7 เครื่องดื่มคลายร้อนจาก 5 ร้านชื่อดัง ชิมครบทุกร้านที่ศูนย์สิริกิติ์

สภาพอากาศในเดือนเมษายน ชาวกรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับความร้อนแผดเผาขั้นสุด อยู่กลางแจ้งนานๆ ไม่ไหวต้องรีบหลบร้อนเข้าตัวอาคารให้ไว และจะยิ่งดีถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ มาช่วยดับร้อนในช่วงกลางวัน โดยเฉพาะหากใครเป็นคอกาแฟ ช็อกโกแลต และชาเขียว ที่ล้วนแต่เน้นคุณภาพเต็มแม็กซ์ ต้องไม่พลาดเมนูเครื่องดื่มรสชาติดีจากหลากหลายร้านชื่อดังที่ ‘ศูนย์สิริกิติ์’ แลนด์มาร์กใจกลางกรุงเทพฯ เหมาะกับการหนีร้อนมาพึ่งเย็นท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนแรงแบบนี้

จริงๆ แล้วภายในพื้นที่ของศูนย์สิริกิติ์มีร้านเครื่องดื่มให้เลือกชิมมากมายถึง 14 ร้าน แต่ในที่นี้ กรุงเทพธุรกิจ ขอชี้เป้าร้านเครื่องดื่มสุดฮิตจำนวน 5 ร้านกันก่อนก็แล้วกัน โดยแต่ละร้านก็มีเมนูเด็ด รวมถึงเมนูตามฤดูกาลเฉพาะของทางร้านที่อยากแนะนำกับนักชิมทุกคนให้ได้ลิ้มลองกัน ดังนี้ 

1. KanVela 

แบรนด์คราฟต์ช็อกโกแลตไทยจากเชียงใหม่กับคุณภาพของช็อกโกแลตที่คว้ารางวัลจากสองเวทีช็อกโกแลตระดับโลกอย่าง Academy of Chocolate และ International Chocolate Awards การันตีคุณภาพในการสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลาย พร้อมเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มที่เข้มข้น อร่อย หอมช็อกโกแลตขั้นสุด จากต้นทางที่เชียงใหม่สู่การเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่ศูนย์สิริกิติ์ เป็นร้านขนาดย่อมที่เน้นการตกแต่งด้วยไม้ให้บรรยากาศอบอุ่น โปร่ง โล่ง สบายตา นอกจากได้จิบเครื่องดื่มช็อกโกแลตแสนอร่อยแล้ว ยังได้ทอดอารมณ์ชมงานศิลป์ บริเวณ Gallery Walk ได้อีกด้วย 

สำหรับเมนูแนะนำของทางร้านก็คือ “Iced Dark Chocolate” รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นช็อกโกแลตแท้จากแหล่งปลูกโกโก้ ที่แม่แตง จ.เชียงใหม่ สูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร และนำไปหมักก่อน 7 วัน ก่อนเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นผงโกโก้พร้อมชง สนนราคาอยู่ที่ 140 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูขายดีอีกอย่างในซัมเมอร์นี้ก็คือ “KanVela Choco Soft Serve” ไอศกรีมเนื้อนุ่มรสช็อกโกแลตแท้เข้มข้น เสิร์ฟมาในโคนขนมปังกรุบกรอบแบบบิ๊กไซส์ สนนราคาอยู่ที่ 75 บาท

ในส่วนของยอดขายนั้นร้านนี้ก็ไม่ธรรมดา รวมๆ แล้วสามารถขายเครื่องดื่มทุกเมนูได้สูงสุดถึง 500 แก้วต่อวันในช่วงที่มีงานกิจกรรมในพื้นที่ ส่วนช่วงเวลาอื่นๆ ก็มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาซื้อหาผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตแท้จากทางร้านไม่ขาดสาย 

ราคาเครื่องดื่ม : 90 - 150 บาท
ยอดขายสูงสุดรวมทุกเมนู : 500 แก้วต่อวัน
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.

