Balance Bike หนูน้อยนักทรงตัว ไม่กลัวล้ม!!
เด็กตัวน้อยมีศักยภาพและความกล้ามากกว่าที่เราคิด ไปรู้จักกิจกรรมใหม่ บาลานซ์ไบค์ ที่เห็นแล้วต้องทึ่งในความสามารถของนักกีฬาตัวจิ๋วเหล่านี้
เราได้คุยกับ ครูเป้อ - ปรีชา สรรค์วัฒนา ครูของเหล่าเด็กน้อยของทีม Flipper Bike ที่เขาได้ก่อร่างสร้างขึ้น ฝึกสอน และดูแลกันจนกลายเป็นสังคม Balance Bike อันอบอุ่น
ถามว่าครูเป้อรู้จักจักรยานทรงตัวนี้ได้อย่างไร... เขาเล่าด้วยรอยยิ้มว่า...มาจากการหากิจกรรมให้ลูกสาวเล่นนั่นเอง
"เริ่มต้นผมไปเห็นที่อเมริกาก่อน เด็กๆ ที่นั่นเขาเล่นกัน พอมาถึงเมืองไทย เราก็ไปหามาให้ลูกสาวเล่น ด้วยความที่เราเป็นนักปั่นจักรยานอยู่แล้ว มีความรู้เรื่องจักรยานพอสมควร ก็เลยพัฒนาเรื่องของบาลานซ์ไบค์ให้ลูกเบื้องต้นได้ เริ่มสังเกตพัฒนาการของลูกตัวเองว่าเขาเล่นแล้วเป็นยังไง... แล้วก็จัดกิจกรรมครั้งแรกในเมืองไทย เพราะก็ยังไม่มีใครทำ ผมเริ่มจากการที่ผมไปบอกเพื่อนให้ช่วยทำแรมพ์ให้หน่อย จะให้ลูกเล่น เพื่อนก็ทำมาขนาดใหญ่โต ในเมื่อทำมาแล้ว จึงไปนัดเด็ก ๆ มาเล่นด้วยกัน ทีนี้พอเด็กได้ลองเล่นแล้ว ก็เห็นพัฒนาการของเด็กแต่ละคนดีขึ้น เราก็เลยทำเป็นจริงเป็นจัง เริ่มหาข้อมูลจริงๆ จังๆ เกี่ยวกับ Balance Bike ครับ"
แล้ว Balance Bike คืออะไรกันล่ะ!? ครูเป้อให้คำตอบสั้นๆ ว่า
"Balance Bike คือจักรยานฝึกการทรงตัว ตรงตัวเลยครับ ที่เราเห็นชัดคือขนาดของรถจักรยานจะเล็กกว่าจักรยานทั่วไป ข้อ 2 จะไม่มีบันไดปั่น เพราะธรรมชาติของเด็กวัยนี้ 1 ขวบ 2 ขวบ 3 ขวบ 4 ขวบ จนถึง 5-6 ขวบเนี่ย เขาจะใช้ขาไถก่อน พอเขาเริ่มไถเป็นแล้วปุ๊บ เขาถึงจะเริ่มปั่น การใช้กล้ามเนื้อในการเล่นบาลานซ์ไบค์กับการปั่นจักรยาน จะใช้กล้ามเนื้อคนละส่วนกัน การไถจักรยานเขาจะใช้กล้ามเนื้อทั้งขา มัดเล็ก มัดใหญ่ และหลังขาทั้งหมด แต่ถ้าเกิดการปั่นจักรยานเขาจะใช้หน้าขาอย่างเดียว แล้วเด็กก็จะเมื่อย เรื่องความปลอดภัย บาลานซ์ไบค์ปลอดภัยกว่าจักรยานเวลาเด็กล้มลงไป มันไม่มีอะไรที่ทำให้ขาเขาเจ็บ ปัจจัยหลักๆ เลยที่จะทำให้เด็กเกิดอุบัติเหตุจากการขี่จักรยานคือการล้มลงไปแล้วบันไดขี่ไปโดนขา แต่อันนี้มันไม่มีบันได พอเขาล้มก็จะไม่เจ็บ ถ้าเราสังเกตดีๆ ขาเขาจะค้ำตลอดเวลา โอกาสที่เขาจะล้มก็น้อยลงไปด้วย"
Balance Bike ไถอย่างผูกพัน
มีปัจจัยอยู่ 2 ข้อ ที่จะทำให้เด็กๆ เล่นบาลานซ์ไบค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยแรกคือการเริ่มต้นเล่นที่ถูกวิธี และสองเบาะนั่งต้องนั่งสบาย
"พ่อแม่บางคนซื้อของจากในอินเตอร์เน็ต ส่งมาเป็นกล่อง โดยที่ประกอบผิด เซ็ตเบาะสูงต่ำเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จังหวะขาน้องเขาต้องอยู่ที่เท่าไหร่ แฮนด์อยู่ที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ คนขายอาจจะบอกบ้างไม่บอกบ้าง ทำให้พอน้องนั่งลงไปแล้วปุ๊บ ถ้าเล่นถนัดก็โอเคไป แต่ก็ยังไม่รู้วิธีการจับอยู่ดี ก็เห็นว่าเด็กคนอื่นเขาเล่นเป็น ก็นั่งเสร็จแล้วก็ปล่อยเลย พอปล่อยเสร็จเด็กก็ล้มโครมลงไปเลย
"วินาทีแรกที่เขาจับจักรยาน ถ้าคุณเป็นเด็ก คุณจะบอกว่าอันนี้มันไม่สนุกเลย ก็ไม่อยากเล่นต่อ อีกปัจจัยคือเบาะนั่ง จักรยานคันนี้มีจุดกดทับแค่จุดเดียว ถ้านั่งไปแล้วสบายรถคันนี้จะไม่เอายี่ห้อเลยก็ได้ เขาถีบจักรยานแล้วไปเล่นได้ แต่ถ้ารถคันนี้เกียร์ยี่ห้อดีเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ถ้าเขานั่งแล้วเขาเจ็บก้น เขาก็วางจักรยานแล้วไปเล่นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นมันมีอยู่ 2 อย่าง ที่จะทำให้เด็กไม่เล่น ก็คือเริ่มต้นผิดวิธีกับการนั่งผิดวิธี"
การฝึกบาลานซ์ไบค์ให้ไปได้อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากคุณพ่อคุณแม่ เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมของลูกที่สานสัมพันธ์ในครอบครัวโดยแท้จริง
"การจะฝึกให้ลูกเล่นบาลานซ์ไบค์ให้เป็นต้องผ่านขั้นตอนการเล่น 5 ขั้น เริ่มจาก เราเป็นพ่อแม่ต้องจับเขาดัน แล้วค่อยๆ เดิน โดยที่เราจะรู้ว่าเขาบังคับมือได้ตรงหรือยัง พอมือเริ่มตรงเราก็ปล่อยมือซ้ายจับมือขวา จับใต้เบาะอย่างเดียว ค่อยๆ เดินไปต่อ ทีนี้ขาเขาก็จะไปค้ำไปซ้ายที ขวาที ขาเขาจะค้ำให้มันเริ่มเดินตรงได้ พอเริ่มเดินตรงได้ ทีนี้เราปล่อยเขา พอเราเริ่มปล่อยเขาแต่เราก็ยังไม่ปล่อยหมด เด็กทุกคนยังต้องการความมั่นใจอยู่ พ่อแม่ต้องจับประคองไว้นิดนึง หรืออะไรก็แล้วแต่ให้รู้ว่าเราช่วยเขาอยู่ พอหลังจากที่เขาเริ่มมั่นใจและเริ่มเดินได้ เขาก็จะเริ่มเดินเร็วขึ้น พอเริ่มเดินเร็วขึ้นเขาก็จะไปเร็วขึ้นละ ทีนี้เขาก็เริ่มมั่นใจจนไปถึงขั้นที่เขาวิ่งได้ วิ่งได้นั่นหมายถึงการที่เริ่มเล่นเป็นเบื้องต้น ผ่านขั้นตอนการเล่น 5 ขั้นตอนที่ผมบอก ก็คือการเริ่มต้นที่ถูกวิธีครับ..."
จักรยานทรงตัว เด็กๆ สนุกจริงหรือ!?
