ย้อนรอย “ฟุตบอลโลกหญิง” จัดครั้งแรกปี 1991 พร้อมส่องเงินรางวัลได้เท่าไร?

ย้อนรอย “ฟุตบอลโลกหญิง” จัดครั้งแรกปี 1991 พร้อมส่องเงินรางวัลได้เท่าไร?

“ฟุตบอลโลกหญิง 2023” ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 9 แล้ว ชวนย้อนรอยประวัติศาสตร์ “ฟุตบอลโลกหญิง” กว่าจะได้จัดแข่งขันครั้งแรกในปี 1991 ก็ทิ้งห่างจากทัวร์นาเมนต์ของฟุตบอลโลกชายมานานถึง 61 ปี

Key Points:

  • “ฟุตบอลโลกหญิง 2023” ครั้งที่ 9 สื่อนอกรายงานว่า FIFA Women’s World Cup 2023 ครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนบอลอย่างล้นหลามโดยมีผู้ชมมากกว่าฟุตบอลโลกชายครั้งล่าสุดที่กาตาร์ด้วยซ้ำ
  • กว่า “ฟุตบอลโลกหญิง” จะได้รับการรับรองจาก FIFA ระยะเวลาก็ทิ้งห่างจากการจัดแข่งขัน “ฟุตบอลโลกชาย” มานานถึง 61 ปี แม้ว่าจะมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าผู้หญิงเล่นกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 
  • การแข่งขัน 8 ครั้งที่ผ่านมา ทีมชาติสหรัฐคว้าแชมป์ “ฟุตบอลโลกหญิง” ได้ถึง 4 สมัย ขณะที่การแข่งขัน “ฟุตบอลโลกหญิง 2023” มีการเพิ่มเงินรางวัลชนะเลิศสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์

เปิดม่านอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำหรับการแข่งขัน “ฟุตบอลโลกหญิง 2023” หรือ “FIFA Women’s World Cup 2023” โดยปีนี้เป็นปีที่ 9 และมีเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขัน 2 ประเทศ คือ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ส่วนตารางการแข่งขันกันจะยิงยาวไปจนถึงวันที่ 20 สิงหาคม รวมระยะเวลา 1 เดือนเต็ม 

สื่อทั่วโลกต่างรายงานว่า FIFA Women’s World Cup 2023 ครั้งล่าสุดนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนบอลอย่างล้นหลาม บรรยากาศของผู้ชมรอบๆ สนามแข่งขันเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้ชมมากกว่าฟุตบอลโลกชายครั้งล่าสุดที่กาตาร์ด้วยซ้ำ

ว่าแต่..ฟุตบอลโลกหญิงเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อไร? แตกต่างจากฟุตบอลโลกชายอย่างไร? และนี่คือ 10 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกหญิง และความน่าสนใจของการแข่งขันครั้งล่าสุดในปี 2023 

ย้อนรอย “ฟุตบอลโลกหญิง” จัดครั้งแรกปี 1991 พร้อมส่องเงินรางวัลได้เท่าไร?  ภาพจาก : fifawomensworldcup

1. ฟุตบอลหญิงมีมานานแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 (แข่งขันอย่างไม่เป็นทางการ)

กว่า “ฟุตบอลโลกหญิง” จะได้รับการรับรองจาก FIFA เป็นครั้งแรก ระยะเวลาก็ทิ้งห่างจากการจัดแข่งขัน “ฟุตบอลโลกชาย” ครั้งแรกมานานถึง 61 ปี หากย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1970 ฟุตบอลหญิงถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในกลุ่มประเทศยุโรป โดยสหพันธ์ฟุตบอลหญิงอิสระแห่งยุโรป (FIEFF) ในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี ได้จัดแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงอย่างไม่เป็นทางการขึ้นมา โดยมีทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 7 ประเทศ

ในครั้งนั้นทีมชาติเดนมาร์กเป็นผู้คว้าแชมป์มาครอง ในปีต่อมาสหพันธ์เดียวกันได้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงขึ้นอีกครั้งที่ประเทศเม็กซิโก และเดนมาร์กก็เอาชนะประเทศเจ้าภาพในรอบชิงชนะเลิศได้เป็นสมัยที่สอง ต่อมา FIEFF ก็งดจัดการแข่งขันไปในปี ค.ศ. 1972 แต่ลีกฟุตบอลหญิงยังคงดำเนินต่อไปในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษ 1980 ต่อมาในปี ค.ศ. 1986 ก็มีการเรียกร้องไปยัง FIFA ให้มีการส่งเสริมฟุตบอลหญิงให้มากขึ้น 