2. Pacamara 

ที่นี่เป็นร้าน Specialty coffee คุณภาพดีระดับพรีเมียมของไทย สำหรับคอกาแฟคงคุ้นเคยร้านนี้เป็นอย่างดี ด้วยการตกแต่งที่เรียบหรู มินิมอล ใช้กระจกใสหน้าร้านบานใหญ่ทำให้สะดุดตา มองเห็นโลโก้ร้านโดดเด่นตั้งแต่ไกล ซึ่งสาขานี้เปิดบริการมาได้เกือบจะ 2 ปีแล้ว ทั้งนี้ ทางร้านมีกาแฟให้เลือกชิมหลากหลายชนิด ทั้งแบบคั่วอ่อน คั่วกลาง ไปจนถึงคั่วเข้ม เลือกได้ตามใจชอบ

โดยเมล็ดกาแฟของทางร้านนั้น ผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถันโดย 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗥𝗼𝗮𝘀𝘁 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿 จากโรงคั่ว 𝗣𝗮𝗰𝗮𝗺𝗮𝗿𝗮 𝗖𝗼𝗳𝗳𝗲𝗲 𝗥𝗼𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀 โดยเฉพาะด้วยเครื่องคั่วคุณภาพระดับโลกอย่าง 𝗚𝗶𝗲𝘀𝗲𝗻 เพื่อให้ได้กลิ่นที่หอมหวานไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ทางร้านยังให้ลูกค้าสามารถลองเป็นบาริสต้าคัดสรรเมล็ดกาแฟที่เป็น Signature และลองชงได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งสามารถซื้อผลิตภัณท์ของทางร้านกลับไปทำกาแฟเองที่บ้านได้อีกด้วย สำหรับเมนูพิเศษของทางร้านมี 2 เมนูใหม่ภายใต้ธีม “Let’s Get Coconutty” ที่มีบริการเฉพาะช่วงซัมเมอร์นี้เท่านั้น (ระหว่างวันที่ 4 เมษายน - 16 มิถุนายน 2024) ได้แก่

Americano Colada 
กาแฟอเมริกาโนเย็นผสมน้ำช่อดอกมะพร้าว ท็อปด้านบนด้วยเนื้อมะพร้าวน้ำหอม เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะได้ความหอมหวานและรสชาติสดชื่นของน้ำช่อดอกมะพร้าว เข้ากันได้ดีกับเอสเพรสโซ่ช็อตจากเมล็ดกาแฟแบบ “คลาสสิก เบลนด์” จึงทำให้อเมริกาโนเย็นแก้วนี้ดื่มง่าย หอมสดชื่น และคลายร้อนได้อย่างดี

Coconut Candy Latte 
กาแฟ โคโคนัท ลาเต้ สูตรเฉพาะของพาคามารา โดยนำเอสเพรสโซช็อตจากคลาสสิก เบลนด์ มาผสมผสานเข้ากับความกลมกล่อมของ UFC Velvet น้ำนมมะพร้าว ผสมมะพร้าวน้ำหอม ท็อปด้านบนด้วยโคโคนัทครีมชีส เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน และครันชี่ พีนัท พราลีน เมื่อดื่มแล้วได้ความนุ่มกลมกล่อมแต่ไม่เลี่ยนเลย แถมหอมกลิ่นกาแฟอย่างชัดเจน

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะหากลูกค้าเลือกซื้อเครื่องดื่มอย่างใดย่างหนึ่งในสองเมนูนี้ ก็จะสามารถรับเมนู Namhom Coconut Cake เค้กมะพร้าวน้ำหอมครีมสดในราคาพิเศษเพียง 235 บาท โดยเป็นเค้กที่รสชาติกลมกล่อมหวานกำลังดี เนื้อเค้กนุ่มสลับกับครีมสดเป็นเลเยอร์ พร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อนแน่นๆ ท็อปด้านบน 

ราคาเครื่องดื่ม : 110 - 155 บาท (แต่เมนู Specialty coffee อาจราคาถึง 600 บาท)
ยอดขายสูงสุดรวมทุกเมนู : 400-500 แก้วต่อวัน
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.

3. Seven SUNS 

คอชาเขียวคงรู้จักร้าน Seven SUNS กันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือร้านชาเขียวพรีเมียมชื่อดังในไทยที่ได้รับการโหวตให้เป็นร้านชาเขียวที่ดีที่สุดในกรุงเทพ (Best Matcha Latte in Bangkok)” จากเว็บไซต์ Time Out สำหรับใครที่กำลังตามหารสชาติชาเขียวมัทฉะแท้ๆ ต้องแวะร้านนี้! โดยทางร้านใช้ผงชาเขียวจากเมืองอุจิ Uji ซึ่งเป็นเมืองปลูกชาคุณภาพดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยชาเขียวออร์แกนิกระดับพรีเมียม จึงให้รสชาติที่กลมกล่อม ไม่ขม กลิ่นหอม 

