ขนมโบราณ อาหารชาวบ้านเกาะเกิด
เกาะเกิดแห่งนี้มีภูมิปัญญา ไปเยือนบ้านเกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งทีจึงต้องมีกิจกรรม มาหัดทำขนมโบราณ รับประทานอาหารชาวบ้าน สัมผัสวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปล่อยชีวิตให้เดินช้าๆไปกับชาวเกาะเกิด
เกาะเกิด เกิดกลางน้ำ
เกาะเกิด นั้นมีเรื่องเล่าว่าเดิมทีหาได้มีเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณนี้แต่อย่างใด หากเกิดเพราะมีเรือสำเภาจากเมืองจีนที่เดินทางเข้ามาค้าขายในกรุงศรีอยุธยาเกิดมาล่มกลางน้ำ วันเวลาผ่านไปดินตะกอนพัดมาทับถมเข้าจึงกลายเป็นเกาะที่เกิดขึ้นอยู่กลางน้ำ ชาวบ้านจึงเรียกว่าเกาะเกิดแล้วพากันมาตั้งบ้านพักอาศัยอยู่กันจนกระทั่งประชากรเริ่มมีมากขึ้น ทำให้ขยับขยายออกมาอาศัยอยู่บนฝั่งแต่ก็ยังเรียกหมู่บ้านนี้ว่าเกาะเกิดมาจนกระทั่งปัจจุบัน
เกิดภูมิปัญญา
ใครที่กำลังท้ออย่าเพิ่งถอย ถ้าได้คุยกับ ป้าพูน – ลำพูน พรรณไวย อดีตผู้ใหญ่บ้านวัยเกษียณแล้วจะรู้ว่าชีวิตไม่ง่าย อยากพบกับความสำเร็จต้องอดทน เพราะกว่าจะรวบรวมสมาชิกชาวเกาะเกิดให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนเหมือนในวันนี้ที่มีทั้งกลุ่มโฮมสเตย์บ้านเกาะเกิด ชมรมท่องเที่ยวเกาะเกิด ได้สำเร็จนั้น ล้มลุกคลุกคลานมาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง แถมยังป่วยจนแทบเอาชีวิตไม่รอด
“ตอนนั้นป้าคิดว่าต้องตายแน่ๆ ร่างกายแทบไม่มีภูมิคุ้มกัน น้ำหนักตัวเหลือเพียง 40 กิโลเท่านั้น” ป้าพูนเล่าด้วยท่วงทำนองที่รวดเร็ว
เมื่อร่างกายประท้วง ทำให้ป้าพูนได้คิดว่าต้นตระกูลนั้นมีตำราตาทวด หมอพัฒน์ พันธุ์สิงโต เป็นตำรายาไทยที่ช่วยปรับธาตุ ประกอบกับการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน ดูแลเรื่องอาหารพื้นบ้าน และอยู่ท่ามกลางอากาศที่ดี ทำให้ร่างกายค่อยๆฟื้นฟูขึ้นมา
คราวนี้ป้าพูนจึงรรวบรวมสมาชิกกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเฉยๆมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง ร่วมกันคิด ร่วมกันลงมือทำกิจกรรมเพื่อหารายได้เสริมให้กับครอบครัว
“ทำตั้งแต่ปี 2536 ล้มเหลวมากว่า 10 ครั้ง กว่าจะมาสำเร็จก็ปี 2546” ป้าลำพูนบอกกับเรา
ในส่วนของกิจกรรมการท่องเที่ยวนั้น ชุมชนเกาะเกิดเลือกที่จะชูภูมิปัญญาในด้านการทำอาหาร และยาสมุนไพร โดยจัดเป็นฐานการเรียนรู้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำไปพร้อมกับลุงๆป้าๆ เจ้าของตำรับขนมที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
ประกอบไปด้วย ขนมต้ม หมี่กรอบโบราณ ขนมกง รวมไปถึงยาสมุนไพรอายุวัฒนะที่ป้าพูนเป็นวิทยากร รวมทั้งยังสอนเทคนิคการออกกำลังกายคลายเส้นแก้ปวดให้อีกด้วย
สำหรับฐานการเรียนรู้เรื่องอาหารนั้น ป้าพูนแนะนำว่า จะมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะก็ได้ สามารถเลือกฐานที่สนใจ โดยรวมตัวมาฐานละ 10 คน ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 600-800 บาท เมื่อเรียนแล้วนำขนมกลับบ้านไปรับประทานต่อที่บ้านได้เลย