2. FIFA รับรอง “ฟุตบอลโลกหญิง” อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1991

ในขณะนั้น FIFA เองก็ยังไม่มั่นใจว่า “ฟุตบอลหญิง” จะได้รับความสนใจของแฟนกีฬาทั่วโลกหรือไม่ จึงขอให้มีการรวบรวมทีมนักกีฬาจากทั่วโลกให้มากกว่านี้ก่อน โดยในปี ค.ศ. 1988 มีการรวบรวมทีมแข่งขันมาได้ 12 ทีม ซึ่งมีทีมชาติฟุตบอลหญิงประเทศใหม่ๆ ให้ความสนใจ เช่น ทีมชาติจีน ทีมชาตินอร์เวย์ ทีมชาติสหรัฐ ฯลฯ 

ถัดมาในปี ค.ศ. 1991 FIFA ได้รับรองและอนุมัติให้จัดงานแข่งขันฟุตบอลหญิงโลกอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งมีประเทศจีนเป็นเจ้าภาพจัดงาน การแข่งขันครั้งนั้นได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการฟุตบอล เพราะมีแฟนบอลมาร่วมชมการแข่งขันตลอดทัวร์นาเมนต์มากกว่า 500,000 คน

โดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศ ทีมชาติสหรัฐเฉือนชนะทีมชาตินอร์เวย์ตาหน้าฝูงชนกว่า 65,000 คน ที่สนามกีฬาเทียนเหอ ในเมืองกวางโจว ยิ่งตอกย้ำถึงกระแสการตอบรับฟุตบอลโลกหญิงที่ดีมากๆ ขณะที่ João Havelange ประธานฟีฟ่าในขณะนั้น ได้พูดถึงการแข่งขันดังกล่าวไว้ด้วยว่า “ตอนนี้ฟุตบอลหญิงได้รับการยอมรับอย่างดีและเป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริง”

ย้อนรอย “ฟุตบอลโลกหญิง” จัดครั้งแรกปี 1991 พร้อมส่องเงินรางวัลได้เท่าไร?               ภาพจาก : fifawomensworldcup

3. ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันระหว่างนักฟุตบอลหญิงและชาย

หลังจากนั้นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลหญิงก็ดำเนินการต่อเนื่องมาทุกๆ 4 ปี แต่ระหว่างทางก็มีประเด็นเรื่องความไม่เท่าเทียมระหว่างนักฟุตบอลและนักฟุตบอลชายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดิการต่างๆ ค่าเดินทาง ชุดเครื่องแบบกีฬา อาหาร และที่พัก ก็ได้รับการดูแลที่ไม่ดีนัก เช่น 

  • ค่าตัวนักฟุตบอลทีมชาติหญิงน้อยกว่านักฟุตบอลชาย
  • นักฟุตบอลหญิงมักจะได้ที่พักเป็นอาคารรวม ไม่ได้พักในโรงแรมเหมือนนักฟุตบอลชาย
  • ชุดเครื่องแบบกีฬาได้รับชุดมือสองมาจากทีมนักกีฬาชาย
  • ฟุตบอลโลกหญิงไม่มีเงินรางวัลจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 2007

จากนั้นมีการเรียกร้องให้ทีมผู้จัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลสวัสดิการนักฟุตบอลหญิงมากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่นั้นมา อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากสมาคมฟุตบอล (The Football Association-FA) ในปี 2022 พบว่า ค่าเฉลี่ยรายได้ของนักเตะหญิงยังห่างจากค่าเฉลี่ยนักเตะชายอยู่ถึง 14%

