คือความงามของวิถีและชีวิต

คือความงามของวิถีและชีวิต

เลือนจางไม่รางหาย เป็นนิทรรศการที่มีเพียงภาพถ่าย คำบรรยาย และหนังสั้น สิ่งของจัดแสดงแทบจะไม่มีให้ชมเลยสักชิ้น หากเป็นนิทรรศการที่ “กินใจ”

และจุดประกายให้เราได้เห็น “งานหัตถกรรมพื้นบ้าน” ที่นับวันจะเลือนหาย ที่แสดงตัวตนและคุณค่าอย่างแจ่มชัดในวิถีความเป็นอยู่ของ รายา เฮอริเทจ โรงแรมริมแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่

  ณภัทร นุตสติ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมกล่าวว่า “เมื่อสร้างโรงแรมเรานำหัตถศิลป์พื้นบ้านล้านนามาเป็นแรงบันดาลใจในงานออกแบบตกแต่ง นิทรรศการครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อต้องการให้ผู้คนได้เห็นคุณค่าและเชิดชูพ่อครู แม่ครู เจ้าของมรดกอันสะท้อนถึงอัตลักษณ์และวิถีชีวิตชาวล้านนาที่สืบทอดกันมาช้านาน”

โอ่งของลุงสองเมือง นับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่นำไปสู่คำกล่าวที่ว่า “ถ้าไม่สานต่อแล้วมันก็คงจะรางหายไป” เพราะขณะที่ลุงสองเมืองกำลังปั้นโอ่งดินขนาดสูงท่วมหัวนี้เกิดไม่สบายแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพื่อนบ้านจึงพากันมาช่วยกันปั้นโอ่งแล้วนำไปเผาด้วยฟืนจนแล้วเสร็จ เหตุการณ์นี้เองทำให้หลายคนได้ตระหนักถึงคุณค่าของงานฝีมือ...จะทำต่อหรือจะปล่อยให้วิชาหายพร้อมกับลุงสองเมือง

ดูเหมือนว่า “สิ่งของ”ที่ไม่ได้จัดแสดงให้ชมในนิทรรศการจะจัดวางและนำไปใช้สอยตามประโยชน์ที่เคยเป็น รวมทั้งการนำมาประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตร่วมสมัย อาทิเช่น แซะ ข้อง อุปกรณ์จับปลาที่ใช้ในลำน้ำปิงที่วันนี้มัณฑนากรนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งผนังภายในและนอกอาคารที่ดูราวกับงานศิลปะสมัยใหม่

สาด หรือ เสื่อ ที่สานจากต้นแหย่งจากที่เคยนำมาปูพื้นหรือทำเป็นฝาผนัง นักออกแบบนำมาย้อมสีแล้วนำมาหุ้มม้านั่งกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์เก๋ที่แขกผู้มาเยือนอยากจะขอซื้อกลับบ้าน เช่นเดียวกับกระบุง ตระกร้าสานจากไม้ไผ่ที่นำมาใช้เป็นภาชนะในห้องอาหาร ใส่ขนมปัง และสร้างสรรค์เป็นชั้นบรรจุขนมสำหรับชุดน้ำชายามบ่ายที่แสนจะเรียบง่ายแต่งดงาม

ไม่เว้นแม้แต่ย่ามและหมวกที่เตรียมไว้ในห้องพักให้ผู้มาเยือนได้ใช้ประโยชน์ รวมไปถึงหมอนอิงและผ้าม่านย้อมครามที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จับตา

หากนิทรรศการภาพถ่ายชีวิตของ “พ่อครู” “แม่ครู” ขณะทำงานอย่างมีความสุขที่ผู้ชมได้สัมผัส พร้อมกับถ้อยคำที่เรียบง่ายนั้น “กินใจ”นัก

แม่สมศรี - สมศรี ปรีชาอุดมการณ์ ครูช่างศิลปหัตถกรรม ด้านผ้าทอกะเหรี่ยง บ้านแม่มิงค์ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม เล่าว่า “ป้อจายเป็นผู้นำครอบครัวต้องตัดไม้ไผ่มาสร้างบ้าน แม่ญิงปกาเกอะญอทุกคนก็จะต้องทอผ้าได้ เมื่อก่อนเฮาบ่มีเสื้อหนาวใส่ เฮาฮักเฮาเอ็นดูไผ ก็จะทอผ้าฮื้อเขาใส่เพื่อความอบอุ่น...แม่อยู่บ่นานหรอก บ่กี่ปี๋ก็ต้องต๋าย แต่ผ้าที่แม่ทอจะอยู่ต่อไปหลังจากนั้นเป๋นร้อยปี ลายผ้าที่เฮาคิด ก็จะมีคนสืบต่อไปอีกนาน การทอผ้าฮื้อกั๋นจึงเป็นเหมือนหลักฐานที่บอกว่าครั้งหนึ่งเฮาเคยมีชีวิตอยู่ และเคยได้แบ่งปันความฮักความเอ็นดูให้แก่กั๋น"

ในขณะที่ ลุงคำ - ดวงคำ ดวงสิทธิ์ สล่าเครื่องจักสานอาวุโสบ้านป่าบงหลวง ต.ป่าบง อ.สารภี กล่าวว่า “คุณค่าของงานสานไม้ไผ่ บ่ได้อยู่แค่การได้ข้าวของมาใช้งาน แต่อยู่ที่ความพิถีพิถันของการสานเส้นต่อเส้นตวย เลยต้องพยายามใส่ใจ๋และทำงานทุกชิ้นออกมาฮื้อดีที่สุด เพราะเวลามีคนมาดู มาหยิบจับ หรือเอาไปใช้ เขาจะสัมผัสได้ว่า คนทำทุ่มเทกับงานมากขนาดไหน มันบ่ใช่แค่ความทนทาน แต่มันคือความงาม"

นอกเหนือจากความงาม เรามองเห็นความรักอยู่ในนั้น เป็นนิทรรศการที่เรียบง่ายแต่งดงามและน่าประทับใจ

หมายเหตุ : นิทรรศการเลือนจางไม่รางหาย เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทุกวัน 10.00-19.00 น. ที่โรงแรมรายา เฮอริเทจ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โทร.053 111 670

เรื่อง/ภาพ  ปิ่นอนงค์ ปานชื่น