เทรนด์ใหม่ Gen Z แห่ทำงานสายอาชีพ ยุคไหนก็ไม่ตกงาน เงินเดือนสูงไม่แพ้ ป.ตรี

เทรนด์ใหม่ Gen Z แห่ทำงานสายอาชีพ ยุคไหนก็ไม่ตกงาน เงินเดือนสูงไม่แพ้ ป.ตรี

เทรนด์ใหม่ Gen Z แห่ทำงานสายอาชีพ จะยุคไหนก็ไม่มีตกงาน เงินเดือนเยอะไม่แพ้ ป.ตรี บางคนซื้อบ้านซื้อรถได้ตั้งแต่อายุ 24 ปี

KEY

POINTS

  • การเรียนมหาวิทยาลัยยังจำเป็นอยู่ไหม? เมื่อคนรุ่นใหม่ Gen Z มองว่า เรียนจบสูงไปก็อาจไม่มีงานทำ ขณะที่งานสายช่าง ยังเป็นที่ต้องการของตลาด แถมรายได้ดีมากขึ้นกว่ายุคก่อน
  • Gen Z ในสหรัฐหลายคนเลือกไม่เรียนต่อ ป.ตรี แต่หันไปทำงานสายอาชีพ บางคนเป็นช่างเครื่องยนต์ เก็บเงินซื้อบ้านซื้อรถได้ตั้งแต่อายุ 24 ปี
  • หนุ่มชาว Gen Z อีกคนเริ่มต้นจากการเป็นช่างตัดหญ้า แต่พัฒนาตัวเองจนทำธุรกิจจัดสวนได้ในที่สุด สร้างรายได้แตะหลักล้านตั้งแต่อายุ 23 ปี

เมื่อก่อน.. การเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ถือเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะการันตีว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะมีงานที่มั่นคง รายได้ดี แม้ว่าต้องแลกกับค่าเล่าเรียนที่ค่อนข้างแพงกว่าการเรียนสายอาชีพ แต่มายุคนี้กลับพบว่า ค่าเล่าเรียนระดับมหาวิทยาลัยพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จนทำให้บัณฑิตจบใหม่ต้องกลายเป็นหนี้การศึกษาตั้งแต่ยังไม่มีงานทำ

ประเด็นนี้จุดกระแสให้คนรุ่น Gen Z ต่างตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ ‘คุณค่าที่แท้จริงของการเรียนปริญญาตรี’ ซึ่งต้องใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 4 ปี ว่า มันสามารถตอบโจทย์ชีวิตของพวกเขาได้จริงไหม? คนรุ่นใหม่บางส่วนได้คำตอบแล้วว่า ไม่! พวกเขาเลยเลือกทำงานสายอาชีพ (Blue-collar) มากกว่างานนั่งโต๊ะในออฟฟิศ (White-collar)

ทำไม Gen Z ในสหรัฐ แห่ทำงานสายอาชีพมากกว่างานนั่งโต๊ะ?

มีสองสามปัจจัยที่ทำให้เทรนด์ทำงานสายอาชีพ มาแรงในหมู่คนรุ่นใหม่อเมริกันตอนนี้ อย่างแรกก็คือ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยให้ช่างทำงานได้ดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น งานช่างยุคใหม่จึงไม่ใช่งานที่เลอะเทอะ สกปรก หรือดูต่ำต้อยอีกต่อไป 

ข้อถัดมาคือ พวกเขาต้องเรียนรู้การใช้งานเครื่องมือเทคฯ ขั้นสูง เทคนิคการทำงานช่างสมัยใหม่ นั่นจึงทำให้พวกเขาได้เงินเดือนสูงขึ้นกว่าช่างสมัยก่อน และสุดท้ายคือ เกิดการขาดแคลนช่างฝีมือที่มีทักษะในสาขาต่างๆ เนื่องจากคนงานรุ่นเก่าเกษียณอายุลง จึงสร้างโอกาสให้แรงงานวัยหนุ่มสาวสามารถเข้ามาทำงานสายนี้ได้มากขึ้น

ข้อมูลของ Gusto บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์การจัดการเงินเดือน สวัสดิการ และทรัพยากรบุคคล ได้แชร์ผ่านสำนักข่าว CNBC Make it ระบุว่า งานสายอาชีพช่างที่กำลังเป็นที่ต้องการสูงในช่วงนี้ ได้แก่ ช่างไฟฟ้า ช่างประปา และช่างเครื่องยนต์ เห็นได้จากจำนวนแรงงานที่มีอายุระหว่าง 18 - 25 ปี เข้ามาทำงานในสายงานเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เปิดใจ ‘สาวช่างซ่อม’ ชาวอเมริกัน หาเงินซื้อบ้านซื้อรถได้ตั้งแต่อายุ 24 ปี

