อาหารญี่ปุ่น ‘โอมากาเสะ’ 24 คอร์ส ที่ ‘Mono Sei‘
ที่สุดของอาหารญี่ปุ่นก็คือ "โอมากาเสะ" หรือ Chef’s Table แล้วแต่เชฟจะจัดสรรอาหารอร่อยๆให้รับประทาน ส่วนใหญ่จะมาเป็นคอร์ส สำหรับห้องอาหาร Mono Sei 24 คอร์ส อิ่มแล้วยังอยากจะทานต่อเพราะสนุกตื่นเต้นกับอาหารทุกคำที่เชฟรังสรรค์มาอย่างดี
ปลาคินเมะได (KINMEDAI)สีแดงสด ตาโต ปลาหายากจากทะเลน้ำลึกแถบคานากาวะ เนื้อเนียนละเอียด นุ่มลื่น ทานแล้วสดชื่นสะอาดคอ หนึ่งในวัตถุดิบชั้นดีที่ เชฟแห่งห้องอาหาร MONO SEI นำมาปรุงในรูปแบบของ OMAKASE ขึ้นอยู่กับว่าฤดูกาลไหนจะมีวัตถุดิบอะไรดีที่สุด
วันนี้วัตถุดิบชั้นดีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ปูขน ตัวใหญ่จากฮอกไกโด ปูทาราบะ Kurama Ebi หอยเป๋าฮื้อจากนางาซากิ เนื้อMatsuzaka
ไข่หอยเม่น สายพันธุ์มุราซากิ แบรนด์ ฮาดาเตะ จาก ฮอกไกโด ที่ถือว่าเยี่ยมที่สุดได้ถูกหยิบมารังสรรค์สุดยอดเมนูแล้วแต่เชฟ เพราะ การทานอาหารแบบ โอมากาเสะ คือ วิถีการกินแบบตามใจเชฟ หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า Chef’s Table นั่นเอง พูดง่ายๆก็คือเราไม่ต้องคิดที่จะเลือกเมนู เชฟจัดให้เอง มื้ออาหารจะประกอบด้วยเมนูหลากหลายที่ปรุงจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่าที่เชฟจะหามาได้ ในแต่ละวันอาหารอาจจะไม่ซ้ำกันก็ได้
Mono Sei ได้รวบรวมเชฟญี่ปุ่นมากประสบการณ์ทั้งหมดสี่ท่าน ที่มีจุดเด่น เเละความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของอาหารญี่ปุ่นช่วยกันคิดค้นและสร้างสรรค์ประสบการณ์คอร์สอาหารสุดพิเศษ ที่เป็นมากกว่าเเค่ Omakase นั่นก็คือ Fusion Food ยังคงกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นเเบบดั้งเดิมไว้อย่างครบครัน ทว่าเพิ่มคอนเซ็ปต์การนำ เอารสชาติดั้งเดิมของวัฒนธรรม ผนวกกับความหรูหราของยุคสมัยปัจุบันไว้ได้อย่างลงตัว
Mono มาจากคำว่า “หนึ่งเดียว” และ “Sei” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ดียิ่งขึ้น” เมื่อนำคำทั้งสองมารวมกันจึงมีความหมายที่ลึกซึ้งที่ทางร้านตั้งใจสื่อสารกับผู้ที่แวะเวียนมาลิ้มรสความอร่อย วัตถุดิบทุกชนิด ถูกคัดสรรจากเชฟ โดยเลือกจากแหล่งที่ดีที่สุดจากทั่วทุก มุมโลก หลายชนิดไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป บางชนิดต้องประมูลแข่งขัน เพื่อให้แน่ใจได้ว่าทางร้าน จะได้วัตถุดิบที่ดีที่สุด
เชฟฮาชิอุระ เคนจิ เกิดและโตที่จังหวัดมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เขาเลือกที่จะออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 15 และตามความฝันที่จะเป็นเชฟมือหนึ่ง มีความหลงไหลในศิลปะการทำซูชิ และตลอด 27 ปีที่ผ่านมา ฝึกฝนตัวเองทุ่มเทชีวิตให้กับการทำซูชิ จนมีโอกาศทำงานในร้านซูชิชื่อดังทั้งในกรุงโตเกียวและคิวชู และวันนี้เชฟเคนจิยังมีความฝันที่จะเผยเเพร่ศิลปะการทำซูชิของตัวเองให้คนทั่วโลกได้ลิ้มรส โดยเลือกประเทศไทยเป็นที่แรกในการเริ่มทำตามความฝันของตัวเอง
ส่วน เชฟอากิฮิสะ วาตานาเบะ เกิดที่จังหวัดทตโตริ ประเทศญี่ปุ่น เขาได้รับแรงบันดาลใจในการทำอาหารจากการทำราเมงให้คุณพ่อและคุณแม่รับประทาน เชฟมีความตั้งใจที่จะมอบความสุขจากอาหารให้ผู้อื่น เขากลายเป็นเชฟมืออาชีพหลังย้ายมาทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ คัปโปะในเมืองโอซาก้า และมีโอกาสได้เรียนรู้ศาสตร์และศิลป์ในการทำอาหารญี่ปุ่นหลากหลายเมนูจนชำนาญ วันนี้เขาพร้อมมอบประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 33 ปี สู่จานอาหาร
