5 หนัง-การ์ตูน Timeline สั้น แต่ฉายยาวนาน
"โคนัน" เผยแพร่ต่อเนื่องนานถึง 29 ปี แต่ไทม์ไลน์เรื่องจริง ๆ เป็นเหตุการณ์แค่ 6 เดือนเท่านั้น! เปิดลิสต์ 5 ภาพยนตร์และการ์ตูนที่มีหลายภาค แต่ไทม์ไลน์ดำเนินเรื่องกลับใช้ระยะเวลาสั้นสวนทางกับเวลายาวนานเพื่อรอติดตามในแต่ละภาค แต่ละตอน
ภาพยนตร์และการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จ ได้กระแสตอบรับดี หากผู้สร้างหาช่องทางดำเนินเรื่องต่อไปได้มักจะสร้างภาคต่อ เพื่อสานต่อความประทับใจของผู้ชม และทำให้เรื่องราวสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยส่วนมากแล้ว “ภาคต่อ” เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากภาคแรก ซึ่งผู้สร้างไม่ได้บอกโดยตรงว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภาคต่อนั้นเกิดขึ้นห่างจากภาคแรกเท่าใด แต่ก็มีบางเรื่องที่บอกพออนุมานได้ว่าเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อไหร่
กว่าจะออกมาเป็นภาพยนตร์และการ์ตูนแต่ละเรื่อง มีกระบวนการดำเนินงานหลายขั้นตอน ตั้งแต่การวางโครงเรื่อง การเขียนบท ถ่ายทำ จะถึงตัดต่อเสร็จสมบูรณ์ ทำให้ใช้ระยะเวลาดำเนินงานค่อนข้างนาน ซึ่งพอออกฉายก็อาจทำให้คนลืมเนื้อเรื่องภาคก่อนไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ “ไทม์ไลน์ในเรื่อง” ใช้เวลาเพียงไม่นานจากภาคแรก ซึ่งจะมีเรื่องใดบ้างที่เข้าข่ายเกณฑ์นี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้รวบรวมไว้ให้แล้ว
1.Happy Death Day (2560-2562)
เริ่มต้นกันด้วย “Happy Death Day” (2560) หนังแนวฆาตกรโรคจิตไล่เชือดสไตล์อเมริกันยุค 90 แต่มีความพิเศษที่ให้ตัวละครหลักตายซ้ำตายซ้อน ตายจนกว่าจะหนีฆาตกรออกมาได้ ด้วยความแปลกใหม่ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งรายได้และคำวิจารณ์ จนต้องเข็นภาคต่อตามมาในอีก 2 ปีให้หลัง ในชื่อว่า “Happy Death Day 2U” (2562)
คราวนี้แหวกแนวออกมา กลายเป็นหนังไซไฟ ไม่ได้ไล่เชือดมากเท่าภาคแรก พูดถึงเรื่องควอนตัมและต่างมิติอีกด้วย โดยเรื่องราวในภาค 2 นั้นดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรกทันที ตัวละครยังคงติดลูปความตายเช่นเดิม
ในฉากเครดิตตอนจบ หรือ End Credit ของ Happy Death Day 2U มีการทิ้งท้ายภาคต่อเอาไว้ แต่ว่าภาค 2 ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นความหวังที่จะได้เห็นการตายวนลูปในภาค 3 ริบหรี่และอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเลย
2.Back to the Future (2528-2533)
หากพูดถึงภาพยนตร์เดินทางข้ามเวลาแล้ว ชื่อแรก ๆ ที่นึกถึง คงไม่พ้นภาพยนตร์ไตรภาค “Back to the Future” ภาพยนตร์สุดฮิตในยุค 80 แต่ละภาคเดินทางย้อนอดีตไปไกลถึงปี 1885 และเดินทางมาถึงโลกอนาคตปี 2015 ซึ่งห่างนับระยะเวลาที่เดินทางข้ามเวลาแล้ว ภาพยนตร์ชุดนี้ใช้เวลาไปถึง 130 ปี ขณะที่ในมุมมองของตัวละครหลักนั้นเวลาภายในเรื่องทั้งหมดดำเนินไปเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
แต่หากเส้นเวลาที่เกิดภายในเรื่องช่วงที่ไม่ได้เดินทางข้ามเวลานั้น จะใช้เวลาประมาณ 3 วันเท่านั้น โดยในซีนเปิดของภาคแรกระบุไว้ว่าเป็นเวลา 8.18 น. 25 ต.ค. 2528 และตอนจบของภาค 3 เป็นวันที่ 27 ต.ค. 2528
