การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย

การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย

“บาเลนเซียกา” แบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สุดแปลก ที่บางครั้งก็ไม่เข้าใจว่าทำขึ้นมาเพื่ออะไรแถมยังโดนสังคมวิจารณ์ในแง่ลบ แต่แท้จริงอาจเป็นหนึ่งในแผนการตลาดที่จะคอยสร้างกระแสให้กับแบรนด์อยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อของชิ้นนั้นกลายเป็น “ไวรัล”

สร้อยข้อมือสก็อตเทป กระโปรงผ้าขนหนู รองเท้าผ้าใบขาดวิ่นสุดเซอร์ กระเป๋าถุงขยะ และกระเป๋าถือรูปถุงมันฝรั่งทอดยี่ห้อเลย์ อาจดูเหมือนสิ่งของทั่วไปที่แทบไม่มีราคา แต่ไม่ใช่กับแบรนด์หรูอย่าง “Balenciaga” หรือ บาเลนเซียกา เพราะสินค้าเหล่านี้บางชิ้นมีราคาสูงถึง 4,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 135,085 บาท ตามค่าเงิน ณ วันที่ 10 ธ.ค. 2024

แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นก็คือไม่ว่า “บาเลนเซียกา” จะผลิตสินค้าหน้าตาประหลาดแค่ไหนออกมาขายในราคาสูงลิ่วก็ยังมีคนซื้ออยู่ดี แม้แต่ ไมเคิล แชนนอน (Michael Shannon) นักแสดงชาวอเมริกันก็ถือ “กระเป๋าถุงมันฝรั่งทอด” ของบาเลนเซียกาเดินพรมแดงเข้างาน Met Gala 2024 มาแล้ว และเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากเพราะกระเป๋าใบดังกล่าวเหมือนกับถุงขนมทุกประการ จนเรียกได้ว่าถ้าเผลอหยิบไปทิ้งขยะก็คงไม่น่าแปลกใจมากนัก และที่สำคัญมันมีราคาสูงถึง 1,832 ดอลลาร์ (ประมาณ 62,443 บาท) ซึ่งกระเป๋าถุงมันฝรั่งทอดมีด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเหลือง รสชีสและหัวหอม, สีฟ้ารสเกลือและน้ำส้มสายชู และสีแดงรสพริกเผ็ดแบบตะโกน มาพร้อมโลโก้แบรนด์แบบเด่นๆ

การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย

เครดิตภาพ ndtv

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมสินค้าของแบรนด์ถึงหน้าตาประหลาดและแทบจะไม่มีอะไรที่แสดงออกถึงความหรูหราเลย แต่แท้จริงแล้วนี่อาจเป็นสิ่งสำคัญของ “บาเลนเซียกา” ในการทำการตลาดก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะออกสินค้าลักษณะนี้มาเมื่อไร ก็จะกลายเป็นไวรัลในทันที ไม่ว่าคุณจะชอบหรือเกลียดมันก็ตาม กรุงเทพธุรกิจจะขอยกตัวอย่างสินค้าบางส่วนที่เห็นแล้วอาจมีคำถามในใจว่าทำมาทำไม หรือ ซื้อไปทำไม ?

สินค้าหน้าตาแปลกๆ ของ “บาเลนเซียกา” เริ่มปรากฏต่อสายตาชาวโลกในช่วงปี 2022 (อาจมีมาก่อนหน้านี้แต่ยังไม่โด่งดังมากนัก)

1. Paris Sneaker รองเท้าผ้าใบสภาพยับเยินขาดวิ่นที่ดูสึกหรอจนเหมือนใช้งานไม่ได้ ถ้าหากจะมีคนเข้าใจผิดว่าเป็นขยะแล้วหยิบไปทิ้งก็คงไม่แปลก แต่รองเท้ารุ่นนี้ผลิตจากผ้า Cotton 100% และยางที่ผลิตในจีน ที่สำคัญเท้ารุ่นนี้ผลิตออกมาเพียงแค่ 100 คู่เท่านั้น ในราคาเริ่มต้น 495 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,000 บาท) การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย

Paris Sneaker

2. Trash Pouch กระเป๋าขนาดใหญ่ผลิตจากหนังลูกวัวผลิตในอิตาลี มีหูหิ้วสองข้าง ที่พยายามออกแบบมาอย่างเต็มให้ดูเหมือน “ถุงขยะสีดำ” แบบธรรมดาๆ มากที่สุด แต่มีราคาสูงถึง 1,790 ดอลลาร์ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ก่อนที่จะออกสีอื่นๆ ตามมา โดยข้อมูลจาก jumpstart mag ตั้งข้อสังเกตว่า การขายถุงขยะเป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่อาจมีเรื่องที่ประหลาดกว่านั้น “การประดิษฐ์ถุงขยะขึ้นมาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะนั้น ไม่แน่ใจว่า Balenciaga พยายามจะสื่ออะไรหรือเปล่า”

แม้ว่า “Trash Pouch” จะมีหน้าตาคล้ายถุงขยะแทบทุกประการ แต่สำหรับบางคนที่ซื้อไปก็เรียกมันว่า “ถุงขยะที่แพงที่สุดในโลก” แต่ชาวเน็ตบางคนก็โพสต์ติดตลกว่า “ใครก็ตามที่ซื้อถุงนี้ไป ควรจะโยนทิ้งในถุงใบนี้ไปซะ”

การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย

Trash Pouch

3. Lay's x Balenciaga Potato Chip Bag Clutch เป็นการร่วมงานกันระหว่าง บาเลนเซียกา และแบรนด์ขนมชื่อดัง “เลย์” โดยกระเป๋ารุ่นนี้เป็นผลงานการออกแบบของ ซานติเอโก เซียรา (Santiago Sierra) ศิลปินชาวสเปน แน่นอนว่ากระเป๋าใบดังกล่าวกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดตัวเป็นทางการในงาน “The Mud Show” ประจำฤดูร้อนปี 2023

สำหรับราคาของถุงเลย์บาเลนเซียกาอยู่ที่ 1,832 ดอลลาร์ และเมื่อ “ไมเคิล แชนนอน” นำไปถือเดินพรมแดงกระแสของกระเป๋าใบนี้ก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นจนขายหมดอย่างรวดเร็วในจีนตั้งแต่ช่วงพรีออเดอร์ แม้ว่าบางส่วนจะมองว่าดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรก็ตาม กระเป๋าใบนี้หน้าตาเหมือนกับถุงเลย์ทุกประการ แม้แต่การบอกส่วนประกอบของขนมและจำนวนแคลอรี (110 แคลอรี) ต่างกันก็แค่มีชื่อของบาเลนเซียกาสกรีนอยู่ด้วย

การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย

Potato Chip Bag Clutch

4. Balenciaga Tape bracelet ส่วนหนึ่งของคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2024 ได้เปิดตัว “เครื่องประดับ” ที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงขึ้นอย่างรวดเร็วว่านี้คือการล้อเล่นหรือไม่ ? ข้อมูลจาก Independent รายงานว่าแบรนด์นิยามว่าสร้อยข้อมือนี้เปรียบเสมือน “สุนทรียศาสตร์ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง” ของคอลเลกชันนี้ แม้สร้อยดดังกล่าวจะมีลักษณะเหมือนม้วนเทปใสธรรมดา แต่ก็ยังมีโลโก้ของบาเลนเซียกาประทับอยู่ โดยสร้อยข้อมือนี้มีราคาสูงถึง 4,000 ดอลลาร์ หรือประมาณแสนกว่าบาท