สำหรับเมนูแนะนำของทางร้าน หนีไม่พ้นเมนูที่โชว์ความพรีเมียมของชาเขียวได้โดดเด่นที่สุด นั่นก็คือเมนู “Signature Matcha” ใช้ผงชาเขียวมัทฉะรสชาติเข้มข้น สายพันธุ์ Hatsu Mukashi Uji ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ตีกับนมสดคุณภาพ และยังพิถีพิถันในการชงชาเสมือนต้นตำรับ ทำให้ได้กลิ่นความหอมของชาเขียวเต็มๆ อีกทั้งไม่ติดโทนสาหร่ายหรือมีความนัตตี้จนมากเกินไป จึงดื่มง่ายแต่ยังคงได้สัมผัสของชาเขียวมัทฉะเข้มข้นไปพร้อมๆ กัน 

ราคาเครื่องดื่ม : 100-185 บาท
ยอดขายสูงสุดรวมทุกเมนู : 200-300 แก้วต่อวัน
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.

4. LUGGaW (ลูกก๊อ)

เป็นร้านน้ำผลไม้ปั่นและน้ำผลไม้สกัดเย็นเพียงเจ้าเดียวในพื้นที่โซนนี้ แถมยังมีผลไม้สดๆ ส่งตรงจากสวน หั่นชิ้นพร้อมทานรวมถึงผลไม้ยำจำหน่ายอีกด้วย คัดสรรจากผลไม้คุณภาพตามคอนเซ็ปต์ของร้าน “ผลไม้ไทยจงเจริญ” รับประกันความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี สำหรับเมนูแนะนำของทางร้านมี 2 เมนูขายดี ได้แก่ 

ความสุขของวันนี้ 
เป็นน้ำผลไม้ประจำวัน 5 อย่างแยกกาก โดยทางร้านจะเลือกชนิดผลไม้ให้โดยที่ลูกค้าไม่ต้องลำบากเลือกเอง เสิร์ฟรสชาติที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน โดยจะเน้นการผสมผสานให้ได้รสชาติแบบอมเปรี้ยวอมหวาน หอม สดชื่นในทุกๆ แก้ว ยกตัวอย่างเช่น ชมพู สาลี่ แก้วมังกรขาว ฝรั่งแดง ส้ม เมื่อดื่มแล้วได้ความหอมหวานลงตัว อร่อยสดชื่น ช่วยดับร้อนได้ดี

หมวยอินเตอร์
เป็นฝรั่งสดปั่นใส่ผงบ๊วย ให้รสชาติเหมือนฝรั่งแช่บ๊วยแต่มีรสสัมผัสที่นุ่มนวลกว่า หวานน้อย ดื่มง่าย อร่อยสดชื่นด้วยฝรั่งสดๆ ช่วยคลายร้อนได้ดีอีกเช่นกัน

ราคาเครื่องดื่ม : 65 - 185 บาท
ยอดขายสูงสุดรวมทุกเมนู : 300 แก้วขึ้นไปต่อวัน
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.

5. Tim Hortons

ร้านกาแฟชื่อดังสัญชาติแคนาดา ที่มีบริการเครื่องดื่มทั้ง Coffee และ Non-Coffee ระดับพรีเมียม พร้อมขนม Signature อย่างโดนัทที่อบสดใหม่ในทุกวัน และยังมีเมนูอาหารอีกหลากหลายให้ได้ลองชิมกัน สำหรับการตกแต่งร้านจะใช้สีแดงและสีขาวเป็นหลัก ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อนที่ถูกจัดวางและออกแบบมาอย่างดี 

สำหรับเมนูแนะนำได้แก่ “Iced Latte” เครื่องดื่มกาแฟเข้มข้นผสมนม จากเมล็ดกาแฟ Premium Arabica 100% โดยเบลนเมล็ดกาแฟหลากหลายสัญชาติคือ บราซิล โคลัมเบีย กัวเตมาลา ฮอนดูรัส จนออกมาเป็นกาแฟที่หอมกล่อมกล่อมกำลังดี ไม่เข้มไม่อ่อนเกินไป ส่วนเมนูขนมที่โดดเด่นไม่แพ้กันเลยก็คือโดนัท Maple Dip หอมหวานลงตัว ยิ่งทานคู่กับกาแฟก็ยิ่งอร่อยเข้ากันสุดๆ 

ราคาเครื่องดื่ม : 90 - 185 บาท
ยอดขายสูงสุดรวมทุกเมนู : 250 - 300 แก้วต่อวัน
เปิดบริการ : 07.00 - 21.00 น.

เอาเป็นว่าใครหลงใหลเครื่องดื่มประเภทไหน ก็จัดไปตามสไตล์ความชอบของตัวเองได้เลย ทั้ง 5 ร้านข้างต้นพร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มคุณภาพสุดพรีเมียมถึงมือคุณ