4. ทีมชาติสหรัฐคว้าแชมป์ “ฟุตบอลโลกหญิง” ได้ถึง 4 สมัย

ตั้งแต่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงมาแล้ว 8 ครั้ง (ตั้งแต่ปี 1991 - 2019) พบว่าประเทศที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิงได้บ่อยที่สุด คือ ทีมชาติสหรัฐโดยคว้าแชมป์ได้ถึง 4 สมัย ย้อนกลับไปในการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงครั้งที่ 3 เมื่อปี 1999 ทีมชาติสหรัฐสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ในดินแดนบ้านเกิด โดยเอาชนะจีนไป 5-4 ประตูในการดวลจุดโทษระหว่างรอบชิงชนะเลิศ ที่สนามกีฬา Rose Bowl ในเมืองพาซาดีนา ต่อมาในการแข่งขันที่แคนาดาในปี 2015 และปี 2019 ทีมชาติสหรัฐก็คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ถึง 2 ปีติดต่อกัน

ย้อนรอย “ฟุตบอลโลกหญิง” จัดครั้งแรกปี 1991 พร้อมส่องเงินรางวัลได้เท่าไร?  ภาพจาก : fifawomensworldcup

5. นักฟุตบอลหญิงชาวบราซิล เป็นผู้ยิงประตูได้มากที่สุดใน “ฟุตบอลโลก” 

เห็นทีมชาติสหรัฐเป็นตัวเตงในการแข่งขัน “ฟุตบอลโลกหญิง” ที่ชนะมาได้หลายสมัยขนาดนี้ แต่รู้หรือไม่? ผู้ที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกกลับไม่ใช่นักกีฬาทีมชาติสหรัฐฯ (และไม่ใช่นักกีฬาทีมชาติผู้ชาย) แต่เป็นนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติบราซิลที่ชื่อ “Marta Vieira da Silva” ซึ่งเธอเป็นกองหน้าที่ทำประตูได้มากถึง 17 ประตู จากการแข่งขันฟุตบอลโลก 5 รายการระหว่างปี ค.ศ. 2007-2019 

6. นักฟุตบอลหญิงชาวไนจีเรีย เป็นนักฟุตบอลระดับโลกที่อายุน้อยที่สุด

หากพูดถึงนักฟุตบอลหญิงที่อายุน้อยที่สุด คงหนีไม่พ้น “Ifeanyi Chiejine” จากทีมชาติไนจีเรีย โดยเธอเปิดตัวครั้งแรกในการแข่งขันกับเกาหลีเหนือในสนาม FIFA Women's World Cup ในปี 1999 ด้วยวัยเพียง 16 ปี ในการแข่งขันครั้งนั้นเธอจึงถูกบันทึกว่าเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง ต่อมาเธอปรากฏตัวอีกสองครั้งในฟุตบอลโลกหญิงของปี 2003 และ 2007 ก่อนจะเลิกเล่นหลังโอลิมปิกปักกิ่งในปี  2008 ต่อมาเธอเสียชีวิตขณะที่มีอายุได้ 36 ปีในเดือนสิงหาคม 2019 เนื่องจากอาการป่วย

7. นักฟุตบอลหญิงอายุมากที่สุด คือ Miraildes Maciel Mota ด้วยวัย 41 ปี

ในขณะที่นักฟุตบอลหญิงที่อายุมากที่สุด คือ Miraildes Maciel Mota ทีมชาติบราซิล หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อ Formiga เธอถูกบันทึกว่าเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง โดยเธอลงแข่งขันครั้งแรกในขณะที่มีอายุได้ 41 ปี เธอสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักฟุตบอลหญิงเพียงคนเดียวที่ได้เข้าร่วม FIFA World Cup รวมทั้งสิ้น 7 ครั้ง โดยเริ่มจากทัวร์นาเมนต์ในปี 1995 จนถึงปี 2019 และเธอยังเป็นนักฟุตบอลหญิงคนแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 7 ครั้งอีกด้วย หลังจากนั้นเธอเกษียณอายุในปี ค.ศ. 2021

ย้อนรอย “ฟุตบอลโลกหญิง” จัดครั้งแรกปี 1991 พร้อมส่องเงินรางวัลได้เท่าไร?   ภาพจาก : fifawomensworldcup

