มุมตกผลึกในชีวิต'เพชร โอสถานุเคราะห์' : ธรรมะคือเรื่องธรรมดา

มุมตกผลึกในชีวิต'เพชร โอสถานุเคราะห์' : ธรรมะคือเรื่องธรรมดา

ชีวิตในมุมตกผลึก'เพชร โอสถานุเคราะห์' กับเรื่องราวเล็กๆ ของคนรักศิลปะ ผู้เข้าใจแก่นชีวิตและธรรมะ ลาโลกไปแล้วด้วยวัย 69 ปี(วันเกิด 21 ส.ค.2497 )

เพชร โอสถานุเคราะห์ เป็นทั้งศิลปิน นักบริหาร นักแต่งเพลง คนรักศิลปะ และนักสะสมภาพศิลปะ ผู้ชายคนนี้จากโลกนี้ไป เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ด้วยวัย 69 ปี(เกิด 21 สิงหาคม 2497) ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน

นอกจากมุมครีเอทีฟที่หลายคนกล่าวถึง ยังมีอีกมุมที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง นั่นก็คือ ความเข้าใจเรื่องชีวิตและแก่นธรรม 

หากใครเข้าไปอ่านในเฟซบุ๊ค Petch Osathanugrah จะสัมผัสได้ถึงความละเมียดละไมในการใช้ชีวิตและศิลปะ ผู้ชายที่ชอบถ่ายภาพท้องฟ้าเมื่อมีโอกาสในแต่ละวัน

 

มุมตกผลึกในชีวิต\'เพชร โอสถานุเคราะห์\' : ธรรมะคือเรื่องธรรมดา

ไม่ยึดติดอนาคต

นอกจากเป็นนักแต่งเพลง และทายาทโอสถสภา และผู้นำพาให้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างสรรค์สุดๆ รวมถึงอีกหลายอย่าง ซึ่งทั้งหมดคือเปลือกนอก   

ส่วนชีวิตทางธรรม เพชร เคยเล่าว่า เป็นคนที่สนใจธรรมะ แต่ธรรมะของเขาไม่ใช่การเข้าวัด สวดมนต์ แต่เป็นการใช้ชีวิตในปัจจุบันขณะ ไม่ยึดติดอดีตและอนาคต

"ทุกวันก่อนผมมาทำงาน เช่นตอนทานอาหารเช้า ผมก็พยายามปฎิบัติ ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่สามารถมาทำงาน และเจอเรื่องเครียดๆ ได้ทุกวัน แล้วการที่ผมทำแบบนี้ ก็เหมือนกับผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ทุกวัน มุมตกผลึกในชีวิต\'เพชร โอสถานุเคราะห์\' : ธรรมะคือเรื่องธรรมดา

 

 

มุมตกผลึกในชีวิต\'เพชร โอสถานุเคราะห์\' : ธรรมะคือเรื่องธรรมดา "ไม่จำเป็นต้องไปแบกภาระของอดีตเอาไว้ ในขณะเดียวกันผมเชื่อว่าคนเรานั้นสามารถเปลี่ยนแปลง และบริษัทก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อถ้าเราอยู่กับปัจจุบัน แต่มัวไปยึดติดอดีต ถ้าเราทำแบบนี้แล้ว เราจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนั้นได้ยังไง มันยาก แต่ถ้าเราไม่ยึดติดอดีต

จริงๆ มันก็ไม่ยากอย่างที่คิดหรอก ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้ยึดติดกับอนาคต ถ้าเราเชื่อว่า เรามีแผนที่ดีที่สุด มีกลยุทธ์ที่ดีที่สุด มีทีมงานที่ดีที่สุด มันจะเป็นยังไงเราก็ต้องยอมรับมัน และทุกอย่างก็ยังแก้ไขปรับเปลี่ยน ปรับปรุงได้ตลอด" จาก a day BULLETIN ปี 2016 

มีสติ ไม่หลงในอดีตและอนาคต เป็นเรื่องหนึ่งที่เพชรเคยพูดถึง แต่สิ่งที่ปรากฎก็คือ การผูกโยงชีวิตธรรมดาๆ กับงานครีเอทีฟที่ทำ 

ล่าสุดเขาโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ค  Petch Osathanugrah  เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ว่า ความเข้าใจผิดของผู้ปฏิบัติธรรม คือ การอยากมีสติตื่นได้นานๆ ซึ่งไม่จำเป็น เพราะชีวิตมีเพียงปัจจุบันขณะเท่านั้น 

"อนาคตไม่มีจริงนอกจากในความคิด ดังนั้นเราจึงมีสติแค่ในขณะนี้ก็พอ และเมื่อรู้ตัวว่าขาดสติ ก็กลับมามีสติใหม่ การรู้ตัวว่าขาดสติ แปลว่าสติได้กลับมาแล้ว ทำบ่อยๆ แบบนี้สติจะตื่นขึ้น จนเป็นสภาวะปกติในชีวิตประจำวันเอง

ไม่ต้องตั้งเป้าที่จะหลุดพ้นหรือบรรลุธรรมใดๆ เพราะการอยากหลุดพ้นหรือบรรลุธรรม ก็คือความคิดหรือกิเลสรูปแบบหนึ่งนั่นเอง 

และการที่คุณคิดว่า การมีสติมันเป็นเรื่องในอุดมคตินั่นแหละ คือการเข้าใจผิด ธรรมมีประโยชน์สำหรับมนุษย์ทุกคนที่วนเวียนอยู่ในกรรมและความทุกข์ ไม่ใช่แค่สำหรับพระสงฆ์องค์เจ้า 

สติ หรือ ธรรม คือเรื่องธรรมดา คือเส้นผมบังภูเขาที่มีและเกิดขึ้นได้ทุกขณะ เมื่อเราก้าวออกจากขบวนรถไฟแห่งความคิด โดยแค่รู้ตัวว่าเรากำลังตกอยู่ในความคิดเท่านั้น เราก็ได้ก้าวออกมาแล้ว! " 

..........

ภาพจากเฟซบุ๊ค Petch Osathanugrah