Gloria Jean's Coffees ไลฟ์สไตล์กาแฟจากออสเตรเลีย
ร้านกาแฟระดับพรีเมียมจากออสเตรเลีย เสาะหาเมล็ดกาแฟคัดพิเศษเฉพาะสายพันธุ์อาราบิก้า 100% จากทุกแห่งที่ดีที่สุดของโลก และเลือกใช้เมล็ดกาแฟกว่า 85 เปอร์เซ็นต์จากฟาร์มที่ได้รับการรับรอง Rainforest Alliance Certified
ในลำดับประเทศที่มี ‘วัฒนธรรมการดื่มกาแฟ’ เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ออสเตรเลีย คือหนึ่งในห้าอันดับแรกของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษที่ผู้คนนิยมและให้ความสำคัญกับการดื่มกาแฟ
คนออสเตรเลียเรียกร้านกาแฟว่า ‘คอฟฟี่เฮาส์’ และหนึ่งในร้านกาแฟที่ชาวออสซี่เลือกให้เป็นตัวแทนความพิเศษของกาแฟอย่างแท้จริง คือร้านกาแฟชื่อ Gloria Jean’s Coffees(กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่)
“ร้านกาแฟแห่งแรกของ กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา” วรรณนที บุญจันทร์ ที่ปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์การตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท พรีโม ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย กล่าว
ย้อนกลับไปในปีค.ศ.1979 กลอเรีย จีน คเวทโก้(Gloria Jean Kvetko) เปิดร้านขายของชำอยู่ที่เมืองชิคาโก้ รัฐอิลินอยด์ สหรัฐอเมริกา ภายในร้านมีมุมกาแฟอยู่ด้วย ได้รับความนิยมจนขยายร้านได้เรื่อยๆ
จนในปีค.ศ.1995 สองนักธุรกิจชาวออสเตรเลียด้านกาแฟผู้ซึ่งทั่วโลกให้การยอมรับในเรื่องความรู้และความชำนาญ นาบี ซาเรห์ และ ปีเตอร์ ไอร์วีน ผ่านมาพบและตกหลุมรักร้านกาแฟของกลอเรีย จึงเจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์ร้านกาแฟมาสู่ประเทศออสเตรเลีย โดยมีร้านแรกตั้งอยู่ที่มิแรนดา(Miranda)ย่านชานเมืองทางตอนใต้ของซิดนีย์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และใช้ชื่อร้านว่า กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ หรือเรียกกันย่อๆ ว่า “จีเจซี” (GJC-Gloria Jean’s Coffees)
ด้วยความรักและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกาแฟและประสบการณ์ที่มากมายในด้านธุรกิจเฟรนไชส์ ผู้ถือลิขสิทธิ์จึงทำ กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ มีระบบเฟรนไชส์ที่มีประสิทธิภาพ มีแนวทางบริหารที่แน่วแน่ รวมถึงทีมงานที่มุ่งมั่น กระตือรือร้น บาริสต้าทุกคนทุ่มเทเพื่อร้านกาแฟและเพื่อความพึงพอใจอันสูงสุดของลูกค้า เพื่อให้ได้กาแฟแก้วที่ดีที่สุดและคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ มอบบริการด้วยความใส่ใจ ในบรรยากาศร้านที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ให้ผู้ที่ได้ดื่มกาแฟของ ‘จีเจซี’ สัมผัสได้ถึงความเป็นครอบครัวร้านกาแฟที่เป็นหนึ่งเดียวกัน จนได้รับรางวัลผู้ประกอบการการขายธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีการเติบโตก้าวหน้าที่สุดช่วงต้นปี 2000
ปัจจุบัน กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ มีสาขากว่า 800 แห่ง ใน 50 ประเทศ ซึ่งบริษัท พรีโม ฟู้ดฯ ซื้อลิขสิทธิ์มาเปิดในเมืองไทยตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 โดยขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เน้นหลักที่สนามบิน(สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต) และแหล่งธุรกิจ รวม 13 สาขา
