เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 คนวงการหนัง นักการเมืองร่วมงานคับคั่ง

เมื่อช่วงค่ำวันนี้(2 ธันวาคม 2565) ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้จัดงาน "เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ" ครั้งที่ 15 (World Film Festival of Bangkok) โดยเครือเนชั่นกรุ๊ป เจ้าภาพหลักจัดงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ซึ่งมีคนในวงการภาพยนตร์ ดารานักแสดง ภาครัฐ/เอกชน นักการเมือง อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

 

 

นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนชั่นกรุ๊ป กล่าวว่า ความมุ่งหมายในการนำ "เทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ" กลับมาจัดอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 15 ที่เนชั่นฯได้จัดขึ้นงานเทศกาลนี้ขึ้น และเป็นการกลับมาจัดอีกครั้งหลังเว้นระยะมา 5 ปี ซึ่งเชื่อว่างานนี้จะเป็นหนึ่งในแรงผลักดันเรื่อง Soft Power ของเมืองไทย ที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

 

"ภาพยนตร์สะท้อนบริบทของสังคม สะท้อนความคิดของสังคม และเมื่อสะท้อนแล้วก็ผลักดันออกไปสู่ต่างประเทศ จึงต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้ และหวังว่าจะขับเคลื่อนงานนี้ได้ทุกๆปี"

 

 

 

ทางด้าน นายดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ ครั้งที่ 15 กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า เทศกาลภาพยนตร์โลกหายไป 5 ปีแล้ว และดีใจมากที่การจัดงานในวันนี้ทำให้คนกลับมาเจอกันอีกครั้ง และเป็นงานที่นำทุกคนทั่วโลกโดยเฉพาะคนทำหนังให้กลับมาในประเทศไทย หวังว่าเทศกาลนี้จะก้าวเดินต่อไป และช่วยสนับสนุนคอนเทนต์ของไทยก้าวไปสู่ระดับโลก ขอบคุณเนชั่นกรุ๊ปที่นำงานนี้กลับมาอีกครั้ง

 

ขณะที่ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญหลังจากห่างหายไป 5 ปี ที่ กทม.กลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง และภาพยนตร์ก็เป็นอุตสาหกรรม Soft Power ที่ทำให้คนอยากมาเมืองไทย ทำให้ประชาชนอยากมาจับจ่ายใช้สอย เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์มากมาย ซึ่ง กทม.ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงได้ตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อผลักดัน

 

 

ด้าน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เผยว่า เครือเนชั่นได้ริเริ่มเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯมาตั้งแต่ปี 1998 และถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่หลากหลาย เป็นตัวแทนความร่วมมือภาครัฐ ที่จะสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมต่อไป รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรมก็สนับสนุนทั้งเรื่องของผู้สร้างหนังคุณภาพ และทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยไปสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน