'ทราย เจริญปุระ' ​ท่องเที่ยวคือการพักผ่อน

ในเรื่องของการเดินทาง เธอไม่มีความคิดเรื่องที่ว่าจะต้องไปพิชิตที่ไหนอย่างไร แต่จะเป็นแบบชอบที่ไหนก็ไปแต่ที่นั้น 

“ทรายเป็นคนชอบทำอะไรซ้ำๆ มาก ทรายรู้สึกว่า เราไม่ได้พร้อมจะผจญภัย เราอยากไปแล้วพัก ถ้าให้ไปตระเวนในที่ใหม่ๆ ต้องทำการบ้านไป ทรายจะขี้เกียจไง เป็นวิธีการเที่ยวที่ตรงกันข้ามกับหลายๆ คน ที่เขาชอบไปที่อื่น ปีนี้ไปที่นี่แล้ว ปีหน้าไปที่โน่นสิ แล้วประเทศหนึ่งก็ต้องไปให้เหนือจรดใต้ แต่ทรายไม่เอา ถ้าตรงนี้ดี เราจะมาอีก เมื่อเราอยากพักผ่อนจริงๆ 

สถานที่ชอบ ที่ไปทุกปีคือ โตเกียว ชีวิตทรายที่แฮปปี้ จะมีเรื่องการกิน ความสุขของเราคือการกิน การได้อยู่ในที่สบายๆ อากาศดีๆ ทุกอย่าง facility เขาดีหมด ถ้าอยากไปดูป่า ก็นั่งรถไฟไปได้ มันกำลังดีทุกๆ อย่างค่ะ อย่างน้อยก็อาทิตย์หนึ่งขึ้นไป แล้วก็พักที่เดิม ชอบมาก จะให้นั่งรถไปเมืองไหนก็ได้แต่ base ทรายต้องอยู่โตเกียว

คือชอบจนจำได้แล้วว่า ไปแล้วไปกินเมนูนี้่ที่ร้านนี้ มันคือการพักผ่อนเลย เวลาทำงานจะคอยบอกตัวเอง เดี๋ยวปีหน้าไปโตเกียวไง ไปเดินตรงนี้ไง เรารู้ว่าเราจะไปที่ไหน เราจะได้ทำอะไรแน่ๆ มันจะเป็นความสบายใจบางอย่างที่สายผจญภัยอาจจะไม่เข้าใจ เขาจะบอกว่า เฮ้ย คุณต้องไปเจอที่อื่นๆ ซี่ ไม่ล่ะ ฉันต้องการเจอที่เดิม ที่เหมือนเดิม เป็นความอบอุ่นทางใจ เป็นความมั่นคงทางจิตใจ เล่นละครบางทีสวิงมากแล้ว เปลี่ยนเป็นบทคนโน้นคนนี้ ขอมั่นใจอะไรสักอย่างเหอะในชีวิต”

แม้ว่าร้านประจำที่เคยกินจะหายไป... "ทรายก็เอาวะ อากาศมันก็ต้องดี เดือนนี้อากาศมันดีทุกครั้ง มันมีความสบายใจอย่างนี้อยู่ แล้วก่อนไป เราก็ทำงานๆ เราจะเหนื่อยจนไม่มีเวลามา Set จะไปที่ไหน จะอะไรยังไง ทีนี้ไปที่มันคุ้นเคย มันจะสบายมาก ไม่ต้องคิดว่าจะต้องเดินทางจากตรงนี้ไปตรงนั้น จะเริ่มประสาทเสีย ถ้าร้านมันหายไปก็กระเถิบไปกินร้านถัดไป มันไม่เปลี่ยนทั้งล็อคหรอก มันต้องมีอะไรที่เราคุ้นเคยอยู่บ้าง ส่วนฤดูกาลที่ไป ต้องหนาวค่ะ หนาวเท่านั้น เป็นการพัก นอนฉ่ำๆ ตื่นกี่โมงก็ได้ เป็นการแก้แค้นอย่างหนึ่ง คือเวลาทรายถ่ายละคร ถ่ายหนังที่เมืองไทย เวลาร้อนเราก็ต้องร้อนกว่าคนอื่น คือเราใส่หมวกก็ไม่ได้ ต้องอยู่ในชุดอย่างนั้น ถ้าหนาว ทรายก็ต้องใส่ชุดที่มัน Continue จะใส่เครื่องกันหนาวก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเวลาอยู่ในที่หนาวก็เลยใส่เต็มที่ ใส่ 3 ชั้นเข้าไปเลย มีความสุข ฟินไปอีก ฟินเอง สนุก”

ส่วนเรื่องผิดคาดผิดคิว ไม่เคยมี จะมีก็แต่ผิดคาดแล้วกลายเป็นสิ่งที่ดีกว่าเดิม...