วรรณนที บุญจันทร์
คุณวรรณนทีกล่าวว่า กลอเรีย จีนส์ฯ ใช้ เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ เมล็ดกาแฟแต่ละกลิ่นแต่ละถุงมีคาแรคเตอร์ไม่เหมือนที่อื่น เพราะเมล็ดกาแฟคัดสรรมาจากแหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ดีที่สุดของเมืองนั้นๆ จากทั่วทุกแห่งที่ขึ้นชื่อที่สุดของโลก หลังจากได้ลูกเชอร์รี่กาแฟที่ดีที่สุดแล้ว เมล็ดเหล่านั้นจะส่งเข้ากระบวนการคั่วที่โรงคั่วกาแฟในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทั้งแบบเบลนด์และแบบซิงเกิลออริจิน ทุกขั้นตอนล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่ให้กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแต่ละแหล่งกำเนิดอย่างสมบูรณ์ที่สุด และเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วทุกเมล็ดจะบรรจุในบรรจุภัณฑ์ชนิด one-way valve bag ซึ่งอากาศไม่สามารถเข้าไปข้างในถุงได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากาแฟทุกถุงที่ส่งไปยังร้านกลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ ทั่วโลกคงความสดใหม่และเป็นมาตรฐานเดียวกัน รอวันสกัดมาเป็นกาแฟแก้วโปรด ซึ่งที่ กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย ก็ได้รับมาตรฐานนี่เช่นเดียวกัน โดยมีผู้เชี่ยวชาญกาแฟ พจนีย์ ช้างเจริญ Training and Development Officer เป็นผู้ควบคุมมาตรฐานเครื่องดื่มให้อยู่ในระดับเดียวกัน
พจนีย์ ช้างเจริญ แสดงขั้นตอนการชงกาแฟบด French Vanilla ของ ‘จีเจซี’ ด้วยเครื่องชงไซฟอน (Syphon) ประกอบด้วยผ้ากรอง โซ่นำความร้อน โคมแก้วด้านบน โคมแก้วด้านล่าง และเบิร์นเนอร์(ตะเกียงให้ความร้อน) ใช้หลักการแรงดันน้ำและสุญญากาศ นึกถึงเวลาทำกับข้าว เมื่อปิดฝา ไอน้ำไม่มีทางออก ก็จะดันตัวขึ้นไปอยู่ที่โคมแก้วด้านบนรอการผสมกับกาแฟบดที่จะเทลงไป คนกาแฟแล้วดับตะเกียง น้ำกาแฟจะค่อยๆ ไหลกลับลงมาที่โคมแก้วด้านล่าง บาริสต้าจีเจซีจะยกเครื่องชงไซฟอนมาบริการให้ชมที่โต๊ะ เสิร์ฟ 2 ถ้วย/140 บาท
“กลอเรีย จีนส์ฯ ใช้เมล็ดกาแฟจาก 3 ทวีปหลักที่ปลูกกาแฟได้ ซึ่งเมล็ดกาแฟแต่ละที่มีคาแรคเตอร์เด่นแตกต่างกัน” พจนีย์ กล่าวและอธิบายเพิ่มเติมว่า สามพื้นที่หลักได้แก่ ละตินอเมริกา ประกอบด้วยอเมริกากลาง อเมริกาใต้ เช่น โคลอมเบีย บราซิล เมล็ดกาแฟให้กลิ่นช็อกโกแลต กล่อมกล่อมในตัว, ทวีปแอฟริกา อาทิ เคนยา เอธิโอเปีย ให้แอซิดิตี้ของกาแฟ ได้กลิ่นแล้วชวนน้ำลายสอ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกเปล่งปล่งมีชีวิตชีวา, เอเชียแปซิกฟิก เช่น อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เด่นเรื่องบอดี้กาแฟ ค่อนข้างเข้ม
นอกจากกาแฟที่ชงด้วยเครื่องเอสเพรสโซ่มาตรฐาน จีเจซียังให้บริการกาแฟที่ผ่านการชงแบบคลาสสิกอย่าง ไซฟอน(Syphon) ดริป(Drip) และ พังก์เจอร์(Puncture หรือ French Press) ให้รสชาติและกลิ่นกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ชัดขึ้น พร้อมนำเสนอวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่ไม่ได้มีเฉพาะช่วงเช้า
