IMF กังวล 'ภาษีทรัมป์' กระทบ 'เม็กซิโก-แคนาดา' หนัก

IMF กังวล 'ภาษีทรัมป์' กระทบ 'เม็กซิโก-แคนาดา' หนัก

IMF เตือนการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐส่งผลลบต่อคู่ค้า ขณะที่ดาวโจนส์ร่วงกว่า 400 จุด แม้ทรัมป์จะประกาศชะลอการเก็บภาษีบางส่วนไป 1 เดือน โดย IMF จะเผยประเมินผลกระทบอย่างละเอียดในเดือนเม.ย.นี้

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาประเด็นเรื่องการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศคู่ค้าหลักอย่างเม็กซิโก แคนาดา และจีนได้รับการพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบของมาตรการดังกล่าวต่อเศรษฐกิจโลก โดยถึงแม้ล่าสุด (7 มี.ค.) ทรัมป์จะประกาศชะลอการเก็บภาษีของทั้งแคนาดาและเม็กซิโกในสินค้าบางอย่างไปก่อน 1 เดือน ทว่าตลาดการเงินกลับตอบรับข่าวร้ายดังกล่าวไปแล้ว จนทำให้เมื่อคืนวานนี้ดาวน์โจนส์ร่วงกว่า 400 จุด ในขณะที่ตลาดแนสแด็กปรับฐาน  

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาคือ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จัดการประชุม “Press Meeting” เวลา 9.30 น. ตามเวลา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หรือประมาณ 21.30 เมื่อวานนี้ ตามเวลาประเทศไทยเพื่อตอบคำถามสื่อมวลชน ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่ผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีทรัมป์ต่อเศรษฐกิจแคนาดาและเม็กซิโก รวมทั้งเศรษฐกิจโลก จูลี โคแซค โฆษกของ IMF เตือนว่า การภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบในทางลบต่อทั้งสองประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้นกับสหรัฐ

 

เธอกล่าวว่า มาตรการทางการค้าล่าสุดของสหรัฐที่มีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน รวมถึงมาตรการตอบโต้จากจีนและแคนาดา (และอาจรวมถึงเม็กซิโก) เป็นพัฒนาการสำคัญทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ IMF จะเผยแพร่การประเมินผลกระทบอย่างละเอียดในช่วงเดือน เม.ย. ระหว่างการประชุมช่วงฤดูใบไม้ผลิ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ส ระบุว่า คำกล่าวดังกล่าวเป็นครั้งแรกๆ ที่ IMF แสดงท่าทีต่อมาตรการด้านภาษีของทรัมป์ โดยอ้างถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับแคนาดาและเม็กซิโก และกล่าวว่าประเด็นสำคัญต่อไปคือ IMF ต้องประเมินว่าความปั่นป่วนทั้งหมดของตลาดการเงินโลกจะเป็นความปั่นป่วนเพียงระยะสั้นหรือเป็นผลกระทบระยะยาว

 

อย่างไรก็ตาม โคแซคอธิบายโดยอ้างอิงถึงเหตุการณ์ในอดีตว่า "หากความไม่แน่นอนและความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเป็นผลกระทบที่จะยังคงอยู่ในระยะยาว ภาคส่วนที่จะได้รับผลกระทบต่อไปคือครัวเรือนอเมริกันและการชะลอตัวลงของการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุน”

บริบทโลกกำลังเปลี่ยนไป

โคแซคกล่าวต่อว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งรวมถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการไหลเวียนของเงินทุน และการลดลงของการค้าที่ปัจจุบันเติบโตเพียง 3% ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของอัตราเดิมในช่วงปี 2543 - 2562 ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ซึ่งปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นปี 2568 โฆษก IMF กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่าตลาดอาจกำลัง "ประเมินหรือทบทวนมุมมองของตัวเองใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงิน"

ด้านบทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ส ระบุว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐปัจจุบันกำลังแสดงถึงความอ่อนแอ โดยที่ภาษีนำเข้าของสหรัฐซึ่งเริ่มมีผลในสัปดาห์นี้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกทั้งภายในและภายนอกประเทศ ท่ามกลางการเดิมพันของนักลงทุนถึง “ความพิเศษของสหรัฐ” ไม่ว่าจะเป็นความล้ำหน้าประเทศอื่นๆ ในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ ราคาหุ้น AI และด้านอื่นๆ

อย่างไรก็ดี ตอนนี้นักลงทุนกำลังมองหาโอกาสในประเทศอื่นๆ รวมถึงข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และการผงาดขึ้นของจีนในฐานะผู้นำในการแข่งขันด้านเทคโนโลยี​​