คนโสดอ่วม! หนี้ท่วมหลัง "เดท" ยุคเงินเฟ้อ "มิลเลนเนียล" เจ็บหนักสุด

หลายคนคงได้ยินคำพูดที่มักจะบอกว่า “คนเรารักกันที่ใจ ไม่ใช่เงินทอง” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้ จะทำอะไรก็ต้องใช้เงินกันทั้งนั้น แม้กระทั่งการออกไปสานสัมพันธ์ เพิ่มเติมความรักให้แก่กัน อย่างการออกเดทแต่ละครั้งนั้น ก็ใช้เงินจำนวนไม่น้อย

ผลการศึกษาเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดย Lendingtree ผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ ซึ่งสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในการออกเดทของชาวสหรัฐจำนวน 1,578 คน พบว่า 22% ของคนรุ่นมิลเลนเนียล (อายุระหว่าง 26-41 ปี) และ 19% ของคนเจน Z (อายุตั้งแต่ 18-25 ปี) เป็นหนี้จากค่าใช้จ่ายระหว่างการออกเดท

ขณะที่จำนวนเงินที่ผู้ตอบแบบสอบถามใช้จ่ายในการเดทแต่ละครั้งโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 91 ดอลลาร์ต่อคืน ซึ่งเพศหญิงจะใช้จ่ายโดยเฉลี่ยราว 81 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,088 บาท) ในขณะที่ผู้ชายจะมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 104 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,988 บาท) ซึ่งมากกว่าผู้หญิงราว 23 ดอลลาร์ (ประมาณ 876 บาท)

แมตต์ ชูลช์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อของ LendingTree กล่าวว่า “ทุกอย่างมีราคาแพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าใหม่ ช่อดอกกุหลาบ ค่าเดินทาง ราคาอาหารมื้อค่ำสุดหรู บัตรคอนเสิร์ต หรือแม้กระทั่งกาแฟสักถ้วย ไวน์สักขวดก็ยังมีราคาแพงขึ้น แม้แต่ละองค์ประกอบในการเดทจะมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันแล้ว ก็เป็นจำนวนเงินที่มากอยู่พอสมควร”

ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 4 ทศวรรษ โดยขึ้นไปแตะที่ระดับ 9.1% เมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ในร้านอาหารที่มีพนักงานบริการทุกขั้นตอน หรือ Full-Service Restaurant มีราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 7.6% ทำให้เหล่าคนโสดต่างคิดหนัก เมื่อจะต้องเสียเงินจำนวนมากในการเดทครั้งแรก โดยเฉพาะกับคู่เดทที่ยังไม่แน่ใจว่าจะสานต่อหรือไม่

โลแกน อูรี ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ความสัมพันธ์จากเว็บไซต์หาคู่ Hinge ระบุว่า “ค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนโสดถึง 2 ใน 3 ตัดสินใจว่าจะทำอะไรในการเดทแต่ละครั้ง”

แม้จะรู้ว่า ราคาสินค้าแพงขึ้นเพราะอัตราเงินเฟ้อ แต่ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 32% ยังคงยืนยันที่จะเดทต่อไป ถึงแม้ว่าไม่สามารถจ่ายไหวก็ตาม ขณะที่ 6% กล่าวว่า บัตรเครดิตของพวกเขารูดไม่ผ่านตั้งแต่เดทแรก

ขณะที่ ไมเคิล เลียร์ช หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายการวางแผนเพื่อความมั่งคั่งและการจัดการการลงทุนจาก Wells Fargo ผู้ให้บริการทางการเงินข้ามชาติ กล่าวกับ สำนักข่าว CNBC ว่า “โดยทั่วไปแล้วการตรวจสอบเงินที่ใช้จ่ายในการเดทแต่ละครั้งเป็นเรื่องยาก เพราะคนเรามักจะบอกจำนวนเงินที่ใช้ไปไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งในแง่ของจำนวนเงินที่ใช้จ่าย และการจำกัดวงเงินที่ใช้จ่ายในแต่ละครั้ง”

เลียร์ช บอกอีกว่า การเดทแต่ละครั้งอาจไม่ได้ใช้เงินมาก แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดแล้วอาจจะทำให้เป็นหนี้ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเมื่อชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือผ่านแอปพลิเคชันที่ยิ่งทำให้คน “โอนไว” แบบไม่รู้ตัว “เมื่อคุณมีวงเงินที่สูง แต่จ่ายแค่ยอดเงินขั้นต่ำ คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้คุณมีหนี้เท่าไหร่แล้ว”

 นอกจากนี้ เลียร์ชแนะนำให้ จำกัดวงเงินที่ใช้ในแต่ละวัน และทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าการออกเดทแต่ละครั้งจะไม่ได้สร้างหนี้เพิ่มให้กับคุณ

ถึงแม้ว่า 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พฤติกรรมการเดทของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ราว 1 ใน 5 หรือ 20% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาออกเดทลดลง เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ ส่วนอีก 14% กล่าวว่า จะใช้เงินในการเดทแต่ละครั้งให้น้อยลง

สอดคล้องกับผลสำรวจของ Dating.com เว็บไซต์หาคู่ที่พึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเดือน ก.ย.ว่า บรรดาคนโสดกว่า 83% กำลังหาทางควบคุมรายจ่ายในการเดทครั้งแรกหรือครั้งที่สอง ให้ไม่เกิน 50 ดอลลาร์ 

ขณะที่ผลการสำรวจของ Hinge เว็บไซต์หาคู่ ระบุว่า 41% ของผู้ตอบแบบสอบถาม 3,000 คน เป็นกังวลกับค่าใช้จ่ายในการเดทมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยคนวัยเจน Z มีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากที่สุด

“การเดทแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงเสมอ โดยเฉพาะขณะนี้ที่สหรัฐกำลังเผชิญภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง ยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นไปอีก คนยุคมิลเลนเนียลที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นกำลังของชาติ ต้องเผชิญกับความยากลำบากจากหนี้สิน และเงินเฟ้อกำลังซ้ำเติมพวกเขา” ชูลช์ระบุ

ด้าน เท็ด รอสส์แมน นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาวุโสของ Bankrate.com บริษัทให้บริการการเงินรายย่อย กล่าวว่า “คุณควรซื่อสัตย์กับงบประมาณที่คุณมี เหมือนกับที่คุณทำกับคู่ของคุณ เพราะการมีหนี้ก้อนโต ไม่น่าจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณนั้นยั่งยืน”

แม้ว่าการทุ่มเทมอบสิ่งของราคาแพง สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมมื้ออาหารสุดหรู จะซื้อใจคู่เดทของคุณได้ แต่การไปเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์ หรือทำอาหารกินเองที่บ้านพร้อมดูซีรีส์ไปด้วย ก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย แถมเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าอีกด้วย

จากผลสำรวจของ Lendingtree พบว่า ประมาณ 85% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่าพวกเขารู้สึกโอเคหากคู่เดทของตนพาไปเดทในสถานที่ปรกติ โดยไม่ต้องใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

นั่นอาจเป็นเพราะแค่เราตั้งใจจะมอบอะไรให้ ถึงไม่ได้หรูหราราคาแพง แต่อีกฝ่ายก็รับรู้ได้ถึงความจริงใจแล้ว ซึ่งเรื่องเหล่านี้ “ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา”

ที่มา: Bloomberg, Bold!, CNBC, Global Dating Insights, LendingTree, NewsWeek, New York Post