“เรามีกาแฟสำหรับมื้อหลังอาหาร หลังของหวาน ดื่มยามบ่าย ต่างกันที่ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟ และกาแฟที่ดี ดื่มแล้วไม่ใจสั่น ไม่ตื่นตัว สามารถดื่มได้ทั้งวัน” คุณวรรณนที กล่าว
“ยามเช้าเราแนะนำกาแฟคั่วดาร์คผสมมีเดียม ยามบ่ายแนะนำกาแฟเบาๆ เช่น อินฟิวชั่น คือกาแฟแต่งกลิ่นของกลอเรีย จีนส์ฯ หลักๆ คือกลิ่นเฮเซลนัท หรือเฟรนช์วานิลลากับช็อกโกแลตแมคคาเดเมีย คั่วระดับมีเดียม หรือเหมาะสำหรับผู้เริ่มดื่มกาแฟใหม่ๆ เหมือนกลิ่นของหวานแต่รสชาติยังเป็นกาแฟ” พจนีย์ ยกตัวอย่าง
โวลเทจ(Voltage)
เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ อาทิ โวลเทจ (Voltage) บาริสต้าผสานความหอมของวานิลลาและนม ปั่นรวมกันกับเมล็ดกาแฟเอสเพรสโซ่ ออนท็อปด้วยเอสเพรสโซ่ช้อต(Espresso Shot) เพื่อความเข้มข้นของคนชอบกาแฟสายปั่น แก้วเล็ก 130 บาท แก้วกลาง 150 บาท แก้วใหญ่ 185 บาท
ชาวออสซี่นิยมดื่ม ‘ช็อกโกแลตร้อน’ จีเจซีที่นี่ก็มีเครื่องดื่มประเภทช็อกโกแลต ใช้ช็อกโกแลตจากออสเตรเลีย อาทิ ดาร์คช็อกคาราเมล (Dark Choc Caramel, 125 บาท) สูตรนี้มีส่วนผสมของกาแฟ เหมาะสำหรับคนชอบเครื่องดื่มประเภทมัคคิอาโต้(macchiato)
ดาร์คช็อกคาราเมล(Dark Choc Caramel)
แมงโก โมฮิโต้(Mango Mojito)
แต่ละฤดูยังสร้างสรรค์เครื่องดื่มพิเศษ เช่นแคมเปญ รีเฟรชชิ่ง แมงโก(Refreshing Mango) เครื่องดื่มประจำฤดูร้อนที่ใช้มะม่วงเป็นวัตถุดิบหลัก อาทิ แมงโก โมฮิโต้ (Mango Mojito) ปลุกความซาบซ่าด้วยเครื่องดื่ม Mocktail มาพร้อมหอมสดชื่นอย่างเป็นเอกลักษณ์ของกลิ่นใบมิ้นต์ เพิ่มรสเปรี้ยวนิดๆ ด้วยน้ำมะนาวสด เคล้ากลิ่นมะม่วง และ ไอซ์ คอฟฟี่ ยูซุ โซดา (Iced Coffee Yuzu Soda) กาแฟที่ให้ความสดชื่นจากยูสุสายพันธุ์ดีจากญี่ปุ่น ความซ่าบซ่าของโซดา ออนท็อปด้วยกาแฟดำ(Black Coffee)จากกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ สูตรพิเศษจากกลอเรีย จีนส์ฯ ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาด้วยรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัวของความเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นกาแฟ
ไอซ์ คอฟฟี่ ยูซุ โซดา(Iced Coffee Yuzu Soda)
แมงโก้ สติกกี้ ไรซ์ มูส ทาร์ต(Mango sticky rice Mousse Tart)
ร่วมด้วย แมงโก้ สติกกี้ ไรซ์ มูส ทาร์ต(Mango sticky rice Mousse Tart, 110 บาท) ทาร์ตข้าวเหนียวมะม่วงเนื้อมูสแน่นเนียนนุ่มสีเหลืองสดใส มีทั้งเนื้อมะม่วงคัดพิเศษ รสชาติหวานฉ่ำกำลังดี ข้าวเหนียวมูนเนื้อนุ่มเต็มคำ มูสครีมมะม่วงเนื้อละมุน มีเฉพาะที่ กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ ประเทศไทยเท่านั้น
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ร้านกาแฟกลายเป็นพื้นที่ที่ 3 (Third place) เปิดกว้างให้ ‘คนเมือง’ ใช้เป็นสถานที่ทำงานอีกแห่ง นั่งได้นานตลอดวัน นัดพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์
กลอเรีย จีนส์ฯ จึงออกแบบให้มีอาหารไว้บริการ เช่น สลัด คลับแซนด์วิชที่ซิกเนเจอร์ของกลอเรียฯ และเบเกอรี่หลากหลายชนิด
Chicken Teriyaki Puff ชิ้นละ 70 บาท
Chocolate Ganarch ชิ้นละ 45 บาท
Butter Croissant ชิ้นละ 65 บาท
สปาเกตตีโบโลเนสหมูสับ
