4 สัญญาณ หน่ายรัก - จบสัมพันธ์ | วรากรณ์ สามโกเศศ
วันนี้ขอให้ข้อมูลแก่คนวัยหนุ่มสาวเพื่อไม่ให้ปวดใจจนเกินไปจากเรื่องรักใคร่ ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีพลวัตที่ต้องการความใส่ใจและการดูแลอยู่ตลอดเวลา
เมื่อคนหนึ่งคนใดกำลังจะหลุดลอยไปมักมีสัญญาณที่ละเอียดอ่อนบางอย่างออกมาให้เห็น การมองเห็นสัญญาณเหล่านี้จะช่วยให้สามารถจัดการได้ทันเวลาตามความต้องการว่าจะเยียวยาความสัมพันธ์ หรือรีบเทเขาก่อนที่เขาจะเทเรา ลองดูกันว่าสัญญาณเหล่านี้มีอะไรบ้าง
สัญญาณแรก ความเฉยเมยไม่แยแส (apathy) จากคู่รักหรือคู่ชีวิต เป็นสัญญาณที่ชัดที่สุดของการเกิดขึ้นของการห่างไกลกันทางใจ ความเฉยชาเช่นนี้แสดงออกได้ในหลายลักษณะ เช่น ขาดความกระตือรือร้นในกิจกรรมที่เคยชอบทำร่วมกัน
หรือการหายไปของความห่วงใยกับสิ่งที่เคยเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เช่น เลิกใส่ใจดูแลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับชีวิตของคุณ เช่น ถามว่าวันที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง คิดอะไรและรู้สึกอะไรอยู่ ฯลฯ
ความเฉยเมยไม่แยแสเห็นได้จากปฏิกิริยาของคู่คุณที่มีต่อข้อขัดแย้ง เช่น เมื่อก่อนเคยคุยหรือเถียงกันอย่างมีอารมณ์ในบางเรื่องก็กลายเป็นการห่างเหินไม่เหมือนเดิม ก่อนเคยพยายามหาทางออกสำหรับปัญหาบางอย่างร่วมกัน บัดนี้ก็ขาดพลังนั้นไปโดยปล่อยให้มันเป็นไปอย่างไม่มีทางออก
ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดช่องว่างทางอารมณ์ในขณะที่ข้อขัดแย้งอาจพอกพูนขึ้นจนไม่มีทางออก และนำไปสู่การแยกตัวต่างคนต่างอยู่
สัญญาณที่สอง การถอยห่างทางกายภาพและอารมณ์ การเกิดระยะห่างทางกายภาพสังเกตได้ง่ายจากมีการสัมผัสน้อยลง (การกอด สัมผัส และความใกล้ชิดกันทางกาย) แต่ระยะห่างทางอารมณ์นั้นสังเกตได้ยากกว่า เช่น พูดคุยกันน้อยลง พูดคำตอบคำ หรือไม่เริ่มการพูดคุยก่อน ไม่เต็มใจที่จะแชร์ความคิดหรือความรู้สึกกัน ฯลฯ
เมื่อก่อนมีการสื่อสารกันอย่างเปิดเผย แต่ปัจจุบันดูเหมือนมีกำแพงความเงียบมาขวางกั้น พูดคุยกันแต่เรื่องพื้นๆ ที่ไม่มีความหมาย ฯลฯ อาการต่างๆ เช่นนี้ของคู่คุณเป็นสัญญาณบอกว่ามีความพยายามที่จะถอยห่างออกไปทางอารมณ์เกิดขึ้นแล้ว
สัญญาณที่สาม ความหงุดหงิดโมโหง่าย และเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ อีกสัญญาณของการ “หน่ายรัก” และหนีหายไปจากชีวิตของคุณก็คือการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของความหงุดหงิดโมโหง่าย สิ่งนี้โดยปกติมักเกิดขึ้นกับทุกคนเมื่อไม่สบอารมณ์กับบางสิ่ง แต่เมื่อเรื่องเล็กๆ ที่เมื่อก่อนเพียงทำให้หงุดหงิดกลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นอีกสัญญาณสำคัญที่ควรจับตามอง
