ดินเนอร์กับไวน์สเปนที่...มีเลีย โฮเทลส์ เกาะสมุย

       แต่การจะหาทั้งสองอย่างให้ลงตัวในเมืองไทยไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างน้อยการไม่มีเชนโรงแรมสเปนในเมืองไทยก็แทบจะปิดโอกาสไปแล้ว อย่างไรก็ตามนับแต่นี้ไมน่าจะยากอีกต่อไปแล้ว

        โรงแรมมีเลีย เกาะสมุย ไทยแลนด์ (Meliá Koh Samui Thailand) ในฐานะโรงแรมแห่งแรกภายใต้แบรนด์ มีเลีย โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ (Melia Hotels and Resorts) ที่เปิดให้บริการในประเทศไทย บริหารโดย  Meliá Hotels International กลุ่มบริหารโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของสเปน และเป็นโครงการล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของ แอสเสท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (AWC) ได้เชิญสื่อมวลชนจากกรุงเทพฯไปร่วมงาน หนึ่งในจำนวนนั้นเป็น “Media Exclusive Wine Dinner” The Level Lounge โดยมี เออร์เนสโต โอซูนา โลเปซ (Ernesto Osuna Lopez) ให้การต้อนรับ และ อาซิซกานดาร์ อาวัง (Azizkandar Awang) เชฟใหญ่ของโรงแรมรังสรรค์เมนู  และ ซาเวียร์ วิเซนเต ตามาเมส (Xavier Vicente Tamames) Asia Pacific Export Sales Director ของไวน์ กอนซาเลซ บายยาสส์ (Gonzalez Byass) แนะนำไวน์  โบเดกัส เบโรเนีย (Bodegas Beronia)

         

           โบเดกัส เบโรเนีย เป็นไวน์ในเครือ กอนซาเลซ บายยาสส์ ผลิตบนพื้นที่ดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 BC เคยเป็นที่อยู่ของชาวเบโรเนส (Berones) กองกำลังทหารเซลติก (Celtic) ที่มาตั้งอยู่ในพื้นที่ Beronia ปัจจุบันเรียกพื้นที่นี้ว่าลา ริโอฆา (La Rioja) โดย Bodegas Beronia ก่อตั้งในปี 1973 อยู่ในออลโลรี (Ollauri) ในเขตริโอฆา อัลตา (Rioja Alta) และ González Byass มองเห็นศักยภาพจึงเข้าไปซื้อกิจการ ผลิตไวน์ส่งไปขายกว่า 60 ประเทศ จนได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมาย ล่าสุดได้รางวัล Spanish Wine Producer of the Year Trophy 2018  ที่จัดโดยนิตยสาร International Wine & Spirits Competition

        Ernesto Osuna Lopez

 

           แซลมอน

         González Byass มีไร่องุ่นอยู่ในพื้นที่หลายแห่งในสเปน  นอกจาก Bodegas Beronia -D.O.Ca. Rioja แล้วก็ยังมี Viñas del Vero -D.O. Somontano-, Cavas Vilarnau -D.O. Cava-, Finca Constancia -V.T. Castilla-, Finca Moncloa -V.T. Cádiz-, Beronia Verdejo -D.O. Rueda - and Pazos de Lusco -D.O. Rías Baixas เป็นต้น González Byass ได้รับรางวัล Best European Winery of the Year 2018  ที่จัดโดยนิตยสาร Wine Enthusiast หลังจากนั้นปี 2016 จึงขยายอาณาจักรไปยังต่างประเทศด้วยการซื้อ เวรามอนเต (Veramonte) ในชิลี

          กอนซาเลซ บายยาสส์ ก่อตั้งในปี 1835 เมื่อ มานูเอล มาเรีย กอนซาเลซ แอนเจล (Manuel María González Ángel) หนุ่มน้อยผู้มีอนาคตไกลตัดสินใจเดินเข้าสู่ถนนสายไวน์  เริ่มจากการเรียนรู้กับโฆเซ แอนแจล (José Ángel) ลุงของเขาที่ทำแชร์รี (Sherry) ฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของสเปนอยู่แล้ว ภายใต้ชื่อ “ตีโอ เปเป” (Tío Pepe) ทำให้เขารู้จักกับ โรเบิร์ต แบล็ก บายแอสส์ (Robert Blake Byass) ชาวอังกฤษ ในปี 1844 ในฐานะเอเยนต์ที่สั่งแชร์รี Tío Pepe มาขายในอังกฤษ และทำธุรกิจร่วมกัน ภายใต้ชื่อ “González Byass”