หมี่กรอบโบราณ
ฐานนี้มีวิทยากร 2 คน ได้แก่ คำปุน ชมสมุทร และ สมควร ทองงาม อยากรู้มานานแล้วว่าหมี่กรอบอร่อยๆแล้วทำกันอย่างไร 2 ป้าสอนให้แบบไม่หวง สูตรนี้ได้รางวัลชนะเลิศในงานหล่อเทียนพรรษา ปี 2554 เป็นที่ 1 ใน 16 อำเภอที่ลงแข่งเลยทีเดียว
เคล็ดลับอยู่ที่ซอสหมี่กรอบ ถ้าปรุงรสได้กลมกล่อมเข้าทีมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
ส่วนผสม เส้นหมี่ตราสิงโต พริกเชื่อม (พริกชี้ฟ้านำไปเชื่อม) กระเทียมเจียว หอมเจียว แผ่นเกี๊ยวทอดกรอบน้ำมันบัว น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก
วิธีทำซอสหมี่กรอบ
- ตั้งน้ำมันเจียวกระเทียม หอมแดงให้เหลืองกรอบ พักไว้
- ผัดน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำมะขาม เกลือ และซอสเย็นตาโฟ ชิมรสให้ได้ 3 รส เปรี้ยวนำ หวานตาม เค็มเล็กน้อย
ขั้นตอนการทำหมี่กรอบโบราณ
– ตั้งกระทะใส่น้ำมันบัว (น้ำมันพืชผสมระหว่างน้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำมันปาล์มใช้สำหรับการทอด)พอร้อนแล้วใส่เส้นหมี่ตราสิงโตลงทอด เส้นหมี่จะพองเร็วมากให้รีบตักขึ้น ระวังอย่าให้น้ำมันร้อนจัดเกินไป
- เทซอสหมี่กรอบลงในกระทะ ตามด้วยเส้นหมี่ที่ทอดแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่ พริกหวานหั่นเป็นเส้นยาวๆ เกี๊ยวทอดกรอบ โรยด้วยกระเทียมเจียวและหอมเจียว
- ตักใส่ภาชนะเสิร์ฟได้ทันที ถ้าจะเก็บไว้รอให้เย็นก่อน
ขนมต้มขาว
วันดี ทองแท้ จัดเป็นมือหนึ่งในเรื่องขนมหวาน ถ้าอยากกินขนมไทยของพี่วันดีต้องมาซื้อกันตั้งแต่ตีห้า จะขายกันอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้านเจ็ดโมงเช้าก็หมดแล้ว ส่วนใหญ่จะทำส่งให้เจ้าประจำนำไปขายอีกทอดหนึ่ง เรียกว่าสายๆพี่วันดีก็จะว่างมาเป็นวิทยากรสอนทำขนมแล้ว
สำหรับขนมต้มขาวของพี่วันดีจะมีทั้งส่วนที่มีสีด้วย โดยจะนำน้ำฟักข้าว น้ำฟักข้าว น้ำใบเตย น้ำดอกอัญชัน มาผสมกับแป้งข้าวเจ้า ได้เป็นสีส้ม เขียว และม่วง
มาเตรียมส่วนผสมกันเลย แป้งข้าวเหนียว มะพร้าวทึนทึกขูด เกลือ น้ำตาลมะพร้าว
วิธีทำ
- นำน้ำตาลมะพร้าวตั้งไฟให้ละลาย ใส่มะพร้าวทึนทึกที่ขูดไว้แล้วลงผัด เติมเกลือเล็กน้อย เคี่ยวจนแห้ง รอให้เย็นแล้วปั้นเป็นก้อนกลมพอประมาณ
- ผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำสุกที่คั้นกับน้ำฟักข้าว ใบเตย ดอกอัญชัน แยกไว้ชามละสี คนให้เข้ากันจนปั้นได้ไม่ติดมือ
- แป้งสีที่เตรียมไว้นำมาปั้นเป็นรูปทรงกลมแล้วบีบให้แบน ใส่ไส้ที่กวนไว้ลงไปแล้วใช้แป้งห่อให้มิด
- นำไปต้มในน้ำเดือด เมื่อสุกแล้วแป้งจะลอยขึ้น ตักขึ้นมาวางพักไว้บนถาดบรรจุมะพร้าวทึนทึกที่ขูดไว้ คลุกให้เข้ากันแล้วจัดใส่ภาชนะให้สวยงาม
ขนมกง