คริสต์ มอริลลอน (Crist Morillon) คือหนึ่งในคนรุ่น Gen Z ที่สร้างเนื้อสร้างตัวได้อย่างรวดเร็วจากงานสายอาชีพช่าง ปัจจุบันอายุ 27 ปี ทำงานเป็นช่างบริการที่บริษัทผลิตรถยนต์ Lucid Motors เธอเล่าว่างานนี้ช่วยให้เธอเก็บเงินได้เพียงพอที่จะซื้อบ้านหลังแรกของเธอตั้งแต่ตอยอายุ 24 ปี หรือสามปีที่แล้ว

ย้อนกลับไปในตอนที่มอริลลอนอายุได้ 16 ปี เธอตัดสินใจลงทะเบียนเรียนวิชาช่างซ่อมรถยนต์สมัยยังเรียนมัธยม ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นวิชาเลือกที่สนุกสนาน และไม่ได้คาดคิดว่าในอีก 10 ปีต่อมา มันจะกลายเป็นอาชีพที่ช่วยให้เธอซื้อบ้านหลังแรกได้ และมีอิสรภาพทางการเงิน

อีกทั้งเมื่อได้ลองเรียนวิชาช่างซ่อมเครื่องยนต์ เธอก็ตกหลุมรักทันที หลังเรียนจบระดับมัธยม เธอตัดสินใจว่าจะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่อยากเป็นช่างเทคนิคยานยนต์อย่างจริงจัง เธอบอกว่า “ฉันไม่อยากเสียเวลาอีกสี่ปีไปกับการเรียนมหาวิทยาลัย ฉันรู้แล้วว่าตัวเองอยากทำงานกับรถยนต์ และฉันไม่จำเป็นต้องจบปริญญาตรีเพื่อทำงานนี้”

หลังจากจบมัธยมเธอลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรอาชีวศึกษาอีก 1 ปีที่สถาบันเทคนิคสากลในเมืองเอวอนเดล รัฐแอริโซนา จบชั้นอนุปริญญาด้านการศึกษาวิชาชีพในสาขาเทคโนโลยียานยนต์ หลักสูตรดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายประมาณ 33,000 ดอลลาร์ แต่เธอได้รับทุนการศึกษา 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ นั่นแปลว่าเธอมีค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนเพียง 18,000 ดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเล่าเรียนระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกาถึงหนึ่งในสาม

หลังจากสำเร็จการศึกษาอนุปริญญาในปี 2017 เธอได้งานเป็นผู้ช่วยฝ่ายบริการที่ Tesla ทันที ภายในหนึ่งปีเธอก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นช่างบริการ มอริลลอนทำงานที่ Tesla เป็นเวลาประมาณสี่ปี ต่อมาในปี 2021 เธอได้ย้ายไปทำงานกับ Lucid Motors ซึ่งเธอยังคงทำงานอยู่ที่นั่นจนถึงปัจจุบัน เธอมีรายได้ประมาณ 78,000 ดอลลาร์ต่อปี

ตามข้อมูลของ ZipRecruiter แพลตฟอร์มหางานชื่อดัง ชี้ว่า โดยทั่วไปอาชีพช่างเทคนิคยานยนต์จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 57,000 ดอลลาร์ต่อปี แต่ถ้าเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ สามารถมีรายได้มากถึง 100,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเป็นระดับรายได้ที่คาดว่า มอริลลอน จะได้รับเมื่อเธออายุครบ 30 ปี

หนุ่มช่างตัดหญ้า-จัดสวน ทำรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ในวัย 23 ปี

ขณะที่ในเคสของ เชส กัลลาเกอร์ (Chase Gallagher) วัย 23 ปี เขาก็เป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อยอีกคนที่เลือกไม่เรียนต่อมาหวิทยาลัย แต่หันมาเริ่มทำงานสายอาชีพ และเข้าสู่วงการผู้ประกอบการทำธุรกิจตัดหญ้าจัดสวนเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อบริษัท CMG Landscaping ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งธุรกิจของเขาทำรายได้ต่อปีทะลุ 1 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว

เขาเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ว่า มันเริ่มจากการที่เขาไปช่วยตัดหญ้าให้เพื่อนบ้านตอนอายุ 12 ปี ตอนนั้นได้ค่าจ้างเดือนละ 35 ดอลลาร์ และภายในเวลา 4 ปี งานเสริมหลังเลิกเรียนนี้ก็ทำให้เขามีรายได้มากกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปี ขณะเดียวกัน ช่วงที่เขาใกล้จบ ม.ปลาย เขาก็เห็นว่ากลุ่มคนจบ ป.ตรี หางานทำยาก จึงเป็นเหตุผลให้ กัลลาเกอร์ ไม่เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย 

