เป็น 'คนโสด' ก็ชิลได้ ถ้าวางแผนเป็น
เป็นคนโสดต้องดูแลตัวเอง ไม่เพียงแค่ในวันนี้ แต่ควรที่จะมีการวางแผนอนาคตให้โสดต่อไปอย่างเข้มแข็ง นอกจากเรื่องของการออมแล้ว การทำประกันก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
บทความเรื่องนี้มาจากบทความเรื่อง "เป็นคนโสดอย่างมีสุข" โดยสมาคมประกันชีวิต ในคอลัมน์มุมสบายๆ สไตล์ประกันชีวิต
ในยุคที่คนหนุ่มสาวไม่นิยมการแต่งงานและการมีลูก หลักๆ ที่มักจะถูกยกมาเป็นเหตุผล คือ รายได้, ค่าใช้จ่าย, ค่านิยม (รักชีวิตอิสระ) และสภาพสังคมความเป็นอยู่ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สิ่งนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหา เด็กเกิดใหม่ลดน้อยลง และเชื่อมโยงไปถึงปัญหาการขาดแคลน กลุ่มคนวัยทำงานและภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ "คนเกิดน้อย คนทำงานหดหาย คนตายช้ำ"
ทั้งนี้ จากข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุเปิดเผยถึงอายุเฉลี่ยของประชากรไทยในปี 2561 ไว้ว่า ผู้ชายอายุเฉลี่ย 72 ปี ส่วนผู้หญิง 79 ปี และคาดว่าปี 2579 จะมีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ โดยจะมีสัดส่วนของผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยงานวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยกลับพบว่า คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุแม้จะมีอายุยืนยาวขึ้น แต่มีเพียง 5% เท่านั้นที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว แต่อีก 95% ล้วนมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวาน, โรคข้อเข่าเสื่อม, เป็นผู้ป่วยติดเตียง, โรคซึมเศร้า เป็นต้น
ดังนั้น จะเป็นการดีกว่าไหมสำหรับคนที่มีแผนอนาคตว่าจะครองตัวเป็นโสดหรือไม่คิดจะมีลูกไว้ค่อยดูเลย จะมองหาแผนรองรับชีวิตที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยไร้เรี่ยวแรงในอนาคตไว้บ้าง เพราะหากคุณเป็นคนโสดที่ยังมีพ่อแม่พี่น้องต้องดูแล นั่นหมายความว่าคุณเป็นเสาหลักของครอบครัวพ่วงมาอีก 1 ตำแหน่ง และถ้าในอนาคตคุณป่วย หรือโชคร้ายเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ทั้งตัวคุณและคนที่อยู่ในความดูแลจะเป็นอย่างไร จะส่งผลกระทบต่อการเงินหรือชีวิตความเป็นอยู่ของ คนรอบข้างอย่างไรบ้าง
ดังนั้น จะดีกว่าไหม หากคนโสดจะทำตัวให้โสดอย่างเข้มแข็ง และมีค่าด้วยการวางแผนบริหารความเสี่ยง โดยโอนความเสี่ยงเหล่านั้นให้บริษัทประกันชีวิตดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินออม ต้องพร้อม เพราะออมอย่างมีวินัยออมกันไปเลยระยะยาวๆ มุ่งหาผลตอบแทนแบบชาญฉลาดที่ไม่ต้องเสียภาษีตามที่สรรพากรให้สิทธิ
ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงมีไว้อย่าให้พร่อง เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น หมายถึงสภาพร่างกายที่เสื่อมโทรมลง โอกาสที่โรคภัยจะมาเยือนจึงมีมาก ดังนั้นประกันสุขภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยมีเคล็ดลับนิดหน่อยว่าให้ซื้อเพิ่มเติมจากสัญญาประกันชีวิตโดยเลือกระยะยาวเข้าไว้ พิจารณาความคุ้มครองให้เพียงพอและเหมาะสม พร้อมมองระยะยาวของการชำระเบี้ยประกันที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ถ้ามีกำลังซื้อทั้งในวันนี้และอนาคต ควรเลือกแบบเหมาจ่าย เพราะค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นทุกวัน นอกจากนี้แล้วในอนาคตหากเจ็บป่วย ร่างกายมีตำหนิจะซื้อเพิ่มคงยาก ที่สำคัญการมีประกันสุขภาพจะช่วยให้เงินออมที่คุณมีอยู่ไม่สูญสลาย หายวับหากเจอวิกฤติสุขภาพโดยไม่ตั้งใจ
"ประกันแบบบำนาญ" อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่คนโสดควรมี และควรทำตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อว่าเมื่อเกษียณแล้วจะยังมีเงินใช้ดำรงชีพ ทั้งในเรื่องปัจจัย 4 และการดูแลตัวเองให้ชีวิตมีความสุข ประกันชีวิต แบบบำนาญจะให้เราจ่ายเบี้ยประกันภัยไปจนถึงอายุ 55 ปี หลังจากที่เราเกษียณแล้วก็จะได้รับเงินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบกำหนดอายุที่ได้เลือกทำไว้ เช่น 85 ปี หรือหากเลือกรับเป็นบำเหน็จเงินก้อนก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์
ขอขมวดสั้นๆ ให้เข้าใจกันง่ายๆ ว่า การทำประกันชีวิตจะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตโสดได้อย่างอิสระ ไม่มีข้อจำกัดทางการเงิน ไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง แต่อนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและจับต้องไม่ได้ ดังนั้น การวางแผนการเงิน และการมีแผนรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายได้อย่างมีความสุขและเป็นคนโสดสูงวัยอย่างมีค่าไม่เป็นภาระให้สังคม
พูดถึงประกันชีวิตประกันสุขภาพกันมาตั้งนานเพื่อวางแผนให้โสดอย่างมีความสุข หากแต่ก่อนจะซื้อประกันก็ควรจะศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนถึงรูปแบบผลิตภัณฑ์ ความคุ้มครอง ระยะเวลาการชำระเบี้ยประกัน ระยะเวลาเอาประกันภัย และเงื่อนไขกรมธรรม์ ซึ่งการเลือกแบบประกันต้องเลือกให้ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้แล้วควรซื้อประกันชีวิตกับตัวแทนหรือโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น จากนั้นกรอกใบคำขอเอาประกันภัยและลงชื่อด้วยตัวเอง พร้อมแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาระสำคัญของการพิจารณาทำประกันภัย เช่น เรื่องสุขภาพ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีโต้แย้งในภายหลัง เมื่อชำระเบี้ยประกันภัย ต้องเรียกรับใบเสร็จรับเงินทุกครั้ง
และสุดท้ายเมื่อได้รับกรมธรรม์ประกันชีวิตแล้วให้ตรวจสอบ ข้อมูล ชื่อ สกุล วันที่รับประกันภัย ระยะเวลาความคุ้มครอง จำนวนเบี้ยประกันภัย ทุนประกันภัย เงื่อนไขความคุ้มครอง ซึ่งจะมีใบสรุปสาระสำคัญปะหน้าควรอ่านและทำความเข้าใจ ก่อนเซ็นรับกรมธรรม์ หากกรมธรรม์ฉบับดังกล่าวไม่ตรงกับความต้องการสามารถยกเลิกได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่าย ในส่วนนี้จำนวน 500 บาท เมื่อทราบถึงสิทธิและเรื่องที่ควรใส่ใจกันแล้ว รออะไรกันอยู่ล่ะคะ จะโสดทั้งทีโสดให้สตรองกันดีกว่าใช่ไหมคะ