จากคำบอกเล่าของพ่อแม่ ที่เฝ้ามองลูกน้อยเล่นบาลานซ์ไบค์ก็คงเป็นคำตอบได้อย่างดี ว่าจักรยานทรงตัวคันเล็กๆ จะทำให้เด็กสนุกได้จริงหรือไม่
"มันเป็นความบังเอิญครับ พอดีไปเดิน The Walk แล้วมันมีการแข่งขันพอดี ลูกเห็นแล้วอยากเล่น อยากดู เราก็เลยซื้อตรงนั้นเลย ซื้อเสร็จก็เล่นเลย ลงแข่งเลย ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ชอบมาก เรียกว่าบ้าเลย เล่นทุกวัน จากตอนแรกนิสัยลูกอาจจะเป็นคนแบบไม่ค่อยกล้าด้วยซ้ำไป เราก็เลยนึกไม่ถึงว่าลูกจะทำได้ จริงๆ เราอาจจะประเมินลูกผิดด้วยซ้ำ เพราะจริงๆ ลูกอาจมีจุดนึงที่เขากล้าแสดงออก กล้าทำด้วย แต่เราคิดว่าเขาไม่กล้า ตั้งแต่เล่นบาลานซ์ไบค์มาเราก็เลยรู้ว่าเราควรให้ทำในสิ่งที่เขาชอบ ในสิ่งที่เขาอยาก เลยส่งเสริมเต็มที่เลยครับ" ธีรวัฒน์ ตันสวัสดิ์ เล่าถึงจุดเริ่มของลูกชายน้องซีเคกับบาลานซ์ไบค์
เช่นเดียวกับ วุฒิชัย บุญเลิศ คุณพ่อน้องมังกรที่เล่าถึงการต่อยอดและพัฒนาการของลูก "ก่อนกับหลังเล่นบาลานซ์ไบค์น้องมังกรแตกต่างกันในเรื่องของสมาธิ เขานิ่งขึ้น แล้วก็ร่างกายของเขาแข็งแรง ในบรรดาเพื่อนที่โรงเรียน ในกลุ่มของเขา เขาจะป่วยน้อยสุด ก็คือเหมือนกับว่าลูกเราเป็นนักกีฬา เขาเล่น เขาก็คุ้นกับสภาพอากาศ ตัวผมก็พยายามจะปูเบสิคให้เขาต่อยอด และน้องก็สามารถต่อยอดได้ด้วย เพราะว่าตอนนี้น้องเขาไปต่อยอดทางด้าน BMX แล้วครับ"
ไม่เพียงการต่อยอดไปยังกีฬาอื่น บาลานซ์ไบค์ยังช่วยฟื้นฟูอาการป่วยให้ดีขึ้นอีกด้วย ดังเช่น เสริมศักดิ์ ฮั่นตระกูล คุณพ่อของน้องฮั่นสมาชิก Flipper Bike จากจังหวัดลำพูนที่เล่าว่าบาลานซ์ไบค์ช่วยให้ลูกของเขาสุขภาพดีขึ้น
"ตอน 3 ขวบไปโรงเรียน ครูบอกว่ากล้ามเนื้อน้องเขาไม่ค่อยแข็งแรง ก็เลยอยากจะหาอะไรให้เขาเล่น โดยที่ว่าตัวน้องเขาชอบด้วยโดยที่เราไม่ต้องไปบังคับ แล้วตอนปี 58 น้องเขาล้ม แล้วขาข้างซ้ายหัก แต่ไม่ถึงขั้นที่ว่ารุนแรง แค่กระดูกแตก พอซัก 3 อาทิตย์หลังจากนั้นหาย ผ่าเฝือกออก น้องรู้สึกว่าเดินไม่เต็มเท้า เหมือนเขย่งเท้า ก็เลยรู้สึกว่าหาอะไรให้น้องที่รู้สึกเหมือนกายภาพเขา ก็เลยมาเห็นตัวบาลานซ์ไบค์ตัวนี้ ก็เลยซื้อให้น้องเล่น พอซื้อให้เขาเล่นก็ถูกใจ เล่นทุกวันเลยครับ เวลาหลังเลิกเรียนเขาก็เล่น อย่างแฟนรับราชการ ตอนเย็นรับลูกมาปุ๊บ เขาก็ได้วิ่งเล่นรอแม่เขาทำงาน ได้ประโยชน์เยอะครับ ที่สำคัญตอนนี้น้องเดินเต็มเท้าปกติ แล้วก็วิ่งเร็วขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าน้องเขาได้พัฒนาร่างกายกล้ามเนื้อ แล้วก็มีความเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วก็ได้เพื่อนใหม่ๆ"
ด้าน พัทธนันท์ ไตรวรรธนวิชัย พี่สาวของน้องโดมซึ่งชื่นชอบการเล่นผาดโผน บาลานซ์ไบค์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะให้เขาได้ลองเล่น "ที่ให้มาเล่นบาลานซ์ไบค์ ก็เพราะว่าน้องเป็นคนที่ชอบผาดโผน ชอบความเร็ว ก็เลยลองหาจักรยานให้น้องดูซิ ก็เลยมาเล่นบาลานซ์ไบค์ รู้สึกว่ามันเหมาะกับเขา มันทำให้เขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ไม่ค่อยป่วย ร่างกายแข็งแรง"
ได้พูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ทุกคนล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าบาลานซ์ไบค์ไม่เพียงทำให้บุตรหลานร่างกายแข็งแรง ยังมอบสังคมเด็กที่มีแต่รอยยิ้ม ความกล้าหาญ และน้ำใจนักกีฬาให้อีกด้วย