“ถ้าผมต้องจ่ายเงินค่าเทอมในมหาวิทยาลัย และยังต้องสูญเสียรายได้ (จากงานตัดหญ้า) ไปสี่ปี ผมไม่เห็นประโยชน์ของการทำมันเลย ในเมื่อผมสามารถสร้างธุรกิจและความมั่งคั่งได้ในตอนนี้ การไม่ไปเรียนมหาวิทยาลัย และใช้เวลาไปกับการลงทุนในธุรกิจแทน เป็นหนึ่งในการตัดสินใจชาญฉลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยทำ” กัลลาเกอร์ อธิบาย

ในปี 2018 กัลลาเกอร์ได้จ้างพนักงานกลุ่มแรกของเขา และเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ใกล้บ้านพ่อแม่ของเขาในราคา 300 ดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อเก็บเครื่องมือและรถกระบะของเขา หลังจากทำงานนี้ได้ 1 ปีกว่าๆ เขาก็ซื้อบ้านหลังแรกของเขาได้ ปัจจุบันธุรกิจจัดสวนของเขาทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 250,000 ดอลลาร์ต่อปี โดยบางฤดูกาลมักจะมีงานเข้ามาในบริษัทจำนวนมาก จนเขาต้องทำงานสัปดาห์ละ 80 ชั่วโมงเป็นประจำ

“ผมไม่เชื่อเลยว่าผมจะมีความมั่นคงทางการเงินได้แบบนี้ หากผมตัดสินใจเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตอนอายุ 18 ปี” กัลลาเกอร์กล่าว โดยเขาสังเกตว่าเขามีเพื่อนบางคนที่ใช้เงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และตอนนี้พวกเขากลับมีรายได้น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ 

หนุ่มช่างติดตั้งเครื่องกันพายุ สร้างความมั่งคั่งให้ตนเองได้ในวัย 22 ปี

อีกหนึ่งงานช่างทำเงินที่น่าสนใจก็คือ ช่างติดตั้งเครื่องกันพายุ โดย ไรอัน แดเนียลส์ (Ryan Daniels) เริ่มต้นอาชีพนี้มาตั้งแต่อายุ 16 ปี ก่อนที่จะก่อร่างสร้างธุรกิจนี้จริงจังภายใต้ชื่อบริษัท RHI Pressure Washing เจ้าตัวทำอาชีพนี้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้เขาอายุ 22 ปี ในปี 2023 บริษัทของเขามีรายได้ประมาณ 250,000 ดอลลาร์ 

แดเนียลส์เติบโตในเมืองเวลลิงตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในเขตที่มีความเสี่ยงสูงต่อพายุเฮอริเคน หลังจากสังเกตเห็นว่าพ่อแม่และเพื่อนๆ ของเขาต้องลำบากแค่ไหนในการติดตั้งเครื่องป้องกันพายุเฮอริเคนและการทำความสะอาดหน้าต่าง เขาก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ในที่สุด อาชีพนี้ทำให้เขามีเงินเก็บเพื่อการเกษียณถึง 400,000 ดอลลาร์ และเขามองว่าตนเองสามารถทำงานที่มีรายได้สูงได้โดยไม่ต้องเรียนมหาวิทยาลัย

“ผมไม่เคยรู้สึกหลงใหลกับการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเลย แต่ลองเข้าไปเรียนปีแรกเพียงแค่อยากทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่คาดหวังจากผม แต่เมื่อได้เข้าไปเรียนแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่อยากใช้เวลาสี่ปีทำในสิ่งที่ผมไม่ได้ทุ่มเทหรือเชื่อมั่น 100%” เขาอธิบาย

หลังจากนั้นเขาตัดสินใจออกจากวิทยาลัย และมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจ RHI Pressure Washing อย่างจริงจัง ปัจจุบันแดเนียลส์ทำงาน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่เขากำลังวางแผนจะลดชั่วโมงทำงานลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อเตรียมจะเกษียณอย่างเต็มที่ เขาบอกอีกว่า การเรียนรู้ทักษะการค้าขายหรือการทำธุรกิจ ถือเป็นหนทางที่รวดเร็วและมีศักยภาพในการสร้างรายได้สูง ช่วยให้เกษียณอายุก่อนกำหนดได้ อาชีพงานช่างสามารถกำหนดชั่วโมงการทำงานได้ดีกว่า บรรยากาศการแข่งขันน้อยกว่า และได้รับความพึงพอใจได้มากกว่าจากการทำงานด้วยมือของตัวเอง

ผมชอบความเหนื่อยล้าทางกายจากการทำงานด้วยมือ มากกว่าความเหนื่อยล้าทางจิตใจจากการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มตระหนักว่า เราสามารถมีความสุขและประสบความสำเร็จได้ทั้งสองทาง การเรียนจบมหาวิทยาลัยและหางานโดยใช้วุฒิ ป.ตรี ไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะกับทุกคน” เขาบอกในที่สุด