หวั่นตกงาน! พนักงานเชื่อมั่นอนาคตบริษัทต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

รายงาน Glassdoor เผย ความมั่นใจของพนักงานต่ออนาคตบริษัทลดลงเหลืออยู่ที่ 44.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
KEY
POINTS
- Glassdoor เผย ความมั่นใจของพนักงานต่ออนาคตองค์กรน้อ
แม้วันนี้จะมีงานทำ แต่วัยทำงานหลายคนก็หวั่นตกงานทุกวัน เหตุสถานการณ์ขององค์กรและบริษัทต่างๆ ทยอยรัดเข็มขัด ตัดงบประมาณ และปลดคนออก (Lay Off) อยู่ไม่ขาดสายตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเป็นต้นมา ซึ่งส่งผลให้ความเครียดในที่ทำงานเพิ่มขึ้น และความมั่นใจของพนักงานต่ออนาคตบริษัทลดลงอย่างมาก
ยืนยันจากรายงานใหม่จาก Glassdoor ซึ่งเป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างพนักงานบริษัท จัดอันดับสายงานยอดนิยมในสหรัฐ เผยว่า ความมั่นใจของพนักงานลดลงเหลือเพียง 44.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยวัดผลจาก "สัดส่วนของพนักงานที่มีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจของบริษัทที่ตนทำงานอยู่ ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า" โดยทีมสำรวจได้ติดตามข้อมูลนี้มาตั้งแต่ปี 2016
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปในตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 พบว่า ความมั่นใจของพนักงานต่อบริษัทของพวกเขา ก็เริ่มลดลงไปแล้ว 11.2% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร
แดเนียล จ่าว (Daniel Zhao) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Glassdoor เตือนว่า “พนักงานหลายคนอยากลาออก แต่ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสที่เหมาะสม พนักงานจำนวนมากติดอยู่กับตำแหน่งเดิม ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่ทุ่มเทในการทำงาน และส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของธุรกิจโดยรวม”
การเลิกจ้าง = ปัจจัยสำคัญกระทบความเชื่อมั่นของพนักงานลดลง
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทีมสำรวจข้อมูลพบว่า พนักงานต่างพูดถึงเรื่องการเลิกจ้างบนแพลตฟอร์ม Glassdoor เพิ่มขึ้นแตะระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงพีคของการระบาดใหญ่ และเพิ่มขึ้นอีกถึง 4.9% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2024
ข้อมูลจากบริษัท Challenger, Gray & Christmas ระบุว่า เดือนกุมภาพันธ์มีการประกาศปลดพนักงานถึง 172,017 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในรอบเดือน นับตั้งแต่กรกฎาคม 2020 เป็นต้นมา
จ่าวระบุในรายงานว่า “แม้แต่พนักงานที่รอดพ้นจากการเลิกจ้าง พวกเขาก็ยังรู้สึกกดดัน เพราะต้องรอว่าเมื่อไรจะถึงคิวของตัวเอง หรือถูกบังคับให้รับผิดชอบงานมากขึ้นจากการที่ทีมมีคนน้อยลง”
งานภาครัฐในสหรัฐกระทบหนักสุด ข้าราชการเชื่อมั่นในองค์กรแค่ 38.1%
อัตราความมั่นใจของพนักงานภาครัฐลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (-7.3%) และอยู่ในระดับต่ำสุดเท่ากับงานในอุตสาหกรรมร้านอาหารและบริการอาหาร (38.1%) จ่าว ชี้ว่าเป็นผลมาจากการปลดพนักงานในรัฐบาลกลางของสหรัฐ ที่ริเริ่มโดยที่ปรึกษาอาวุโส "อีลอน มัสก์" และกรมประสิทธิภาพภาครัฐ
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า งานภาครัฐหายไป 10,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ จ่าว บอกอีกว่า การปลดพนักงานและการตัดลดงบประมาณส่งผลกระทบโดยตรงต่อพนักงานภาครัฐและอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเงินทุนจากภาครัฐ
สำหรับอุตสาหกรรมที่พนักงานมีความมั่นใจต่ำสุด (กุมภาพันธ์ 2025) ได้แก่
ภาครัฐและการบริหารงานสาธารณะ: 38.1%
ร้านอาหารและบริการอาหาร: 38.1%
ค้าปลีกและค้าส่ง: 38.3%
ศิลปะ บันเทิง และนันทนาการ: 39.2%
บริการผู้บริโภคส่วนบุคคล: 40.3%
ขณะที่อุตสาหกรรมที่ความมั่นใจลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025) ได้แก่
ภาครัฐและการบริหารงานสาธารณะ: -7.3%
อวกาศและการป้องกันประเทศ: -6.8%
องค์กรไม่แสวงหากำไรและ NGO: -4.0%
การผลิต: -3.7%
พลังงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค: -3.3%
เมื่อเทียบระดับตำแหน่งงาน พนักงานระดับกลางเจอปัญหาหนักสุด
เมื่อพิจารณาความมั่นใจของพนักงานตามระดับตำแหน่งงาน พบว่า พนักงานระดับกลางได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยความเชื่อมั่นต่อองค์กรของพวกเขาในปี 2025 ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024
ยกตัวอย่างกลุ่มผู้บริหารระดับกลางถูกเลิกจ้างเป็นจำนวนมาก เช่น เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แอนดี้ แจสซี (Andy Jassy) ซีอีโอของ Amazon ได้ขอให้ทีมงานจัดสรรกำลังคนใหม่ โดย "ให้ผู้จัดการหนึ่งคนดูแลพนักงานระดับปฏิบัติที่จำนวนมากขึ้น" (ผู้จัดการถูกปลดออกเยอะ) และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าองค์กรอื่น ๆ อาจทำตามแนวทางนี้
ศาสตราจารย์ นาอีม ซาฟาร์ (Naeem Zafar) จากมหาวิทยาลัย UC Berkeley กล่าวกับ CNBC ว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Amazon เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น"
ไม่เพียงแต่ผู้จัดการระดับกลางที่ได้รับผลกระทบ พนักงานระดับสูงและระดับเริ่มต้นก็เผชิญกับความเชื่อมั่นต่อองค์กรที่ลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะพนักงานระดับเริ่มต้นที่มีความมั่นใจต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ในท้ายที่สุด จ่าว แนะนำว่า บริษัทควรให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการสื่อสารกับพนักงาน เพราะการสื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ถือเป็นก้าวแรกในการสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน แม้ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนของโลกการทำงานท่ามกลางเศรษฐกิจที่ผันผวนสูง
อ้างอิง: CNBC, Glassdoor, Challengergray