ขนมกง เป็นขนมโบราณมีชื่อปรากฎอยู่ในคำให้การของขุดหลวงหาวัด เอกสารหอหลวงอยุธยา เรียกขานกันว่าขนมกง หรือ ขนมกงเกวียน เนื่องด้วยมีรูปร่างคล้ายล้อเกวียน จัดเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ในพิธีแต่งงาน บ่าวสาวจะได้รักกันกลมเกลียวดังล้อเกวียน ดังนั้นขนมกงทีดีจึงไม่ควรมีรอยต่อ
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องขนมกงของเกาะเกิด ได้แก่ คู่สามีภรรยาผู้ช่วยกันทำขนมกงอย่างกลมเกลียวกันมาหลายสิบปีแล้ว มาถึงบ้านของลุงสมนึก ป้าสละ อุ้มญาติ คิดว่าจะมาซื้อขนมกงกินกันง่ายๆไม่ได้นะ เนื่องจากขนมกงส่วนใหญ่จะเป็นการทำตามออเดอร์ของลูกค้า ถ้าเป็นไปได้กรุณาสั่งล่วงหน้าสักหนึ่งวัน เพราะความยากอยู่ที่การตำถั่วเขียวให้กลายเป็นแป้ง
ส่วนผสม ถั่วเขียว ข้าวตอก หัวกะทิ น้ำตาลมะพร้าว แป้งเท้ายายม่อม เกลือ (สัดส่วนถั่วเขียวกับน้ำตาลเท่ากัน)
วิธีทำ
- ถั่วเขียวนำไปคั่วให้สุก แล้วเทใส่หวด ตักน้ำสะอาดราดเขย่าให้ทั่วแล้วพักไว้
- รอให้ถั่วดูดน้ำแล้วนำมาตำในครกไม้ให้ละเอียด แล้วนำไปร่อนอีกครั้ง
- ตำข้าวตอกให้ละเอียด พักไว้
- เคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวให้เหนียวจนเป็นยางมะตูม พักไว้
- นำข้าวตอกที่ตำละเอียดแล้วเทใส่กะละมัง ราดด้วยน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ คนให้เข้ากัน
- จากนั้นนำถั่วเขียวที่ร่อนไว้เทใส่ลงไปแล้วนวดให้เข้ากัน ถ้าเหลวเกินไปให้ใส่ถั่วเขียวลงไปเพิ่มจนปั้นเป็นรูปได้
- ปั้นเป็นเส้นกลมยาว แล้วต่อกันให้เป็นวงกลมคล้ายล้อเกวียน พักไว้
- ผสมแป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า กับหัวกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากันอย่าให้เหลวจนเกินไป
- นำถั่วที่ปั้นไว้ชุบแป้ง(ที่ผสมกับกะทิแล้ว) ลงทอดในกระทะ พอสุกเหลืองสวยแล้วตักขึ้น
สำรับอาหารชาวบ้านเกาะเกิด
มาถึงเกาะเกิดแล้วเกิดอาการหิว อยากจะกินมื้อกลางวัน หรือมื้อค่ำที่ระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางกลุ่มเกาะเกิดก็มีบริการ มีข้อแม้อย่างเดียวคือ กรุณาโทรแจ้งล่วงหน้าที่ ณัชศิริภัค พรรณอาราม เลขากลุ่มเกาะเกิด
อาหารสำรับชาวบ้านจะประกอบไปด้วยเมนูอาหารพื้นบ้านที่รับประทานกันจริงๆ เมนูที่ลองแล้วติดใจได้แก่ น้ำพริกปลาทู ซึ่งเป็นน้ำพริกที่ใส่เนื้อปลาทูลงไปตำด้วย (ไม่ใช่น้ำพริกกะปิ) รสชาติเผ็ดเค็มเปรี้ยวดีทีเดียวกินคู่กับผักสดและผักต้ม (ผักจากสวนครัว) น้ำพริกนี้มีทั้งแบบที่ใส่น้ำปลาร้าและไม่ใส่ นอกจากนี้มี
แกงจืดมะระหมูสับ ปลาทับทิมนึ่งมะนาว ปีกไก่ทอด แกงเขียวหวานไก่ ขนมจีน เลือกอาหารได่ 4 เมนู ราคาคนละ 250 บาท ถ้าต้องการกินกุ้งแม่น้ำเผาก็ต้องสั่งล่วงหน้าอีก ( กุ้งแม่น้ำคิดราคาต่างหาก กก.ละ 800 -1,400 บาท)
ไปหัดทำขนมโบราณ กินอาหารพื้นบ้าน ชมธรรมชาติของชาวเกาะเกิด เป็นความสุขเรียบง่ายของวิถีไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา
หมายเหตุ : ลำพูน พรรณไวย โทร.08 1851 6632 ,ณัชศิริภัค พรรณอาราม โทร.08 1930 0769