งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปี 68 เปิดแล้ว! วันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย.

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับนักอ่าน ด้วยการเปิดงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในธีม ย ยักษ์ อ่านใหญ่ กับพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม.

พบกับ 7 โซนหนังสือดีที่น่าอ่าน ทั้งไทย และต่างประเทศ 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ และกิจกรรม นิทรรศการ กว่า 100 อีเวนท์

ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 - 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

สุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า อุตสาหกรรมหนังสือไทยมีมูลค่า 16,000-17,000 ล้านบาทในปี 2567 กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง

"ด้วยการจัดงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และ สัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 (53rd National Book Fair & 23rd Bangkok International Book Fair 2025) ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ณ ฮอลล์ 5 - 8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ในปีนี้มีสำนักพิมพ์และบริษัทชั้นนำเข้าร่วมงานมากมาย สมาคมฯ จึงขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 ฮอลล์ ส่งผลให้มีพื้นที่รวม 20,000 ตร.ม. เพื่อรองรับนักอ่าน และผู้ประกอบการสำนักพิมพ์ บริษัทต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้นด้วย

เป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 53 ปี เป็นงานซื้อขายหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ภายใต้แนวคิด ย ยักษ์ อ่านใหญ่ งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม

ย ยักษ์ เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ อลังการ สะท้อนถึงการเติบโตของงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่เป็นมากกว่าการขายหนังสือ เป็นงานรวบรวมหนังสือดีหลากหลายประเภท ทั้งไทยและต่างประเทศ จากสำนักพิมพ์ชั้นนำ เสริมทักษะสาระ ความรู้ ความบันเทิง มารวมไว้ด้วยกัน

งานครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก มีบูธจำหน่ายหนังสือถึง 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ มีนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ กว่า 100 กิจกรรม มีงาน Bangkok Rights Fair 2025 จับคู่ธุรกิจซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ วันที่ 28 - 29 มีนาคม 2568 มีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศ

มี PUBAT Cafe, บริการนวดไทย, บริการจากไปรษณีย์ไทย คาดว่า ใน 12 วันนี้จะมีนักอ่านเข้าร่วมงานมากกว่า 1.3 ล้านคน มีการจับจ่ายมากกว่า 420 ล้านบาท

• ภายในงาน แบ่งออกเป็น 7 โซน 

1 โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม

2 โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland) 

3 โซนหนังสือเด็กและการศึกษา

4 โซนหนังสือทั่วไป 

5 โซนหนังสือเก่า

6 โซนหนังสือต่างประเทศ 

7 โซน Non – Book และพื้นที่พิเศษ PUBAT Creative Zone

• ไฮไลท์ นิทรรศการและกิจกรรม 

1 นิทรรศการเยี่ยมยักษ์ : จำลองโต๊ะทำงานของยักษ์พิเภก พร้อมข้าวของเครื่องใช้ขนาด Oversized เปิดให้นักอ่านเข้าไปเยี่ยมชม ขณะที่พี่ยักษ์กำลังนอนหลับ มีแนะนำหนังสือหัวข้อ หนังสือธรรมดา ๆ เล่มนั้น ที่เธอก็น่าจะลองอ่านนะ

2 นิทรรศการแปลหนังสือไทย เพื่อเผยแพร่ไปยังต่างประเทศ : จัดการแสดงหนังสือไทยที่ได้รับทุนการแปล จาก สศร. จำนวน 15 เล่ม ได้แก่ อาทิ จิ้งจกหางด้วน โดย ฤทัย จงสฤษดิ์สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA Shop), เที่ยวบ้านเพื่อนสนุกจัง โดย กฤษณะ กาญจนาภา-วชิราวรรณ ทับเสือ สำนักพิมพ์สานอักษร, วินาทีไร้น้ำหนัก โดย วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ สำนักพิมพ์มติชน, กี่บาด โดย ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด สำนักพิมพ์คมบาง, ผ่านพบไม่ผูกพัน โดย เสกสรรค์ ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น เป็นต้น

3 นิทรรศการ Book Power : การแสดงหนังสือที่แนะนำโดยคนสำคัญของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ Soft Power, มีกิจกรรม เขียนหนังสือให้ยักษ์อ่าน เปิดให้ผู้ร่วมงานช่วยกันแต่งเติมเรื่องราวให้สอดคล้องกับคนที่เขียนประโยคก่อนหน้า, กิจกรรม สอยยักษ์ รับมิชชั่นจากฟ้า สอยดาวจากต้นถั่วของแจ็ค ลุ้นรับภารกิจ หรือลุ้นรับของรางวัล โดยนำใบเสร็จที่ซื้อหนังสือครบ ทุก 500 บาท มาแสดงเพื่อร่วมกิจกรรมสอยดาวได้ 1ครั้ง 

4 นิทรรศการ 70 พรรษา 7 พระราชนิพนธ์แปลทรงคุณค่าในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดย บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด 

5 นิทรรศการวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2568 โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร์ และรัฐสภา

6 นิทรรศการหนังสือดีเด่น ประจำปี 2568 โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

7 นิทรรศการ Little Read Storyverse จักรวาลล้านเรื่องเล่า : จัดแสดงหนังสือภาพ มุมวาดเขียน, กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ นำทุกคนออกเดินทางสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแสนมหัศจรรย์ละลานล่องลอย นำมาซึ่งความสุข และเพลิดเพลินใจเมื่อได้อ่านและได้ฟัง