       Xavier Vicente Tamames

          กระทั่งปี 1988 ทั้งคู่ยุติข้อตกลงทำธุรกิจไวน์ร่วมกัน ทำให้ธุรกิจไวน์และไวเนอรีตกอยู่กับทายาทของ  Manuel María González ซึ่งปัจจุบันดำเนินกิจการและเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงรุ่นที่ 5 ในฐานะ Family of Wine ภายใต้การนำของประธาน มัวริซิโอ กอนซาเลซ กอร์ดอน (Mauricio González-Gordon) มีฐานการผลิตไวน์อยู่ในเฆเรซ (Jerez) เมืองและเขตปกครองของสเปนในจังหวัดคาดิซ (Cádiz) แคว้นอันดาลูเซีย (Andalusia) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน

          สำหรับไวน์และอาหารที่จับคู่กันมีดังนี้

          เบโรเนีย รูเอดา ดีโอ 2018 (Beronia Rueda DO 2018) : ไวน์ขาวจากแคว้นคาสติลยา อี เลอง (Castilla y León) ทางตะวันตกเฉียงเหนือสเปน ซึ่ง González Byass ขยายอาณาจักรมาทำไวน์ที่นี่  เป็นไวน์ขาวอร่อยที่ทำจากองุ่นแวร์เดโฆ (Verdejo) 100% ซึ่งเป็นองุ่นเขียวนางเอกของรูเอดา จากไร่ขนาด 24.3 เฮกแตร์ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 750 เมตร ปลูกเมื่อปี 1999 เก็บองุ่นกลางคืนและหมักในถังสแตนเลสและถังซีเมนต์ ปล่อยให้อยู่กากยีสต์ 2- 3 เดือนก่อนบรรจุขวด …สีเหลืองทอง หอมกลิ่นหญ้าสด ดอกไม้สีขาว เช่น ดอกพุด และมะลิกรุ่น ๆ  เฮิร์บสด ๆ ซีทรัส กูสเบอร์รี ยี่หร่า มิเนอรัล แอซสิดยอดเยี่ยม ดื่มแล้วสดชื่น เข้ากับบรรยากาศที่สดชื่นของห้องอาหารที่อยู่บนชั้นสองและสามารถรับลมเย็นของทะเลได้เป็นอย่างดี จบค่อนข้างยาวด้วยผลไม้ และขมนิด ๆ เสิร์ฟเป็น Welcome Drink กับอาหารประเภทคานาเป้หลายอย่าง ให้เพลิดเพลินล้อเสียงคลื่นทะเล เหมือนยืนอยู่ริมฝั่งทะเลสเปน  

      ดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมติก

       

     แซลมอนย่างกับมะเขือย่าง

         เบโรเนีย ริโอฆา ดีโอซี คริอันซา เทมปรานิลโย 2016 (Beronia Rioja DOC Crianza Tempranillo 2016) : ทำจากเทมปรานิลโย (Tempranillo) กรานาซา (Granacha) และมาซุเอโล (Mazuelo) บ่ม 12 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกัน โอ๊ค...สีแดงออกไปทางเรด เชอร์รี หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น เชอร์รี เบอร์รี และพรุน พร้อมด้วยวานิลลา ควันไฟ ซีดาร์ ดอกไม้ เฮิร์บแห้ง ๆ สไปซีนิด ๆ ชุ่มคอ แทนนินนุ่มหวานหอม แอสิดกำลังพอดีและส่งเสริมผลไม้ ดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้สุกและเฮิร์บ…..เสิร์ฟกับแซลมอล Salmon : Grilled, smoked eggplant, ckorizo oil, olive oil powder คู่นี้แอสิดของไวน์น้อยไปนิด ทำให้แซลมอนโดดขึ้นมา แต่ก็ถือว่าใช้ได้ เพราะการทำปลาจับคู่กับไวน์แดงไม่ใช่เรื่องง่าย

        Beronia Rioja DOC Crianza Tempranillo 2016 

        เบโรเนีย ริโอฆา ดีโอซี คอเลคซิออน เทมปรานิลโย เอลาบอราซิออนเอสเปเชียล 2013 (Beronia Rioja DOC Colección Tempranillo Elaboración Especial 2013) : ทำจากเทมปรานิลโย 100 % องุ่นอายุน่าจะประมาณ 20-25 ปี บ่มในถังอเมริกันโอ๊ค 8 - 9 เดือน สีแดงเลือดหมู มีกลิ่นหอมของแบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี บลูเบอร์รี และพรุน รวมทั้งกาแฟ และช็อกโกแลตที่ค่อนข้างโดดเด่น ผงโกโก้ โอ๊คกรุ่น ๆ ซีดาร์ วานิลลา สไปซี กรีนเปปเปอร์ อบเชย บราวน์ชูการ์ หนังสัตว์ ไส้ดินสอดำ แอสิดปานกลาง มีเดียมบอดี้ จบด้วยผลไม้ วานิลลา และสไปซีกรุ่น ๆ ....เสิร์ฟกับ Beef or Pork  : Parsnip, white bean, tomato, pink peppercorn I miza ผมเลือกหมู เพราะเชื่อว่าแทนนินและบอดี้ขององุ่นเทมปรานิลโยยังหนักแน่นไม่พอที่จะเอาเนื้ออยู่

