'ยักษ์ วงแคลช' พบตร. คู่กรณีขอโทษบันดาลโทสะ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 ม.ค. นายอนันต์ ดาบเพช็รธิกรณ์ อายุ 33 ปี หรือยักษ์ วงแคลช มือกลองวงแคลช ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เดชาโชติ เฉลิมสกุลเดชา พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ร.ต.อ.ศุภชาติ วสุสกุลเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า และนิ้วก้อยฉีก เหตุเกิดบริเวณปากซอยบางนา-ตราด 39 หมู่ 14 ต.บางแก้ว อ.บางพลี

นายอนันต์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้(6 ม.ค.) โดยตนออกจากบ้านเพื่อพาสุนัขไปหาหมอ และก็ได้จอดรถลงไปซื้อกาแฟที่ร้านตรงปากซอย แต่จังหวะที่ตนกำลังถอยรถ ก็เป็นช่วงจังหวะเดียวกับคู่กรณีขับรถออกจากซอยมาพอดี ทำให้เหมือนรถจะชนกัน ทางคู่กรณีจึงบีบแตรและขับรถมาจอดด้านหน้า ตนจึงกดกระจกรถลง จากนั้นคู่กรณีจึงเดินมาหาตนที่ยังนั่งอยู่ในรถ ตนจึงบอกให้คู่กรณีกลับไปที่รถเพราะไม่อยากจะมีเรื่องราว แต่คู่กรณีก็ต่อยเข้ามาที่ใบหน้า ตนจึงลงจากรถก็มีการฉุดกระชากกันเล็กน้อย จากนั้นมีคนมาช่วยห้าม ตอนนั้นถึงรู้ว่า ที่ใบหน้ามีเลือดออก ตนก็บอกให้คู่กรณีใจเย็นๆค่อยๆคุย จากนั้นคู่กรณีจึงบอกให้ไปคุยกันที่ สน.บางนา แต่พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.บางแก้ว จากนั้นทางตำรวจได้สอบสวนและทางคู่กรณีก็ยอมรับว่า ทำไปโดยบันดาลโทสะ ซึ่งตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมาย และวันนี้ก็ได้นำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอในตอนเกิดเหตุมามอบให้กับตำรวจประกอบสำนวน และตนจะไม่นำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวลงเผยแพร่ เพราะเชื่อว่าถึงแม้เหตุจะเกิดจากบันดาลโทสะ แต่ก็อยากให้เรื่องจบลงด้วยคำว่าให้อภัย

   ทั้งนี้ระหว่างที่นายอนันต์ ให้ปากคำอยู่นั้น นายพรเทพ มะยมรัช อายุ 33 ปี คู่กรณี พร้อมด้วยทนายความได้มาพบพนักงานสอบสวนด้วยเช่นกัน ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ให้ทั้ง 2 คนพูดคุยกัน ก่อนจะจบลงด้วยดี และมีการจับมือกัน จากนั้นนายพรเทพ กล่าวว่า ตนต้องขออภัยกับทุกคน ทั้งญาติพี่น้อง ทั้งแฟนคลับของวงแคลช ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยอมรับว่าทำไปโดยบันดาลโทสะ ตนก็เป็นแฟนคลับวงแคลชคนหนึ่งเช่นกัน จากนี้จะใช้สติให้มากขึ้น อยากให้สังคมโดยเฉพาะแฟนคลับให้อภัยตนด้วย หลังจากนี้จะลงขอโทษในเฟสบุ๊คด้วย ในส่วนของคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย

   ด้าน พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.บางแก้ว กล่าวว่า ถึงแม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงเคลียร์ใจกันได้ แต่ทางด้านของคดีก็ต้องดำเนินต่อไป โดยตอนนี้พนักงานสอบสวนต้องรอใบตรวจจากแพทย์ก่อนว่า มีลงความเห็นในบาดแผลว่าอย่างไร และต้องหยุดกี่วัน จึงจะสามารถสรุปได้ว่า อัตราโทษได้ว่าจะโดนแค่ปรับ หรือต้องส่งฟ้องศาล