เปลี่ยนผู้บริหารที่เก่งงานประจำให้เป็น "สุดยอดผู้นำ"

เปลี่ยนผู้บริหารที่เก่งงานประจำให้เป็น "สุดยอดผู้นำ"

ผู้บริหารจำนวนไม่น้อยเป็นผู้บริหารที่เก่ง ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้ดี แต่เมื่อเป็นงานที่ต้องคิดใหม่ ออกนอกกรอบเดิมที่คุ้นเคย กลับกลายเป็นผู้บริหารที่ไม่เก่งเหมือนเดิม

เนื่องจากผู้บริหารไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

1.ผู้บริหารที่เป็น Manager (ขอใช้คำว่าผู้จัดการ)

2.ผู้บริหารที่เป็น Leader (หรือผู้นำ) และ

3.ผู้บริหารที่ไม่เป็นทั้งผู้จัดการหรือผู้นำ (กลุ่มหลังนี้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารได้ ไม่ใช่เพราะความสามารถแต่เป็นเพราะสาเหตุอื่น)

“ผู้จัดการ” จะถนัดในการทำงานสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรับผิดชอบงานได้ดี โดยเฉพาะงานที่เป็นงานที่คุ้นเคย หรือ เคยทำมาก่อน รวมทั้งเป็นงานที่มีกรอบและแนวทางที่ชัดเจน Manager จะบริหารและนำลูกน้อง ภายใต้ระบบ กรอบ นโยบายต่างๆ ที่มีอยู่ และมุ่งเน้นการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติต่างๆ

ผู้บริหารเหล่านี้จะให้ความสำคัญกับความมั่นคง ไม่ชอบเสี่ยง สามารถปฏิบัติงานตามคำสั่งได้ดี และเน้นการทำงานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

“ผู้นำ” จะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มองภาพและตั้งเป้าในระยะยาว ทั้งในด้านของโอกาสและความเสี่ยง และพยายามกระตุ้นผู้อื่นให้ทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ผู้นำจะสร้างความไว้วางใจและจูงใจให้ทุกคนทำงานได้เกินสิ่งที่คาดหวัง ผู้นำจะเน้นการเปลี่ยนแปลง นวัตกรรม พร้อมและกล้าที่จะเสี่ยง เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้

ผู้จัดการและผู้นำต่างมีความสำคัญสำหรับองค์กร จะมีผู้นำแต่ขาดผู้จัดการ องค์กรก็จะมีแต่สิ่งใหม่ๆ และเน้นการเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างเดียว โดยขาดระเบียบ การกำกับดูแลที่ดีและขาดประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันถ้ามีแต่ผู้จัดการโดยขาดผู้นำ องค์กรจะทำในสิ่งเดิมๆ ที่คุ้นเคย ทำตามระบบ ระเบียบ กรอบที่กำหนดไว้ โดยขาดการเปลี่ยนแปลง

องค์กรที่ดีจะต้องมีส่วนผสมที่เหมาะสมระหว่างผู้นำและผู้จัดการ ผู้นำก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นวัตกรรม การเติบโตและการมองหาโอกาสใหม่ๆ ขณะที่ผู้จัดการเน้นเสถียรภาพและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าจะต้องมีสัดส่วนระหว่างผู้นำกับผู้จัดการเท่าไร ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งขนาด พัฒนาการขององค์กร รวมทั้งอุตสาหกรรมที่อยู่ด้วย

ถ้ามีผู้บริหารที่เป็นทั้งผู้จัดการและผู้นำในตัวคนเดียว จะถือว่าเป็นสุดยอดผู้บริหารที่สามารถปรับตนเองให้เป็นผู้จัดการและผู้นำได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ในการทำงานปกติ ก็จะเป็นผู้จัดการที่ดี แต่เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหรือมีความท้าทายใหม่ๆ ก็จะเปลี่ยนตนเองเป็นผู้นำที่พร้อมจะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่องค์กร

ความท้าทายที่หลายองค์กรเผชิญก็คือ การมีผู้บริหารที่เป็นผู้จัดการนั้นไม่ยาก แต่จะพัฒนาจากผู้จัดการให้เป็นผู้นำนั้นยากกว่า การจะพัฒนาผู้จัดการให้เป็นผู้นำจะต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแนวคิดหรือ Mindset ของผู้บริหารก่อน 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้คิดออกนอกกรอบในวิธีการทำงานเดิมๆ ที่คุ้นเคย จะต้องสามารถออกจากความคุ้นเคยเดิมๆ หรือ Comfort Zone ที่เป็นอยู่ นอกจากการปรับเปลี่ยน Mindset แล้ว ยังต้องพัฒนาทักษะที่ผู้นำต้องมี ไม่ว่าจะเป็น การคิดเชิงกลยุทธ์ การสื่อสารหรือนวัตกรรม ก็เป็นสิ่งที่ต้องพัฒนา

จากนั้นคือการมอบหมายงานที่มีความท้าทาย และเป็นงานที่ทำให้ผู้จัดการจำเป็นต้องคิดและทำงานออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ควรเป็นงานที่มีลักษณะเป็นข้ามสายงานหรือ Cross-Functional ที่ทำให้ได้คิดและมองเห็นภาพรวมมากขึ้นกว่าเดิม และตามด้วยกระบวนการ Coaching จากผู้นำตัวจริง เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้เรียนรู้และเห็นตัวอย่างของคนที่เป็นผู้นำ

สิ่งที่ต้องระวังคือผู้บริหารบางท่านเกิดมาเพื่อเป็นผู้จัดการ หรือ เป็นผู้นำ เพียงอย่างเดียว ยากที่จะปรับเปลี่ยนได้ ดังนั้น ต้องดูศักยภาพและความพร้อมของผู้บริหารก่อนว่าพร้อมที่จะได้รับการพัฒนาให้เป็นสุดยอดผู้บริหารที่เป็นทั้งผู้จัดการและผู้นำในตัวคนเดียวหรือไม่.