8. เงินรางวัลชนะเลิศ FIFA Women’s World Cup 2023 สูงถึง 150 ล้านดอลลาร์

สำหรับทัวร์นาเมนต์ FIFA Women’s World Cup 2023 ครั้งล่าสุดนี้ มีงบประมาณมากถึง 435 ล้านดอลลาร์สำหรับการจัดการแข่งขันทั้งหมด และไม่เหมือนกับเวทีการแข่งขันครั้งก่อนๆ ที่มีงบประมาณให้ค่อนข้างน้อย ในการแข่งขันเวิลด์คัพปีนี้ นักกีฬาทีมชาติทุกประเทศจะได้เขาพักอย่างสะดวกสบายที่ค่ายพักแรมให้นักกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งตั้งอยู่ในในสองเมืองเจ้าภาพ ได้แก่ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ขณะที่ “เงินรางวัล” ของการแข่งขันครั้งนี้ ตั้งไว้ให้สูงถึง 150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเงินรางวัลรวม 30 ล้านดอลลาร์ใน FIFA Women’s World Cup  2019 (แม้ว่าจะยังเป็นเพียง 1 ใน 3 ของเงินรางวัลทั้งหมดที่จัดสรรสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกชาย)

9. FIFA Women's World Cup 2023 ทำสถิติเป็นกีฬาหญิงที่มีผู้ชมมากที่สุด

มีรายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (20 ก.ค.) ระบุว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงครั้งนี้ มีแฟนบอลมากกว่า 100,000 คน เข้าชมการแข่งขัน FIFA Women's World Cup 2023 ณ สนามกีฬาในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย และเมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ ทำสถิติกลายเป็นแมตช์กีฬาหญิงที่มีผู้ชมมากที่สุดสำหรับทั้งสองประเทศ

สำหรับสนามกีฬาเอเดนพาร์ก เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่ามีแฟนบอลมากกว่า 42,000 คน มาชมการแข่งขันดังกล่าว ถือเป็นฝูงชนที่ร่วมชมฟุตบอลมากที่สุดในประวัติศาสตร์นิวซีแลนด์ ขณะที่สนามกีฬาในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย โดยในเกมเปิดสนามวันแรก ณ 20 ก.ค.66 มีผู้เข้าชมการแข่งขันสูงสุดถึง 75,784 คน มากกว่าจำนวนผู้เข้าชมพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกชายในกาตาร์ (20 พ.ย.65) ที่มีผู้เข้าชมราว 67,000 คนเท่านั้น

ย้อนรอย “ฟุตบอลโลกหญิง” จัดครั้งแรกปี 1991 พร้อมส่องเงินรางวัลได้เท่าไร?                           ภาพจาก : fifawomensworldcup

10. เช็กตารางถ่ายทอดสด FIFA Women's World Cup 2023 

ตอนนี้เกมการแข่งขันได้เริ่มไปแล้ว 6 วัน โดยจัดแข่งขันแบบสลับไขว้กลุ่ม (A, B, C, D, E, F, G, H) ไปเรื่อยๆ วันละ 3-4 คู่ ซึ่งก็จะมีเวลาถ่ายทอดสดแตกต่างกันไป สำหรับคนไทยสามารถรับชมได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านเว็บไซต์ plus.fifa.com และผ่านแอปพลิเคชัน FIFA  ส่วนตารางการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2023 อัปเดตล่าสุด สามารถเช็กตารางได้ที่ : โปรแกรมตารางฟุตบอลโลกหญิง 2023 ทุกคู่ 32 ทีม 

ทั้งนี้ หากเจาะจงเฉพาะตารางการแข่งขันนัดสำคัญของ “ฟุตบอลโลกหญิง 2023” สามารถปักหมุดวันที่จะมีการถ่ายทอดสดรอบต่างๆ ดังนี้ 

  • รอบ 16 ทีมสุดท้าย : แข่งขันวันที่ 5-6-7-8 สิงหาคม 2566
  • รอบ 8 ทีมสุดท้าย : แข่งขันวันที่ 11-12 สิงหาคม 2566
  • รอบรองชนะเลิศ 4 ทีมสุดท้าย : แข่งขันวันที่ 15-16 สิงหาคม 2566
  • นัดชิงชนะเลิศอันดับที่ 3 : แข่งขันวันที่ 19 สิงหาคม 2566
  • นัดชิงชนะเลิศอันดับที่ 1 : แข่งขันวันที่ 20 สิงหาคม 2566

----------------------------------------------------------------

อ้างอิง : FIFA, TIME Magazine, NBC News