“มีครั้งหนึ่ง ไปอินเดีย แหวกแนวจากความเป็นทรายมากๆ วัยเรายังได้ สังขารเรายังไหว ก็ลองดู มีคนตั้งกรุ๊ปขึ้นมาว่าไปเที่ยวกันมั้ย ยังขาดคนหาร แพลนทุกสิ่งทุกอย่างไว้แล้ว นอนที่ไหน อะไรยังไง ไม่ต้องคิดอะไรเลย ตามๆ เขาไป คืนก่อนที่จะไปทรายถ่ายหนังอยู่ จนนาทีสุดท้าย ให้รถกองถ่ายไปส่งขึ้นเครื่อง ไม่รู้อะไรเลย ขนกระเป๋าไป แล้วก็โหลด ไม่รู้อากาศ ไม่รู้ที่นอน เอาวะ เป็นอีกมุมหนึ่งที่เราไม่คาดหวังอะไรเลย มันก็ดีนะ เพราะเขาวางแผนมา พอไปถึงก็ไม่ได้เลวร้าย ไม่ได้ระหกระเหิน ไม่ได้ยากเกินไป ไปมุมไบ ไปใจปูร์ ต้องนั่งรถเช่าไป ทรายนั่งข้างคนขับแล้วเขาก็บีบแตรไปตลอดทางเลย ชั่วโมงแรกทรายประสาทเสียมาก สักพักก็ชินแล้วก็หลับได้ในท่ามกลางเสียงแตร พอไปถึงสนามบินอินทิราคานธีชื่อเดียวกันเลย เป็นลางดี ตม.ทุกคนออกเสียงฉันชัดหมด ฝรั่งไม่เคยออกเสียงฉันชัดเลย นี่คือเมืองของฉัน มันเลยรู้สึกบวก จากที่ไม่ได้คาดหวัง กลายเป็นหรูหรา ไปเมืองของตัวเอง แต่ให้ไปอีกก็คิดเยอะๆ มากๆ เลยล่ะ ทรายนับถือนะคุณแม่คุณป้าคุณน้าที่เขาไปสังเวชนียสถานทั้ง4 มันต้องนั่งรถไกล นานมาก แต่ทรายไม่ไหว อ้อ... มีทริปหนึ่งที่เฟล ที่ตุรกี จะไปขึ้นบอลลูนที่ Cappadocia ก็จองไว้ ตั้งใจมาก เป็นไฮไลท์น่ะ แต่ปรากฏว่าปีนั้นฤดูหนาวมันเลื่อนมานานกว่าที่ควรจะเป็น มันควรจะหมดฤดูหนาวไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่มันยังหนาวอยู่ แล้วลมมันแรง ก็เลยขึ้นบอลลูนไม่ได้ เชื่อไหมว่าตื่นตี 4 มา 3 วันเพื่อมารอ แล้วก็ไม่ได้ โอเค.ทรายเข้าใจ มันเป็นเรื่องของเซฟตี้ แล้วเมืองมันไม่มีอะไรนอกจากบอลลูน ก็ใช่ซี่ วันที่กลับยังได้ยินคนคุยกันว่าวันนี้ได้ไปขึ้นบอลลูนมา นี่ล่ะ เฟลสุด”

ยังคงยืนยันหนักแน่นว่าการเดินทางของทรายไม่เหมือนใคร...

“เวลาไปเที่ยว ไม่ไปเป็นกลุ่ม รำคาญ แต่ก่อนไปคนเดียวได้ ทรายไม่มีปัญหาอะไร ตอนหลังมีแฟน แฟนจะไปด้วยก็ได้ ยังไงต้องตามใจทรายอยู่ดี ดังนั้นมันก็ไม่ได้ต่างอะไร...  ฝากแฟนๆ ติดตามละครเรื่องเพลิงริษยาด้วยนะคะ เปิดช่อง 8 ดูเลยค่ะ ทุกวันจันทร์ถึงวันพฤหัส ดิฉันเป็นแม่ชี จะเห็นแม่ชีหน้าคุ้นๆ คือดิฉันเอง แล้วก็มี Podcast : I’m ทราย,Thank You ทำกับ Salmom Podcast หาฟังได้ที่ Spotify apple youtube SoundCloud ได้ตามช่องทางปกติ แล้วก็ทรายเขียน “รักคนอ่าน”ลงใน “มติชนสุดสัปดาห์” ทุกๆ วันศุกร์ค่ะ"