เชฟซึโทมุ ฮาชิโมโต้ เกิดที่จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เขามีความคลั่งใคล้ในอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่เด็ก และก้าวเข้าสู่วงการอาหารครั้งแรกทันทีเมื่อเรียนจบมัธยม เขาเลือกที่จะทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาฝีมือการทำอาหารอย่างเต็มที่โดยเป็นเชฟครั้งแรกหลังย้ายเข้ามาอาศัยที่กรุงโตเกียวแล้วได้ศึกษาลงลึกในศิลปะการทำซูชิอย่างเต็มจนชำนาญ จากวันแรกจนถึงวันนี้เชฟ ฮาชิโมโต้ได้สั่งสมประสบการณ์การทำซูชิมากว่า 34 ปี
ค่ำคืนนี้เราเริ่มความอร่อยกันตั้งแต่เชตเมนูเวลคัม โดยมี ปลาตาเดียวทอด แล้วนำไปดองจนมีรสเปรี้ยวๆ เสิร์ฟกับ ซุปมันเทศกับบีทรูทสีชมพู และ เต้าหู้งาทอด เสิร์ฟร้อนๆในน้ำซุปดาชิ
จากนั้นได้ลิ้มรสความสดหอมหวานของ หอยนางรมจากอิวาเตะ ตามด้วย เชตซาชิมิ ที่ประกอบด้วยเนื้อ ปลาฮิราเมะ(ปลาตาเดียว) กุ้งหวาน และ ชูโทโร มี ดอกฮานาโฮจิโสะสีม่วง (ดอกของใบโอบะ) ช่อเล็กๆประดับอยู่ตรงกลาง เชฟเคนจิแนะวิธีรับประทานว่าเราต้องนำดอกไม้มาวางไว้ในอุ้งมือแล้วตบ 1 ครั้ง เพื่อให้กลิ่นอโรมาของดอกไม้หอมโชยออกมา แล้วนำไปวางไว้ในถ้วยโชยุเล็กๆ จะทำให้โชยุมีกลิ่นหอมกรุ่นของดอกไม้ เพิ่มเสน่ห์ในการรับประทานเป็นยิ่งนัก
ประทับใจกับ ตับปลาอังโกะต้มกับซอสหวาน คำเล็กๆแต่มีคุณภาพมากมาย ไข่ตุ๋นญี่ปุ่นรสนุ่มนวลราวกับคัสตาร์ดเบาหวิวท็อปปิ้งด้วยเนื้อปูขนฮอกไกโด เลอค่าอมตะยิ่งนัก ปลาไหลเท็มปุระ ท็อปปิ้งด้วยไข่หอยเม่นและไข่ปลาคาเวียร์ พักลิ้นด้วย ไอศกรีม Yuzu Sherbet ก่อนแล้วค่อยต่อด้วยซูชิต่างๆ
Akami Zuke, Kurama Ebi, เป๋าฮื้อจากนางาซากินึ่ง 7 ชั่วโมงเนื้อนุ่มชวนฝัน Taraba Kani เนื้อหวานนุ่มมีรสเค็มนิดๆจากทะเล ตัดกับความจืดของผักกาดขาว มีเนื้อ Matsuzaka Gyu no Shabu Shabu เสิร์ฟคำเล็กๆ
ตามด้วย Ebi Suisho ลักษณะเป็นดอกกุหลาบใสๆ ทำจากเจลลี่สาหร่ายข้างในเป็นเนื้อกุ้งท็อปปิ้งด้วยบ๊วยดองเปรี้ยวๆเค็มๆโรยงาเสิร์ฟมาในถ้วยแก้วทรงสูง ซึ่งคำว่า Suisho แปลว่า “คริสตัล”
มีอาหารหลากหลายคำจากใจเชฟ อร่อยทุกคำหม่ำจนท้องแทบระเบิด ทว่ายังพอเหลือเผื่อที่ไว้ให้กับขนมหวานอย่างเช่น ขนมไดฟุขุองุ่นไซมัสแคท จากญี่ปุ่นหวานกรอบ มีถั่วแดงเบาบาง
อีกจานเป็น Anmitsu โมจิญี่ปุ่นกับซอสถั่วแดง เรียกได้ว่าอร่อยคุ้มค่าน่าติดใจ หากสนใจไปชิมอาหารแบบโอมากาเสะ โดยเชฟผู้มากประสบการณ์ ไปที่ MONO SEI รับรองไม่ผิดหวัง
ทางร้านมีคอร์สโอมากาเสะให้บริการช่วงเวลา 18.00 - 23.00 น. เป็น Dinner Course ราคา 12,000+++ บาท ( 24 คอร์ส) รวมถึงของทานเล่นและขนมหวาน หากไม่ทานเนื้อหรือมีวัตถุดิบที่ไม่ชอบ หรือแพ้อาหารชนิดใด สามารถแจ้งกับทางร้านได้ โดยแต่ละครั้งที่ไปทาน ทางร้านจะบันทึกข้อมูลการทานอาหารของลูกค้า เพื่อปรับเปลี่ยนเมนูให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้
MONO SEI อยู่ที่ชั้น G โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ (ติดกับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ)เปิดบริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 18.00- 23.00 น. จองได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 094-654-6326 E-mail : [email protected] Facebook : Monosei Instagram : monosei_sushi Website: http://monosei.com