สำหรับสาขาในเมืองไทย ได้รับอนุญาตให้บริการอาหารตะวันตกและอาหารไทยที่รับประทานได้สะดวก รวดเร็ว รับประทานได้ทุกวัน เช่น ข้าวแกงเขียวหวานไก่(155 บาท) ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว(129 บาท) ข้าวพะแนงหมู(155 บาท) สปาเกตตีโบโลเนสหมูสับ(160 บาท) และชาวต่างชาติก็รับประทานได้ รวมทั้งอาหารฟิวชั่น อาทิ สปาเกตตีต้มยำกุ้ง (165 บาท)
สาขาที่มีบริการอาหารได้แก่สาขาที่อาคารมาลีนนท์, สาทร-นราธิวาสฯ ซอย 9 และ สุขุมวิท ซอย 62
จีเจซี ซิกเนเจอร์ ชีสเค้ก(GJC’s Signature Cheesecake)
ของหวานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มาถึงร้านแล้วต้องชิม จีเจซี ซิกเนเจอร์ ชีสเค้ก (GJC’s Signature Cheesecake, 125 บาท) ชีสเค้กเนื้อเนียนแน่น สูตรลับเฉพาะจากกลอเรีย จีนส์ฯ รสชาติไม่เหมือนใครด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียม ความแน่นของชีส หอม-มัน รสละมุน ไม่หวานมาก ทั้งยังเติมความพิเศษให้กับหน้าชีสเค้กด้วยเทคนิคการทอร์ช (Torch) พ่นเปลวไฟเผาน้ำตาลที่โรยบนหน้าชีสเค้กจนน้ำตาลเริ่มไหม้และเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลแบบเดียวกับการทำเครมบรูเล่ เพิ่มกลิ่นหอมให้กับชีสเค้ก
จีเจซีประเทศไทย มีโอกาสนำกาแฟคุณภาพบริการคอกาแฟทั่วประเทศมากขึ้น
“เราได้รับความไว้วางใจจากบริษัทเชฟรอน คือปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ให้ทำร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน” คุณวรรณนที กล่าวและว่า โดยแตกแบรนด์ออกไปในชื่อ เอ็กซเพรสโซ บาย กลอเรีย จีนส์ (Expresso by Gloria Jean’s) ขณะนี้เปิดบริการแล้วที่สถานีบริการน้ำมันเพชรคลองหนึ่ง(ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรมนวนคร) มาบเอียง(มอเตอร์เวย์ก่อนแยกเข้าพัทยา) พัทยากลาง(ริมถนนสุขุมวิท) เพชรพระเทพ(สามแยกไฟฉาย) และ ระยอง(ไฮเวย์36)
กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ ยังร่วมมือกับองค์กร Rainforest Alliance ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมในการอนุรักษ์และพิทักษ์สัตว์ป่า พืชพันธุ์ธรรมชาติ ระบบนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังส่งเสริมการสร้างที่อยู่อาศัย ให้การศึกษาทางด้านการผลิต และการสร้างอาชีพให้แก่ชุมชนท้องถิ่นในหลายๆประเทศ
จากความร่วมมือดังกล่าว กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ จึงเลือกใช้เมล็ดกาแฟกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ จากฟาร์มที่ได้รับการรับรอง Rainforest Alliance Certified และนี่ก็คือความลับเบื้องหลังกาแฟทุกแก้วที่ลูกค้าได้รับจากร้านกลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่
ซึ่งคอกาแฟสามารถร่วมสร้างและเปลี่ยนแปลงชีวิตในชุมชนที่รอคอยความชวยเหลือได้
ร้าน Gloria Jean's Coffees สาขาสาทร-นราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 9 เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00-20.00 น.
มี Private Zone รองรับแขกได้ 20 ที่นั่ง มีที่กั้นห้องสำหรับจัด mini party หรือ meeting room นอกสถานที่, บริการ Free WiFi
FB/Gloria Jean's Coffees Thailand
-----------------------
ภาพ : อนันต์ จันทรสูตร์