ความหงุดหงิดแสดงออกในรูปของการใช้คำพูดที่ดุและห้วน โมโหง่าย มีทางโน้มที่จะหาเรื่องทะเลาะในเรื่องเล็กๆ คล้ายกับว่าคู่ของคุณพยายามมองหาเหตุผลในการสร้างระยะห่างหรือต่อสู้กับความขัดแย้งภายในใจ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้เกิดบรรยากาศที่ตึงเครียด ต้องระวังทุกคำพูดและการกระทำเพราะสามารถเกิดเป็นเรื่องขึ้นได้ทั้งนั้น
สัญญาณที่สี่ การขาดการวางแผนในอนาคต เมื่อวันพรุ่งนี้มิใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป ความสัมพันธ์ที่ดีมักเกี่ยวพันกับการวางแผนเพื่ออนาคต ไม่ว่าจะเป็น การไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุดยาว ครั้งหน้า หรือซื้อของมูลค่าสูง เช่น รถยนต์ หรือบ้าน เมื่อคู่ของคุณไม่พูดเรื่องเหล่านี้ มันเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าเขาไม่ปรารถนาลงทุนเพื่อความสัมพันธ์ของทั้งสองในระยะยาวอีกต่อไป
การไม่วางแผนอนาคตอาจมาในหลายรูปแบบ เช่น ไม่สนใจตอบรับแผนการเที่ยว ลังเลที่จะมีแผน ไม่แยแสกับเป้าหมายที่เคยมีร่วมกัน หลีกเลี่ยงการพูดถึงอนาคตจนทำให้คุณไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์จะเดินต่อไปอย่างไร การที่คนหนึ่งพยายามห่างจากการวางแผนอนาคต ก็มักมีสาเหตุจากความไม่แน่ใจเกี่ยวกับชีวิตของความสัมพันธ์
กล่าวโดยสรุปว่า การตระหนักถึงการปรากฏตัวของสัญญาณ “หน่ายรัก” เหล่านี้จะช่วยให้รีบแก้ไขปรับปรุงความสัมพันธ์ก่อนที่จะสายเกินไปสัญญาณแรกของความเฉยเมยไม่แยแส และสัญญาณที่สองของการเกิดระยะห่างเป็นสัญญาณชัดที่ควรใส่ใจ
และหากประกอบไปกับสัญญาณที่สามของความหงุดหงิดโมโหง่าย และสัญญาณที่สี่ของการขาดการวางแผน ก็ถือได้ว่าเกิดไฟแดงกระพริบขึ้นแล้วในความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนสองคนนั้น เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายที่จะแชร์ชีวิตร่วมกัน มิได้เกิดขึ้นจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหลัก โดยอีกฝ่ายต้องเป็น “ฝ่ายง้อ” ความรู้สึก “หน่ายรัก” ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถเกิดขึ้นได้
โดยเริ่มจากความรู้สึกชั่วคราวก่อนที่จะกลายเป็นความรู้สึกถาวร การแก้ไขต้องเกิดขึ้นระหว่างสองชั่วเวลานี้ ด้วยการร่วมมือกันหากปรารถนาจะรักษาความสัมพันธ์นั้นต่อไป
ข้อเตือนใจหนึ่งก็คือ อย่าผลีผลามด่วนคิดว่าได้เห็นสัญญาณ “หน่ายรัก” เหล่านี้ชัดแจ้งแล้ว ควรสังเกตอย่างรอบคอบเเละใช้เวลา บางสัญญาณอาจเกิดจากความเครียดจากงาน หรือความเจ็บป่วยก็เป็นได้
ผู้เขียนมีประสบการณ์เกี่ยวกับความรักจำกัด จึงมิได้เขียนเรื่องสัญญาณเหล่านี้จากสิ่งที่พบมาในอดีตเเละการใช้ปัญญาพิจารณา หากนำมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา Dr.Jeffrey Bernstein, “ When Love Fades : 4 Signs Your Partner Is Slipping Away ”, Psychology Today, August 21, 2024