แน่นอนว่าความเห็นเกี่ยวกับสร้อยข้อมือดังกล่าวแตกออกเป็นสองฝั่งบางส่วนก็มองว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ธรรมดา แต่บางส่วนก็มองว่าไม่ใช่เรื่องเหมาะสมเท่าไรนักที่แบรนด์นำสิ่งของที่ดูธรรมดาเกินไปมาทำเป็นเครื่องประดับราคาแพงจนกลายเป็นเรื่องตลก แถมบางคนยังวิจารณ์ว่า หรือเพราะคนรวยอยากจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนจน ? แต่ไม่ว่าคนจะเกลียดหรือชอบสร้อยข้อมือรุ่นนี้ยังไง แบรนด์ก็ได้ประโยชน์จากการที่มันกลายเป็น “ไวรัล” ไปแล้วเรียบร้อย

การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย Tape bracelet เครดิตภาพ scmp

5. Towel skirt คือสินค้าที่เรียกเสียงฮือฮาและกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากคนในวงการแฟชั่นและคนทั่วไปได้ไม่น้อย เพราะสินค้านั้นมีหน้าตาเหมือนกับชื่อเป๊ะๆ นั่นก็คือ “ผ้าเช็ดตัว” แต่มันไม่ใช่ผ้าเช็ดตัวธรรมดา เพราะเป็นกระโปรงที่เป็นผ้าเช็ดตัว (หรือผ้าขนหนู) นั่นเอง

กระโปรงสุดประหลาดรุ่นนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานแสดงแฟชั่นโชว์ฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ณ กรุงปารีส ทำจากผ้าเทอร์รีคอตตอนซึ่งดูเหมือนผ้าขนหนู อย่างไรก็ตามกระโปรงตัวนี้ (หรือผืนนี้) แตกต่างจากผ้าขนหนูทั่วไปตรงที่มีกระดุมสองเม็ดอยู่ด้านในเอว เพื่อช่วยให้ไม่หลุดง่ายเวลาสวมใส ส่วนราคาตอนเปิดตัวก็อยู่ที่ 925 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท

การตลาดสุดเพี้ยนแบบ ‘บาเลนเซียกา’ ของแพงหน้าตาประหลาด แต่คนยอมจ่าย

Towel skirt

ด้วยความที่เป็นสินค้าที่มีความแปลกประหลาดแบบสุดขั้นทำให้บางคนก็มองว่าบาเลนเซียกาอาจกำลังพยายามทำให้สิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีความหรูหราขึ้นมา แต่ก็มีเสียงวิจารณ์แง่ลบตามมามากมายโดยเฉพาะการตั้งคำถามว่า “นี่หรือคือสิ่งที่เป็นอนาคตของแฟชั่น ?” และบางคนก็มองว่าแบรนด์อาจจะแค่ต้องการล้อเลียนเหล่าคนรวยเฉยๆ ก็ได้ เพราะกว่าที่จะผลิตสินค้าออกมาได้แต่ละชิ้นแบรนด์ก็จำเป็นต้องมีการวางแผนและประชุมงานกันหลายครั้ง นั่นหมายความว่าสินค้าแต่ละชิ้นในแต่ละคอลเลกชันย่อมมีความหมายซ่อนอยู่

ท้ายที่สุดนี้ไม่ว่าคุณจะมองว่าสินค้าของ “บาเลนเซียกา” จะแปลกประหลาดหรือว่าน่าสนใจมากแค่ไหน จะเกลียดพวกมัน หรือจะชอบพวกมัน ก็ถือว่าแบรนด์ประสบความสำเร็จอยู่ดี เพราะสินค้าบางตัวแม้ว่าจะออกมาแล้วเป็นปี หรือขายหมดไปแล้ว คนในสังคมก็ยังคงหยิบยกมาพูดถึงกันบ่อยครั้งจนถึงทุกวันนี้ อาจจะเรียกว่าเป็น “การตลาด” ของแบรนด์เพื่อให้เกิดการความรับรู้ถึงแบรนด์ก็ว่าได้ โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่มัก “ฉอด” สินค้าหลายรุ่นของแบรนด์นี้กันตลอด

อ้างอิงข้อมูล : jumpstart mag และ Independent