'ฟิตโต้' อร่อยพันธุ์ไทย! 'รัจ ธนันพัชญ์' สู้ขายของดี-ซื่อตรงกับผู้บริโภค
อร่อยเหลือเชื่อ.. ประโยชน์เหลือเฟือ สโลแกน "ฟิตโต้" ขนมพันธุ์ไทย! "รัจ ธนันพัชญ์" เผยสู้ขายของดี-ซื่อตรงกับผู้บริโภค
การแปรรูป "ข้าว" ให้มีมูลค่าเพิ่ม คงแค่ได้ยินมาบ้าง แต่จะทำอย่างไร แบบไหนให้ "ถูกจริต" คนรุ่นใหม่ นี่เป็นโจทย์ที่น่าสนใจ ยิ่งเป็นขนมขบเคี้ยวที่ลองชิมแล้วอร่อย อย่าง "ฟิตโต้" หรือ FITTO แม้ยังไม่ดังให้คุ้นหู แต่ความมุ่งมั่นตั้งของ "รัจ" ธนันพัชญ์ ไพบูลย์ธนภาค ผู้ก่อตั้งบริษัท ฟิตโต้ กรุ๊ป ถือเป็นสตาร์ทอัพสาววัย 36 ปี มีความตั้งใจนำเสนออย่างเต็มเปี่ยม จึงอยากเล่าที่มาที่ไปของ "ฟิตโต้" ให้ฟัง
"รัจ ธนันพัชญ์" เผยว่าเดิมทีครอบครัวประกอบธุรกิจโรงงานเพาะถั่วงอกในจังหวัดราชบุรี นับเป็นโรงงานเพาะถั่วงอกรายใหญ่ที่สุดของจังหวัดราชบุรี จัดจำหน่ายไปทั่วประเทศ แต่ด้วยเหตุผลที่ครอบครัวซีเรียสมากๆ และอยากทำธุรกิจที่ซื่อตรงกับผู้บริโภคทำให้ต้องตัดใจยอมละทิ้ง และขายโรงงานเพาะถั่วงอกไป หันมาทำธุรกิจโรงสีข้าวแทนเพราะคุณพ่อมีแหล่งวัตถุดิบคุณภาพดี โดยในปีเดียวกันนั้น ธนันพัชญ์ได้จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากประเทศสหรัฐอเมริกา และกลับมาช่วยดูแลกิจการของครอบครัวอย่างเต็มตัว
หลังจากที่เข้ามาช่วยดูแลกิจการได้สักระยะ ธนันพัชญ์เห็นว่าการแข่งขันในตลาดข้าวค่อนข้างสูง ประกอบกับนโยบายการรับจำนำข้าวของรัฐบาลส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหม่ทำตลาดยากขึ้น จึงพยายามมองหาโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ เช่น การนำวัตถุดิบที่มีอยู่มาต่อยอดสินค้าหรือทำเป็นสินค้าแปรรูป ประกอบกับส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบขนมมาก โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวกรอบๆ โดยได้มีโอกาสชิมขนมขบเคี้ยวในหลากหลายประเทศมาก จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการคิดทำขนมขบเคี้ยวในแบบที่ตัวเองชอบ คือ ต้องอร่อย และไม่ทำลายสุขภาพ (ที่มาคือ ชอบรับประทานขนมขบเคี้ยวมาก พอรับประทานเยอะแล้ว อ้วน ร้อนใน และเจ็บคอ!)
พอมาทำการศึกษาตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวทางเลือกสุขภาพ พบว่า ยังไม่มีแบรนด์ไหนที่รับประทานแล้วอร่อยถูกปากและถูกสุขภาพ (และไม่เจ็บคอด้วยค่ะ!) ส่วนใหญ่ คือ
แบบทอด และแบบอบกรอบ ทำให้นึกถึงขนมที่ทานบ่อยๆ ชนิดหนึ่งที่ใช้วิธีการ ‘ป๊อป’ หรือ กระบวนการใช้ความร้อนและแรงดันในการทำให้วัตถุดิบมีรูปทรงที่ต้องการคล้ายๆ ป๊อปคอร์นนั่นเอง แต่ทำยังไงให้แตกต่าง จึงคิดถึงข้าวที่โรงงาน! หาข้อมูล และเดินทางไปดูเครื่องจักรเอง และเลือกที่ดีที่สุด คือ เทคโนโลยีการผลิตจากประเทศเยอรมัน เอามาทดลองโดยใช้ข้าวในโรงงาน ก็คิดว่าคงธรรมดา แต่ถ้าเป็นข้าวกล้องแทนน่าจะดีกว่า หลังจากลองผิดลองถูกกว่า 2 ปี จึงเกิดเป็นขนมธัญพืชป๊อป (ปกติในตลาดจะมีแต่ขนมทอดกรอบ และขนมอบกรอบ) เลยตั้งใหม่เลยค่ะ เป็นขนมป๊อป โดยเป็นขนมธัญพืชป๊อบ ข้าวกล้องขาว ข้าวกล้องแดง และข้าวโพด ภายใต้แบรนด์ FITTO (ฟิตโต้) พร้อมนิยามใหม่ คือ อร่อยเหลือเชื่อ.. ประโยชน์เหลือเฟือ!
ธนันพัชญ์ ไม่ได้มีความรู้ หรือ พื้นฐานด้านอุตสาหกรรมอาหาร หรือ Food Science เลย ในช่วงแรกของการทำธุรกิจ จึงต้องทำการบ้านมากกว่าคนอื่น ลงมือทดลองทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง โดยเงินทุนก้อนแรกมาจากเงินสะสมส่วนตัว ราว 1 ล้านบาท ล้มลุกคลุกคลานมาก ทำแล้วออกมาไม่ถูกใจ ไม่กรอบ ไม่อร่อย ไม่ได้มาตรฐาน ต้องโยนทิ้งหมด พอวันที่ทำสูตรแรกออกมาได้ดีใจมาก คิดว่าน่าจะพอขายได้แล้ว ลองเอาไปวางขาย แทบขายไม่ออก
คนชิมแล้วบอกอร่อยซื้อครั้งเดียว หรือไม่ก็ไม่ซื้อเลย เดือนนึงขายได้ไม่ถึง 100 ห่อ กลับมานั่งถามตัวเองว่าเพราะอะไร แล้วก็ต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นคนชอบกินขนม ขนาดเป็นเราเป็นคนทำ ยังชิมแล้วไม่อยากชิมอีกเลย แล้วลูกค้าจะอยากกินหรอ แล้วเราจะทำยังไงให้ขนมที่ไม่ทำลายสุขภาพต้องอร่อยเหมือนขนมที่เราชอบกิน สรุปรื้อใหม่หมดตั้งแต่ต้น ค่าแรงคนงานทุกเดือนต้องจ่าย เงินหมด กำลังใจหมด ทะเลาะกับทุกคนเพราะทุกคนคิดว่าทำไมไม่ยอมขายๆไปก่อน ใช้เวลาอีกเกือบ 2 ปี กว่าจะพัฒนาสูตรที่ขายปัจจุบันได้ แต่คิดว่าคุ้มเพราะตรงใจเรา และดีที่สุด คือ เป็นขนมทางเลือกเพื่อสุขภาพ และต้องอร่อย! ย้ำมากๆ ค่ะ ว่าต้องอร่อย! วัตถุดิบดี ส่วนผสมไม่ทำลายสุขภาพ และไม่เจ็บคอ (ยิ้ม) ในราคาสบายกระเป๋าด้วยเพียง 20 บาท
ปัจจุบัน ฟิตโต้ มีให้เลือก 3 รส ได้แก่ รสดั้งเดิม, รสสไปซี่บาร์บีคิว และรสชีส มีวางจำหน่ายแล้วที่เซเว่น อีเลฟเว่น, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, แฟมิลี่ มาร์ทและลอว์สัน 108 ทั่วประเทศ
"รัจเชื่อว่า ทุกการเริ่มต้นไม่ง่าย ปัญหาและอุปสรรคมีให้พบและเรียนรู้ทุกวัน ถ้าเรายอมรับและเรียนรู้ไปกับมัน มันก็จะทำให้เราเข้มแข็งและเติบโตพร้อมสู้กับเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดังหวังหรือไม่ก็ตาม" ผู้ก่อตั้งบริษัท ฟิตโต้ กรุ๊ป กล่าว