สั่งติดป้ายเตือน-กั้นตาข่าย ป้องกันแมงกะพรุนกัดนทท.

สั่งติดป้ายเตือน-กั้นตาข่าย ป้องกันแมงกะพรุนกัดนทท.

นายอำเภอสมุยสั่งโรงแรมชายหาดทั้งหมด เร่งติดตั้งป้ายเตือน-กั้นตาข่ายป้องกัน-แมงกะพรุนกัดนักท่องเที่ยว มั่นใจไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น

นายไพบูลย์ โอมาก นายอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่7ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประด้วย สาธารณสุข โรงพยาบาล ป้องกันภัย ประมง ตำรวจ และเทศาบาล โดยเชิญผู้ประกอบการที่อยู่ริมทะเลทั้งหมด

1.แนะให้ผู้ประกอบการมีการติดตั้งป้ายเตือนให้นักท่องเที่ยวระวังแมงกระพรุนในช่วงนี้ 2.เพิ่มความรู้ให้กับบุคลากรของสถานประกอบการที่อยู่ริมทะเลในระดับเข้มข้น ถึงวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากมีนักท่องเที่ยวประสบเหตุถูกแมงกะพรุนกัด

“ความจริงเรามีแผนที่ฝึกอบรมให้กับพนักงานของสถานประกอบการที่อยู่ริมทะเลอยู่ในเร็วๆนี้ หลังจากที่เกิดเหตุที่เกาะพะงันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวเสียชีวิตเช่นกัน เราก็มีการดำเนินการมาตรการออกมาเพื่อป้องกัน แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน”

3.รณรงค์ให้สถานประกอบการและพื้นที่ชายหาดทุกหาดของเกาะสมุยมีการติดตั้งเสาที่บรรจุน้ำส้มสายชูไว้ทุกจุดที่เป็นหาดและมีนักท่องเที่ยวนิยมลงเล่นน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการไปหลายจุด แต่จะต้องทำเพิ่ม

“จะเพิ่มในจุดสำหรับวางน้ำส้มสายชู เพราะน้ำส้มสายชูเป็นเครื่องมือในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะส่งตัวถึงมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาต่อไป”

และ4.ให้สถานประกอบการ โดยเฉพาะโรงแรมที่อยู่ติดชายหาดทุกแห่งติดตั้งตาข่าย เพื่อป้องกันแมงกะพรุนเข้ามาในพื้นที่ชายหาดบริเวณที่นักท่องเที่ยวเล่นน้ำ ตรงนี้ก็ให้แต่ละโรงแรมไปดำเนินการ

“ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละโรงแรมในการดำเนินการ เพราการกั้นตาข่ายจะช่วยป้องกะนได้ดีมาก แต่ก็แนะนว่าจำเป็นต้องทำ”

ส่วนความกังวลของผู้ประกอบการว่าหากมีการกั้นตาข่ายชายหาดเพื่อป้องกันแมงกะพรุ่นแล้วจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เกรงว่านักท่องเที่ยวจะตื่นกลัว ก็ให้สบายใจ เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะไม่ตื่นกลัวแน่นอน เพราะเป็นมาตรการที่มุ่งรักษาชีวิตนักท่องเที่ยวมากกว่า

สำหรับแมงกระพรุ่นที่เข้ามาตามชายหาดในเกาะสมุยจะเป็นเข้ามามากในช่วงต้นหน้าของหน้าฝนประมาณ ส.ค.-ก.ย. แต่ปีนี้ยาวมาถึง ต.ค. หลังจากนี้ก็มีไม่มาก ซึ่งแมงกะพรุ่นเหล่านี้มากับกระแสน้ำ โดยจะเข้ามาชุกชุมในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

“ทุกหน่วยงานไม่ได้นิ่งนอนใจสำหรับการหามาตรการป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเกิดเหตุที่เกาะพะงันปี 2557 ที่ผ่านมาทุกหย่วยก็ตื่นในเรื่อง สถานประกอบการมีการจัดทำคู่มือแจ้งเตือน”

แต่กรณีของนักท่องเที่ยวเยอรมันที่เสียชีวิต จากการสอบถามแพทย์ระบุว่า เนื่องจากพื้นที่บนร่างกายที่ถูกแมงกะพรุ่นกัดนั้นมีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดอาการช็อคเฉียบพลัน

“เขาบอกว่าถ้าโดนกัดเกิน80เปอร์เซ็นต์บนร่างกาย ในช่วงเวลา 2-10 นาที จะเกิดอาการช็อค ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สุดวิสัย แม้ว่าจะมีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วก็ตาม ก็ช่วยไม่ได้ โดนมากเกินไป พิษเข้าสู่กระแสเลือด”

และเหตุการณ์แมงกะพรุนกัดนักท่องเที่ยวของเกาะสมุย ตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมามีจำนวนทั้งสิ้น 12 ราย แต่เนื่องจากพื้นทีการกัดไม่มาก รวมถึงได้การปฐมพยาบาลได้ทันท่วงที ก็เลยไม่ได้รับอันตราย

สำหรับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากเหตุการณ์ครั้ง นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบความเชื่อมั่นของนักท่องที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะสมุย เนื่องจากทุกคนเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเหตุสุดวิสัย

นายประภาส อินทนปสาธน์ ผอ.ททท.สนง.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ คงจะไม่มีผลมากนัก เนื่องจากแหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งต้องดำเนินการหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็คือระบบการแจ้งเตือนที่ให้ทั่วถึงครอบคลุมมากขึ้น

“ต่อไปก็คือทำอย่างไรที่จะให้การแจ้งเตือนทั่วถึง นักท่องเที่ยวรับทราบข้อมูล ว่าตรงไหน ช่วงไหนมีแมงกะพรุน ทางโรงแรมที่พักหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการอย่างไร ทั้งมาตรการป้องกัน การช่วยเหลือกรณีประสบเหตุเพื่อสร้างมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว”

รวมถึงองค์ความรู้เรื่องแมงกะพรุนว่าแมงกะพรุ่นประเภทไหนที่มีพิษ ประเภทไหนไม่มีพิษ เพราะแมงกะพรุนในทะเลเองก็มีหลายชนิด บางชนิดก็มีพิษ บางชนิดก็ไม่มีพิษ ฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้เขารับรู้อย่างนี้ ซึ่งหากทำได้ตัวนักท่องเที่ยวเองก็จะระมัดระวังตัวมากขึ้น