือกเมนูได้ บางที่ก็ไม่บอกอยากให้ประหลาดใจ หลายที่จ้างผู้บกพร่องทางสายตาเป็นบริกรและผู้นำทาง เช่น ประเทศไทย ที่นำเงินรายได้สมทบมูลนิธิคนตาบอดด้วย

    (Credit: mydarkdinner.com)

Dine in the Dark ส่วนใหญ่เสิร์ฟอาหาร 3-4 คอร์ส เป็นอาหารที่ตักรับประทานง่าย บริการพร้อมไวน์ สามารถเลือกอาหารวีแกน อาหารไร้กลูเตน เมนูเนื้อสัตว์ อาหารทะเล และเครื่องดื่มอื่น ๆ

บางแห่งใช้ชื่อว่า Dark Table, Blackout, Black Restaurant, Black Bar, Blind Bar ซึ่งได้รับความนิยมทั่วยุโรป อเมริกา และเอเชีย