8 นิทรรศการ หนึ่งอ่านล้านตื่น พบกับ ทุนหนังสือตรงใจ กิจกรรมมอบทุน 10,000 บาท ให้กับโรงเรียนและสถานที่ขาดแคลนจำนวน 20 แห่ง มูลค่ารวม 200,000 บาท เพื่อให้ไปเลือกซื้อหนังสือภายในงานฯได้ด้วยตนเองตามที่ต้องการ,

BookterflyEffect ปรากฏการณ์หนึ่งอ่าน สร้างล้านการเปลี่ยนแปลง ให้กับผู้อ่านและสังคม พร้อมการแชร์ชื่อหนังสือของคนดังที่จะมาสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคม, Donation sale สนับสนุนให้นักอ่านได้เลือกซื้อหนังสือที่ต้องการเพื่อส่งมอบให้กับผู้รับได้อ่านแบบ One Stop Service,

Bookathon การแข่งขันส่งเสริมการอ่าน เสนอไอเดียพลิกโฉมวงการหนังสือ การอบรมเวิร์คช็อป Incubation ครั้งที่ 1, การเสวนา BooKATrend จับกระแสสังคมที่จะเปลี่ยนแปลงวงการหนังสือไทย, DesAIThinking กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย, 

Mentoring Session พบกับผู้เชี่ยวชาญที่จะเป็นพี่เลี้ยงแนะนำไอเดียอย่างใกล้ชิด, ABC Killer Pitching เทคนิคการนำเสนออย่างไรให้โดนใจผู้ฟัง เป็นต้น

9. กิจกรรม Author’s Salon : เปิดพื้นที่ให้นักเขียนอิสระและนักเขียนทุกประเภท ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ได้มาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบ่งปันประสบการณ์ กับนักอ่าน ในบรรยากาศเป็นกันเอง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และแรงบันดาลใจให้กับนักอ่าน รวมทั้งได้รับแนวคิดและข้อมูลที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นพื้นที่ให้นักอ่านได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ และวัฒนธรรม

10 โครงการ Global Author Spotlight : โครงการเชิญนักเขียนต่างประเทศ (Global Author Spotlight) เพื่อให้นักอ่านไทยได้พบปะและทำกิจกรรมร่วมกับนักเขียนที่มีผลงานโดดเด่นจากนานาชาติ ในปีนี้ มีนักเขียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ 6 ราย/หน่วยงาน ได้แก่

1) เอซรา คีริลล์ เออร์เกอร์ จากเยอรมัน ผู้เขียน Salaryman Unbound (เกมฆาตกร)

2) เมาริ กุนนัส จากฟินแลนด์ผู้เขียน Good Night Mr. Clutterbuck (ราตรีสวัสดิ์นะคุณปุ๊บปั๊บ), Santa and the Magic Drum (ซานตาคลอสกับกลองมนตรา) และอื่น ๆ

3) ทองใบ โพทิสาน ศิลปินดีเด่นสาขาวรรณกรรม นักประพันธ์รางวัลซีไรต์ประธานสมาคมนักประพันธ์ลาว และ รศ.แสงฟ้า โหลานุพาบ นักประพันธ์รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง จาก สปป.ลาว

4) สมาคมนักเขียนแห่งประเทศกัมพูชา

5) เดวิด ซิมส์ จากสกอตแลนด์ ผู้เขียน Soft City: Building Density for Everyday Life 6. เว็กซ์ คิงส์ จากอังกฤษ ผู้เขียน GOOD VIBES, GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข

11. โครงการ PUBAT Contest : กิจกรรม ย ยักษ์นักพรูฟ การแข่งขันค้นหาคำไทย คำไหนผิด, ย ยักษ์นักอ่าน การแข่งขันทดสอบความรู้ของนักอ่าน ในหมวดหนังสือประเภทต่าง ๆ

ทั้งนี้ นิทรรศการแปลหนังสือไทย, นิทรรศการ Book Power, นิทรรศการ Little Read Storyverse, กิจกรรม Author’s Salon, กิจกรรม Global Author Spotlight จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ PUBAT และ THACCA ด้วยการสนับสนุนหลักจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

สำหรับงาน Bangkok Rights Fair 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในวันที่ 28 - 29 มีนาคม 2568 ณ ห้อง MR208 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ในครั้งนี้ มีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร, จีน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลี, ไต้หวัน, พม่า, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และไทย มี Business Matching มากกว่า 200 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นในงานกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68.5 ล้านบาท

PUBAT Cafe บูธจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟ จากร้านดัง ROWIE’S x PUBAT café มาพร้อมเมนูพิเศษ Exclusive เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น พร้อมด้วยพื้นที่พิเศษ โดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด มาเนรมิตพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือแบบชิลชิล, มีบริการ นวดแผนไทย จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, มี ไปรษณีย์ไทย เปิดให้บริการจัดส่งสินค้าให้ในราคาพิเศษอีกด้วย

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5 - 8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

การเดินทาง : สะดวกที่สุดถ้ามาด้วย รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีศูนย์สิริกิติ์ฯ

 รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ เพจ ThaiBookFair