ซีอีโอ 87% เชื่อ AI มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง 'ทิม คุก' ใช้มันจัดการอีเมล
Tim Cook และ Mark Cuban ยอมรับว่า AI ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ มันเข้ามาเปลี่ยนชีวิตการทำงานของพวกเขาให้ง่ายขึ้น ขณะที่ผลสำรวจชี้ ซีอีโอ 87% เชื่อว่า AI มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง
KEY
POINTS
- ผลสำรวจล่าสุดของ Gartner พบว่า ซีอีโอ 87% เชื่อว่าประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมากกว่าความเสี่ยง ผู้นำระดับโลกหลายคนใช้งานมันเป็นกิจวัตร
- “ทิม คุก” ซีอีโอ Apple เคยต้องเสียเวลาเช็กอีเมลมากถึง 800 ฉบับต่อวัน ต่อมาเขาใช้ Apple Intelligence เข้ามาช่วยจัดการอีเมลให้เร็วขึ้น
- มาร์ค คิวบาน ใช้ฟีเจอร์ “ตัวช่วยตอบกลับอีเมลของ Gemini” ใน Gmail มันช่วยจัดลำดับความสำคัญอีเมลต่างๆ ในกล่องจดหมายของเขาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่าง AI ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกการทำงานในทุกระดับ แม้แต่คนทำงานผู้บริหารระดับสูงอย่าง “ผู้นำ” หรือ “ซีอีโอ” ก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันในการทำงานเช่นกัน
ไม่นานมานี้สำนักข่าว CNBC รายงานอ้างผลสำรวจล่าสุดของ Gartner ที่พบว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่ต่างยอมรับถึงศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ โดย 3 ใน 4 (75%) ของซีอีโอกลุ่มตัวอย่างยอมรับว่าตนเองได้ทดลองใช้ ChatGPT
ขณะเดียวกัน ซีอีโอ 44% บอกว่าได้นำ AI มาใช้ในการทำงานของตนเอง และ ซีอีโอ 87% เชื่อว่าประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมากกว่าความเสี่ยง ซึ่งปัจจุบันผู้นำธุรกิจระดับโลกหลายคนหันมาใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาความรำคาญใจที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน อย่างเช่น นำมาช่วยสรุปหรือช่วยตอบอีเมลอันยุ่งเหยิงวุ่นวายในแต่ละวัน
ทิม คุก ใช้ Apple Intelligence มาช่วยสรุปข้อมูลในอีเมล
ยกตัวอย่างเช่น “ทิม คุก” (Tim Cook) ซีอีโอของ Apple หลังจากตื่นนอนในตอนเช้าเวลา 4.00 - 5.00 น. กิจวัตรการทำงานของเขาเริ่มด้วยการเปิดมือถือ iPhone เพื่อเช็กอีเมลที่มาใหม่และดูรายงานสรุปยอดขายของเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งการเช็กอีเมลจำนวนมากถึง 800 ฉบับในแต่ละวัน ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างมาก
ทิม คุก ในวัย 64 ปี บอกว่าในฐานะผู้นำองค์กร เขาต้องอ่านอีเมลทุกฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอีเมลเกี่ยวกับข้อเสนอแนะจากลูกค้าของ Apple เขาบอกกับนิตยสาร Wall Street Journal ว่า การเช็กอีเมลจำนวนมากทุกวันเป็นงานที่น่าท้อใจ ต่อมาเขาค้นพบวิธีใหม่ในการจัดการงานตรงนี้ นั่นคือการนำ AI มาช่วยจัดการเพื่อประหยัดเวลาได้มากขึ้น