3.The Bourne (2545-2550)
“เจสัน บอร์น” (Jason Bourne) เป็นตัวละครสายลับในจักรวาลภาพยนตร์ชุด “The Bourne” ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกัน 5 ภาค โดยมีด้วยกัน 4 ภาคที่เล่าถึงตัวละครเจสัน ที่แสดงโดย “แมตต์ เดมอน” คือ The Bourne Identity (2545), The Bourne Supremacy (2547) The Bourne Ultimatum (2550) และ Jason Bourne (2559) ขณะที่ The Bourne Legacy (2555) นั้นเล่าถึงสายลับคนอื่นรับบทโดย “เจเรมี เรนเนอร์”
สำหรับภาพยนตร์ 3 เรื่องแรกที่ฉายในช่วง 2545-2550 นั้นใช้ระยะเวลาดำเนินเรื่องเพียง 18 เดือน หรือ 1 ปีครึ่งเท่านั้น ส่วน The Bourne Legacy ก็เล่าเรื่องต่อจากภาค 3 ทันที เพียงแต่ไปโฟกัสที่ตัวละครอื่นไม่ใช่เจสัน
4.John Wick (2557-2566)
แม้ว่า “John Wick” ภาพยนตร์แอคชันจัดเต็มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคปัจจุบัน ที่มีมาทั้งหมด 4 ภาคแล้ว โดยภาคแรกเข้าฉายตั้งแต่ปี 2557 สิริเวลารวมแล้ว 8 ปี แต่ไทม์ไลน์ในเรื่องทั้ง 4 ภาคนั้นใช้เวลาไม่ถึงปีด้วยช้ำ
ชาด สตาเฮลสกี้ ผู้กำกับของแฟรนไชส์ John Wick ให้สัมภาษณ์กับ เอาไว้ว่า Collider เว็บไซต์ข่าวสารในวงการบันเทิงไว้ว่า “เนื้อเรื่องของ 3 ภาคแรกเกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ หรือ สัปดาห์ครึ่งเท่านั้น แต่ในภาค 4 จะเป็นเรื่องราวในอีก 6 เดือนต่อมา ดังนั้นเรื่องราวในจักรวาลนี้เกิดขึ้นภายในหนึ่งปี หรืออาจจะราว ๆ 7-8 เดือนเท่านั้น”
5.ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (2537-ปัจจุบัน)
ปิดท้ายด้วยมหากาพย์ตามล่าชายชุดดำของคุโด้ ชินอิจิ จาก “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” ที่เริ่มตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนมังงะครั้งแรกในญี่ปุ่นปี 2537 และทำเป็นแอนิเมชันในปี 2539 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จากเดิมที่ “อาโอยามา โกโช” ตั้งใจจะเป็นให้เป็นการ์ตูนไม่กี่เล่มจบ กลับกลายเป็นการ์ตูนที่มีมังงะแล้ว 103 เล่ม มีแอนิเมชันทั้งหมด 1,079 ตอน และมีภาพยนตร์ทั้งหมด 26 ภาค
แม้ว่าเราจะได้เห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยีในยอดนักสืบจิ๋วโคนันตลอด 29 ปี ตั้งแต่สมัยตู้โทรศัพท์ โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือฝาพับ มาจนถึงสมาร์ทโฟน แต่ระยะเวลาดำเนินเรื่องของโคนันพึ่งผ่านมาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โคนันจะยังไม่ขึ้นป. 2
อย่างไรก็ตาม การตามหา “ชายชุดดำ” ที่เป็นเส้นเรื่องหลักได้ดำเนินมาไกล ขยับเข้าใกล้บทสรุปทุกที บอสขององค์กรชุดดำได้ปรากฏตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อย และค่อย ๆ เฉลยปมต่าง ๆ ที่ค้างคามานาน ถ้าไม่มีตัวละครใหม่หรือปมใหม่เข้ามาอีก เราคงได้เห็นตอนจบของโคนันอย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อใด นอกจากผู้แต่งที่เตรียมตอนจบไว้รอนานแล้ว
ที่มา: Collider, Inverse, Nerdist, Screenrant
กราฟิก: รัตนากร หัวเวียง