ชมความน่ารัก ขนุน ลูกสิงโตของกลาง หลังถูกย้ายมาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากฯ
ย้าย 'น้องขนุน' ลูกสิงโตของกลาง จ.ภูเก็ต มาดูแลที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากฯ จ.สุพรรณบุรี ตื่นเต้นได้เจอเพื่อนใหม่ชื่อ 'น้องขนม'
เมื่อวันที่ 20 ก.พ.67 ที่ผ่านมา นายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตวป่าบึงฉวาก เปิดเผยว่า ทีมสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ได้นำส่ง 'ลูกสิงโต' เพศเมีย จำนวน 1 ตัว ชื่อ 'ขนุน' หรือ 'น้องขนุน' อายุประมาณ 2-3 เดือน น้ำหนัก 7.3 กิโลกรัม ให้แก่ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เพื่อดูแล ซึ่งเป็นลูกสิงโตที่ถูกยึดมาจากหญิงชาวจีนในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เหตุพบว่าสถานที่เลี้ยงไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ และไม่เหมาะสมที่ออกใบอนุญาตให้เลี้ยงได้ เมื่อตรวจสอบไมโครชิปก็พบว่า ลูกสิงโตตัวดังกล่าวไม่มีไมโครชิป ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารหมายเลขไมโครชิปที่เจ้าของนำแสดงให้ตรวจสอบตอนแรกแต่อย่างใด
สพ.ญ.สลิลธร ทองสงวน นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กล่าวว่า เนื่องจากทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ไม่มีความพร้อมของสถานที่ในการดูแลลูกสิงโตของกลาง จึงส่งมายังศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก) จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากมีความพร้อมในสถานที่และทีมดูแล
นอกจากนี้ยังมี 'น้องขนม' ซึ่งเป็นสิงโตของกลางที่มีวัยใกล้เคียงกัน อายุประมาณ 2 เดือนครึ่ง ถูกอายัดมาจากร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 โดยทางเขตฯได้รับมาดูแลเมื่อวันที่ 14 ก.พ.67
สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก กล่าวเพิ่มเติมว่า สัตวแพทย์ประเมินสุขภาพร่างกายของลูกสิงโตโดยทั่วไป พบว่าปกติ ซึ่งจะต้องทำการประเมินสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะต้องทำการเจาะเก็บเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป
ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ได้เตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเลี้ยงลูกสิงโตของกลางตัวดังกล่าวไว้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกสิงโตจะต้องกินนมผง ชนิด KMR ทุก 2-3 ชั่วโมง และเริ่มให้กินเนื้อวัวสับละเอียดเล็กน้อยทุกวัน
ข้อมูลจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช