เปลี่ยนคนได้ด้วย V.M.F.I. Process | เส้นทางแห่งผู้นำ

‘แหม...น้ำเย็นจังนะวันนี้’ เขาคิดขณะหย่อนตัวลงในสระว่ายน้ำกว้าง สโมสรสาธารณะเต็มไปด้วยผู้คนทั้งเด็กผู้ใหญ่ 

‘ปวดฉี่’ ความรู้สึกใหม่เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน 'ขี้เกีียจขึ้นอ่ะ หนาวก็หนาว ห้องน้ำก็ไกล คนก็เยอะ ทำไงดีหว่า?’ 

‘ค่อยๆ ปล่อยคงได้มั้ง ไม่มีใครสังเกตหรอก น้ำนี่ก็ใส่คลอรีน ไม่น่าเป็นไร’ เขาแอบนึก ด้วยความรู้สึกชั่ววูบสมองสัญชาตญานส่วนหลังวิ่งปราดก่อนสมองหิริโอตัปปะส่วนหน้า 

ทันใดนั้นเขาต้องตกใจแทบสิ้นสติ สีม่วงเข้มกระจายออกมาจากกางเกงว่ายน้ำ น้ำรอบตัวเปลี่ยนสีในพริบตา สายตาทุกคู่รอบข้างที่จับจ้องมาที่เขา เด็กเล็กร้องวี้ดว้ายก่อนรีบว่ายน้ำหนีจ้าละหวั่น เด็กชายวัยคะนองคนหนึ่งตะโกนลั่นสระ 

“คนฉี่โว้ย... หน้าไม่อาย โตแล้วแอบฉี่ในสระ!” 

โดยธรรมชาติสมองอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล หากทิ้งไว้ตามครรลองคนจึงมีแนวโน้มจะเลวโดยปริยาย ต่อให้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจแต่ Basal Ganglia ก็จะรับรู้จากสิ่งแวดล้อม ดังนั้นหากอยากให้คนของคุณเป็นคนดี องค์กรต้องสร้างกฎกติกามารยาท วินัยและวัฒนธรรมที่อยากให้เกิด ดูแลพฤติกรรมที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เช่นการเปลี่ยนสีปัสสาวะให้กลายเป็นสีม่วงเข้มในสระว่ายน้ำ เป็นต้น 

เพราะคนโตๆ กันแล้วหน้าตาดีๆนี่แหละ 1 ใน 5 คนฉี่ในสระ (นับเฉพาะคนที่ยอมรับ) และ 70% ไม่อาบน้ำก่อนลงว่ายน้ำ (Model Aquatic Health Code - MAHC)

การสร้างลูกโซ่การเปลี่ยนแปลง เช่น คนที่ไม่เคยดูแลสุขภาพ หากเริ่มเล่นเวตได้จนเป็นนิสัย จะสามารถลุกขึ้นมาวิ่งแต่เช้าตรู่ได้ทุกวัน กินอาหารที่มีประโยชน์ได้โดยไม่เติม ตั้งอกตั้งใจทำงานเพื่อบริหารเวลาให้ดีขึ้นจะได้กลับบ้านเร็ว งานได้ประสิทธิผลและคนมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วยหัวใจสี่ประการ คือ 1) Visibility 2) Measurability 3) Frequency และ 4) Insights 

ข้อคิดสำหรับผู้นำ 

• Visibility ทำพฤติกรรมต่างๆ ให้เห็นชัดเหมือนการเปลี่ยนสีฉี่ในสระ อยากเริ่มประชุมตรงเวลา องค์กรหนึ่งใช้วัฒนธรรมปิดประตูหลังเวลาเริ่ม ใครมาทีหลังต้องเคาะให้คนเปิดจึงจะเข้าได้ ไม่นานการมาสายหายเป็นปลิดทิ้ง อีกองค์กรเก็บเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดลงกล่องดำปิดผนึกก่อนเริ่มประชุม เปิดให้หยิบได้เฉพาะช่วงเบรก ผู้จัดการบอกใหม่ๆ ก็งง แต่อยู่ไปกลับชอบเพราะทำให้การพูดคุยมีประสิทธิภาพยิ่ง เริ่มตรงเวลา เลิกตรงเวลา งานได้ผล คนเป็นสุข  
• Measurability ต้องบันทึกพฤติกรรมเพื่อหยุดการลงโทษคน ‘ทำดี’ โดยไม่รู้ตัว เช่นหากพูดถึงเรื่องใกล้ตัวเช่นการประชุม องค์กรมากมายมีวัฒนธรรม ‘รอคนส่วนใหญ่’ แปลว่าประชุมจะเริ่มต่อเมื่อคนที่มาสายส่วนใหญ่มาถึง ไม่ยักคิดว่าคนทำดีที่มาตรงเวลาจะรู้สึกอย่างไร “งั้นต่อไป มาสายมั่งดีกว่า จะมานั่งรอทำไม” แต่จะให้สิ่งเหล่านี้ปรากฏได้ก็ต้องมีการวัดผลที่จับต้องเป็นรูปธรรม ไม่ใช้บ่นกันลอยๆ เลยปล่อยผ่าน
• Frequency เมื่อทุกวันเกิดการมองเห็นและบันทึกเป็น Data องค์กรก็สามารถสนับสนุนให้พนักงานทุกคนมีการตั้ง Habit Loop ของตัวเองได้ แม้เป็นเรื่องเล็กๆ เช่นการเคารพกติกา การเสียสละเพื่อส่วนรวม หรือการรับฟังผู้อื่น พอมีเป้าหมายที่ชัดเจน เราก็กระตุ้น Trigger ให้คนตระหนัก ก็เกิดการปฏิบัติที่ดีขึ้น ทำให้ผลทางข้อมูลเกิดการพัฒนา เมื่อเห็นการเติบโต ก็กลายเป็น Reward ให้คนอยากทำพฤติกรรมนั้นมากขึ้นอีก 
• Insights ข้อสุดท้ายนี้เราได้ Artificial Intelligence เข้ามาเสริมอีกทาง V M และ F ทำให้เกิดคลังข้อมูลพฤติกรรม Learning Model สามารถนำไปสอน AI ให้ช่วยเรียนรู้แนวโน้มเฉพาะขององค์กร นำไปประยุกต์กับทฤษฏีและบทเรียนรู้ในระดับสากล เกิดเป็นคำแนะนำแบบ Customized ต่อยอดการเปลี่ยนแปลงให้ก้าวกระโดดต่อไป 

V.M.F.I. Process ของ Augmented Leadership ครับ