'ตุ๊กกี้' คืนถิ่นรั้วเหลือง-เทา ฝาก3ข้อคิดชีวิต-ความสำเร็จ

'ตุ๊กกี้' คืนถิ่นรั้วเหลือง-เทา ฝาก3ข้อคิดชีวิต-ความสำเร็จ

ดาราตลกคนดัง "ตุ๊กกี้" คืนถิ่นรั้วเหลือง-เทา แนะน้องใหม่ มหา'ลัยมหาสารคาม ฝาก3ข้อคิดชีวิต-ความสำเร็จ

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (31 กรกฎาคม 2561) ที่อาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นางสาวสุดารัตน์ บุตรพรม หรือ ตุ๊กกี้ ชิงร้อย ซึ่งเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่จบการศึกษาจาก สาขานาฏศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามเมื่อปี พ.ศ.2544 ได้มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ ในกิจกรรมโครงการปฐมนิเทศนิสิตใหม่ระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 2561

2_30

สำหรับในวันนี้เป็นนิสิตใหม่ กลุ่มแรก จำนวน  12 คณะ  รวมกว่า 4 พันคน  ประกอบด้วย  นิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์  แพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ วิทยาการสารสนเทศ และมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

3_27

โดยพี่ตุ๊กกี้  แต่งกายมาในชุดพละของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดตัวด้วยผลงานเพลง “เต่างอย” เพื่อสร้างสีสันและความบันเทิง ให้กับนิสิตใหม่ได้มีความสุขและเสียงหัวเราะ จากนั้น ได้ให้ข้อคิดเห็นจากประสบการณ์ตรงที่ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในช่วงปี 2541-2544 โดยพี่ตุ๊กกี้ กล่าวว่า ทุกคนโชคดีที่มีโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย การศึกษาขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนสำคัญที่สุด และขอฝากข้อคิดไว้ให้น้องๆ ได้มีความรักไว้ 3 ข้อ คือ

4_23

1. รักตัวเอง คือให้รู้จักรักตัวเอง หนีห่างจากอบายมุข  ให้รู้จักคับเพื่อนที่นำพากันไปสู่สิ่งดีงาม  ห่างไกลยิ่งยั่วยุที่เป็นภัยใกล้ตัว  มีวินัยและรับผิดชอบต่อตนเอง ประคับประคองการเรียน การใช้ชีวิตให้อยู่รอดจนครบตลอด 4 ปี จนถึงวันสำเร็จการศึกษา

2. รักครอบครัว คือให้ระลึกเสมอว่า พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องทำงานเหนื่อย หนักแค่ไหน ที่จะต้องหาเงินมาส่งเราเรียนในระดับปริญญาตรี ตลอด 4 ปี เรามีหน้าที่ที่จะต้องตั้งใจเรียน ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ และได้เห็นวันสำเร็จของเรา คือวันสำเร็จการศึกษา

3. รักสถาบัน เราต้องมีความรักและภูมิใจกับสถานศึกษาของเรา ซึ่งจะเป็นแหล่งความรู้และประสบการณ์ที่จะต้องซึมซับเอาสิ่งต่างๆ ที่คณาจารย์และเพื่อนๆจะมอบให้แก่เราให้มากที่สุด

5_20

และถึงแม้การศึกษาเล่าเรียนจะเป็นภารกิจหลักของนิสิตทุกคน แต่การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย  ก็ไม่ใช่มีแต่กิจกรรมการเรียนการสอนเท่านั้น ช่วง 4 ปี ในมหาวิทยาลัยเป็นช่วงสำคัญของชีวิต   ที่ทุกคนจะได้แสวงหาประสบการณ์ให้มากที่สุด เพื่อให้พร้อมที่จะเผชิญโลกกว้างเมื่อสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตไปแล้ว “การศึกษาทำให้คนมีงานทำ กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็น” จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำควบคู่กันไป” พี่ตุ๊กกี้ กล่าวทิ้งท้าย