โดย AI ที่เขาใช้ก็คือ Apple Intelligence ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัท Apple เมื่อเปิดใช้งาน Apple Intelligence ระบบจะแสดงข้อมูลสรุปสั้นๆ ปรากฏที่ใต้อีเมลของคุณใน "แอป Mail ของไอโฟน" โดยอัตโนมัติ ช่วยให้เขาอ่านเนื้อหาจบไวและเคลียร์อีเมลในถังได้เร็วขึ้น
“ถ้าผมสามารถประหยัดเวลาจากงานจุกจิกบางอย่างได้บ้างทีละเล็กทีละน้อย เมื่อเอาเวลาเหล่านั้นมารวมกันแล้ว อาจทำให้เราสามารถมีเวลาว่างได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจจะเพิ่มเวลาว่างให้เราได้หนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือนเลยทีเดียว สิ่งนี้มันเปลี่ยนชีวิตของผมไปจริงๆ ” ทิม คุก อธิบายถึงประโยชน์ของ AI ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพการทำงานของเขาให้ดีขึ้น
มาร์ค คิวบาน ใช้ “ตัวช่วยตอบกลับอีเมลของ Gemini” เพื่อตอบอีเมลพร้อมกันได้หลายฉบับ
ในทำนองเดียวกัน “มาร์ค คิวบาน” (Mark Cuban) มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังจาก Shark Tank ซึ่งเคยเป็นผู้นำองค์กรธุรกิจหลากหลายประเภท ทั้งธุรกิจด้านเทคโนโลยี, บริษัทสตรีมมิ่งการแข่งขันกีฬา, ผู้บริหารทีมบาสเกตบอล ฯลฯ เขาเองก็ยอมรับว่า AI มีประโยชน์มาก และเขาใช้เครื่องมือ AI เข้ามาจัดการกล่องจดหมายของเขาเช่นกัน โดยเลือกใช้ Gemini ผู้ช่วย AI สร้างสรรค์ของ Google
นักธุรกิจและนักลงทุนพันล้านวัย 66 ปีคนนี้ เคยให้สัมภาษณ์กับ CNBC Make It ในงานประกาศความร่วมมือด้าน AI กับ Google ไว้ว่า การทำงานของเขาแต่ละวันนั้น เขาได้รับอีเมลเป็นจำนวนหลายพันฉบับต่อวัน ซึ่งหลายฉบับก็เป็นการถามข้อมูลเรื่องเดิมๆ ซ้ำซาก
เขาเริ่มใช้ฟีเจอร์ “ตัวช่วยตอบกลับอีเมลของ Gemini” ซึ่งมันทำงานในกล่องจดหมาย Gmail ได้ทันที (ฟีเจอร์นี้เพิ่มเปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนก่อน) มันเข้ามาช่วยจัดลำดับความสำคัญอีเมลต่างๆ ในกล่องจดหมายของเขาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เขาถึงกับเรียกฟีเจอร์นี้ว่าเป็น “แฮ็กประหยัดเวลาขั้นสุดยอด”
“มันช่วยลดเวลาในการเขียนตอบกลับอีเมล ด้วยชุดคำตอบแบบเดิมๆ จากที่เคยใช้เวลาอย่างมากในการตอบอีเมลทีละฉบับ แต่ตอนนี้ผมสามารถใช้เวลาแค่ 30 วินาทีในการประเมินข้อความที่จะใช้เขียนตอบกลับ แล้วกด ‘ส่ง’ ข้อความนั้น ไปยังอีเมลหลายๆ ฉบับได้รวดเดียว แทนที่จะต้องพิมพ์เองทั้งหมด” คิวบาน อธิบาย
ด้วย AI ที่ช่วยจัดการการตอบกลับอีเมลของเขา คิวบานบอกว่าเขาใช้เวลาน้อยลงในการเช็กอีเมล ทำให้มีเวลาให้กับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ซึ่งช่วยให้เขาเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น
นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้ชาวคิวบานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในชีวิตส่วนตัวของเขาด้วย โดยเขาเริ่มใช้เครื่องมือ AI มาช่วยแก้ไขการสะกดคำและไวยากรณ์ในการบ้านของลูกๆ ซึ่งเขาบอกว่าจุดนี้มันช่วยเขาได้มากในฐานะพ่อแม่ ขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้เขาตรวจสอบว่าเด็กๆ ไม่ได้ใช้ AI ในการเขียนรายงาน