เลี้ยงหรู แบบไม่ต้องมี 'หูฉลาม' ก็ทำได้!
ลบความเชื่อ "หูฉลาม" เท่ากับ "ความหรู" โดยตัวจริงแห่งวงการแคเทอริ่งระดับลักชัวรี่ "เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร" แห่งปาร์คนายเลิศ ซึ่งไม่เคยใส่หูฉลามในเมนูให้แขกเลือกเลย!
จากดราม่า "หูฉลาม" ที่กลุ่มเอ็นจีโอโพสต์ถามความเหมาะสมกรณีรัฐบาลจัดงานเลี้ยงที่มีเมนูหูฉลาม พร้อมเรียกร้องร่วมสร้างบรรทัดฐานใหม่ เลิกเสิร์ฟ เลิกทานหูฉลามในงานเลี้ยงในอนาคต
ในประเด็นนี้ หากจะมองแง่ดีสุด ๆ เป็นไปได้ไหมว่า ฯพณฯ ทั้งหลาย อาจไม่ได้เป็นคนจิ้มเลือกเองว่า "จะต้องเสิร์ฟหูฉลามเท่านั้น" หรือเปล่า ?
ซึ่งหากเป็นแบบนั้น สิ่งที่น่าคิดต่อ คือ จะทำอย่างไร ให้เหล่าผู้รับผิดชอบ "งานจัดเลี้ยง" ให้แก่ นายๆ ทั้งหลาย ตระหนักคิดได้ว่า จริงๆ แล้ว เรายังสามารถเสิร์ฟเมนูทดแทนอื่นๆ ที่ยังคงความหรูให้มื้อสำคัญได้ โดยไม่ต้องรบกวนนักฆ่าแห่งท้องทะเล!
โดยเฉพาะในวันที่เรายังหวังให้การ "แบนหูฉลาม" ออกจากปากเหล่าผู้นำอย่างเป็นทางการไม่ได้ ที่น่าจะต้องทำความเข้าใจกันใหม่ ก็น่าจะเป็นความเชื่อผิดๆ ที่ว่า "หูฉลาม" เท่ากับ "ความหรู"
ถ้าเป็นอาหารจีน เราเองไม่เคยใส่เมนูหูฉลามให้แขกเลือก แต่เราก็หรูได้ด้วยเมนูซุปอื่นๆ เรามี ซุปกระเพาะปลาสด, ซุปไก่ดำ แล้วก็มีซุปเยื่อไผ่แต่ใส่ความแพงของโคตรปูเข้าไป เป็นซุปเยื่อไผ่เนื้อปูเสฉวน
“เท่าที่เห็น คนเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้มองหูฉลามว่าเป็นเมนูหรูนะ.. แล้วแค่หูฉลามอย่างเดียว จะเรียกว่าหรูได้เหรอ มันไม่ใช่ปะ?” เสียงสะท้อนจาก ‘ตัวจริง’ แห่งวงการแคเทอริ่งชั้นหรูอย่าง เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร ทายาทปาร์คนายเลิศ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท สมบัติเลิศ จำกัด เครือนายเลิศ กรุ๊ป ผู้บริหารธุรกิจจัดเลี้ยง "ไวท์บัส เคเทอริ่ง" ที่จัดมื้อหรูให้กับแขกระดับอีลีทมานักต่อนัก หัวละ 5 หมื่นก็ยังเคยทำมาแล้ว
“ความหรูมันไม่มีที่สิ้นสุดหรอกค่ะ แล้วมันก็ไม่ได้จำกัดว่า จะต้องหูฉลามเท่านั้น มันยังมีวัตถุดิบอื่นๆ ที่สะท้อนความหรูได้อีก มันยังมีคาเวียร์ ฟัวกราส์ ทรัฟเฟิล มีเนื้อวากิวพรีเมียม มันแทรก เกรด A5
หรือถ้าเป็นอาหารจีน เราเองไม่เคยใส่เมนูหูฉลามให้แขกเลือก แต่เราก็หรูได้ด้วยเมนูซุปอื่นๆ เรามี ซุปกระเพาะปลาสด, ซุปไก่ดำ แล้วก็มีซุปเยื่อไผ่แต่ใส่ความแพงของโคตรปูเข้าไป เป็นซุปเยื่อไผ่เนื้อปูเสฉวน” เธอเล่า
เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร
และยังฝากคำแนะนำถึงใครก็ตามที่ต้องรับหน้าที่จัดการเรื่องงานเลี้ยงสำหรับแขก VVIP ทั้งหลายว่า อย่าคิดแค่ใส่หูฉลามไปในเมนูแล้วจะจบ เพราะความหรูที่แท้จริงยังมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมาย
“อาหารมันเป็นแค่ส่วนเดียวของคำว่า หรู แต่มันต้องใส่รายละเอียดกันไปตั้งแต่หลังครัว วัตถุดิบที่ใช้ การปรุง จนถึงวิธีการเสิร์ฟ ถ้ารันเนอร์ (พนักงานเสิร์ฟ) เดินเร็วจนซอสกระฉอก ก็ไม่ได้แล้ว” เธอกล่าว
และยังร่ายยาวถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องสัมพันธ์กับคำว่า “หรู” ยังมีตั้งแต่การจัดไฟลงไปบนโต๊ะ ทำให้แขกรับประทานสะดวกไหม ช่วยให้อาหารสวยขึ้นไหม แอร์ที่เปิดเย็นไปหรือเปล่า ลงหัวแขกไหม ดนตรีเป็นยังไง ผ้าปูโต๊ะเรียบร้อยดีไหม ถ้าจัดเอาท์ดอร์ แขกโดนยุงกัดหรือไม่
โดยส่วนตัวเธอเอง ในฐานะเซเลบริตี้คนหนึ่งที่ออกงานอีเวนท์ รับเชิญไปซิทดาวน์ดินเนอร์สุดหรูอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งด้วยความที่ตัวเองอยู่ในธุรกิจนี้ด้วย การไปออกงานทุกงานจึงเป็นเหมือนการรีเช็คความหรูของผู้จัดเจ้าอื่นๆ ไปด้วยในตัว
“การจัดเลี้ยงที่ดี มันต้องรวมไปถึงบรรยากาศงาน ผ้าปูโต๊ะเรียบไหม เสิร์ฟอาหารอะไร ในอุณหภูมิที่ได้ไหม โดยเฉพาะการจัดงานหรูๆ ถ้าจัดในสเกลหลักร้อยนี่ปราบเซียนมากเลย ถ้าสามารถเสิร์ฟ อาหารออกมาไม่ชืด เสิร์ฟซุปที่ยังร้อนๆ เสิร์ฟไวท์ไวน์ในอุณหภูมิที่ใช่ ได้ คือ เจ๋งจริง”
..ยืนยันโดยตัวจริงเสียงจริงแบบนี้ ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ถ้าอยากจะจัดเลี้ยงให้หรูจริงสมกับความ VVIP ของท่านๆ ทั้งหลาย ก็คงต้องคิดแบบใหม่ และเปลี่ยนเมนูใหม่ๆ กันได้แล้ว!