          Beronia Rioja DOC Reserva 2014

         

       หมูอบ

     เนื้อแกะซอสยี่หร่า

         

        เบโรเนีย ริโอฆา ดีโอซี รีแซร์บา 2014 (Beronia Rioja DOC Reserva 2014) : ทำจากเทมปรานีลโย (Tempranillo) 93% กราซิอาโน (Graciano) 5% และมาซุเอโล (Mazuelo) 2 % ตัวนี้ไม่ธรรมดา บ่มโอ๊ค 2 ชนิด โดย 10 เดือนแรกในอเมริกันโอ๊ค อีก 10 เดือนในโอ๊คฝรั่งเศส สีแดงค่อนข้างเข้ม ผลไม้โดดเด่น เช่นแบล็คเชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม แครนเบอร์รี วานิลลา ม็อคคา ช็อกโกแลต ขนมปังปิ้ง โอ๊คกรุ่น ๆ ซีดาร์ เอิร์ธตี้ สไปซีเฮิร์บ ยี่หร่า จันทน์เทศ อบเชย เปปเปอร์ ยูคาลิปตัส แทนนินปานกลาง จบยาวด้วยผลไม้ สไปซีเฮิร์บ และวานิลลา น่าจะพร้อมดื่มได้อร่อยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า...เสิร์ฟกับ Lamb : Burned peppers, shallot, Topinambour, cumin jus, crispy sunchoke คู่นี้ก็ไม่มีปัญหา แกะเนื้อนุ่ม ซอสดี และเครื่องเคียงที่มาพร้อมกัน สามารถส่งเสริมกันได้ดี

         

       ของหวาน ช็อกโกแลตกับไอศกรีมเฮเซลนัท

        กอนซาเลซ บายยาสส์ เฆเรซ โซเลรา 1847 เฆเรซ เซเรส แชร์รี ครีม ดอลเช (González Byass, Jerez, Solera 1847, Jerez Xeres Sherry, Cream, Dolce) : แชร์รี (Sherry) นั้นคนสเปนเรียกว่าเฆเรซ (Jerez) ตัวนี้สไตล์โอลด์เวิล์ด,คลาสสิกและหอมกรุ่น (Old World, Classic, Fragrant) ทำจากองุ่นปาโลมิโน ฟีโน (Palomino Fino) 75%และเปรโด ซิเมเนซ (Pedro Ximénez) 25% องุ่นทั้งหมดปลูกในเขตควบคุมการผลิต เฆเรซ (DO Jerez) ส่วน 1847 คือปีเกิดของลูกชายคนโตของผู้ก่อตั้งโรงผลิตไวน์  องุ่นจะถูกหมักในถังสแตนเลส จากนั้นถ่ายไปยังถังโอ๊คขนาด 600 ลิตร เพื่อเข้าสู่กระบวนการโซเลรา (Solera) โดยแยกพันธุ์องุ่น เป็นเวลา 3 ปี แล้วนำมาเบลนด์กัน แล้วบ่มในถัง Solera 1847 อีก 5 ปี ตัวนี้ได้รางวัลเยอะ เช่น  Mundus Vini: Gold (Awarded August 2013) และ International Spirits Challenge (ISC): Gold Medal เป็นต้น…สีเหลืองทองอำพัน หอมกลิ่นผลไม้สุกฉ่ำ ลูกเกด พลัม เบอร์รี่ มะเดื่อ โอ๊ค ถั่ว อัลมอนด์คั่ว สไปซี่เฮิร์บ ฟูลบอดี้ จบด้วยผลไม้สุกฉ่ำ และเฮิร์บชุ่ม ๆ คอ (โซเลรา คือการเปลี่ยนถ่ายแชร์รีหมุนเวียนในถังไม้โอ๊คเก่าตามลำดับชั้นที่วางเรียงอยู่ 3 ชั้น เป็นกฎของการทำไวน์แชร์รีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก)..เสิร์ฟกับ Dessert Manjari Chocolate : Banana, espresso mouse, peanut butter, hazelnut ice cream คู่นี้ไม่มีปัญหา แคแรกเตอร์ของไวน์อยู่ในของหวานทั้งหมด

              

      การเต้นรำแบบสเปน

          โรงแรมมีเลีย เกาะสมุย ไทยแลนด์ นั้นเจ้าของเดิมรักในการดื่มไวน์มาก ผมเคยดื่มกับเขาหลายครั้ง ปัจจุบันหลังจากเปลี่ยนเจ้าของ บรรยากาศก็ยังดี สงบ ร่มรื่น คลาสสิก ที่สำคัญอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 5-6 กม.เท่านั้น ไม่ต้องรีบร้อนในการเดินทาง