14 หนังกักตัว ดูแก้เบื่อช่วงอยู่บ้าน
แนะนำ 14 หนังที่มีพล็อตในสถานที่ปิด-พื้นที่จำกัด สำหรับช่วง self-quarantine
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” และการประกาศขอความร่วมมือให้ทำงานที่บ้าน งดออกไปชุมนุมหรืออยู่ในที่ที่มีคนเป็นจำนวนมาก การต้องแยกตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลานานเป็นสัปดาห์อาจทำให้ใครหลายคนนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรระหว่างนี้
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จัดลิสต์หนังน่าดู 14 เรื่องสำหรับดูแก้เบื่อในช่วง self-quarantine 14 วัน ที่หลายเรื่องต่างก็มีฉากที่ตัวละครถูกกักตัวให้อยู่แต่ในบ้านหรือในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเป็นเวลานานๆ มาดูกันว่า พวกเขามีกิจวัตรประจำวันเป็นอะไร หรือใช้เวลาที่ถูกกักตัวไปกับอะไรบ้าง
The Shawshank Redemption (1994)
เรื่องราวเกี่ยวกับนายธนาคารชื่อ แอนดี้ ดูเฟรนส์ ถูกจำคุกข้อหาฆ่าภรรยาและชายชู้ในเรือนจำชอว์แชงค์ แม้แอนดี้จะมั่นใจว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธหลักฐานต่างๆ ที่ชี้ตัวมาที่เขาได้ ดูเฟรนด์ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำโดยมีเพื่อนสนิทคือ เรด นักโทษผิวสีที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และเริ่มผูกมิตรกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นนักโทษด้วยกัน พัศดี หรือผู้คุมด้วยการใช้ความรู้ความสามารถจากการเป็นนายธนาคารเก่ามาช่วยทำธุรกรรมลดหย่อนภาษีและฟอกเงินให้กับคนในคุก ก่อนจะเกิดเหตุการณ์มากมายตามมารวมถึงเกิดเรื่องนาวในคุกชอว์แชงค์ครั้งใหญ่ นั่นก็คือการแหกคุกของดูเฟรนส์
เรื่องราวจะชี้ให้เห็นถึงความหมายของเสรีภาพ และความรู้สึกนึกคิดของคนที่ถูกจำกัดเสรีภาพให้อยู่ในสถานที่กักขังเป็นเวลานานหลายสิบปี หลายฉากในคุกชอว์แชงค์พาเราไปสำรวจการใช้ชีวิต และกิจกรรมต่างๆ ที่เหล่านักโทษทำ โดย The Shawshank Redemption ครองตำแหน่งหนังที่ดีที่สุดในการจัดอันดับของ IMDB และได้รับคำวิจารณ์จากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ควรดูให้ได้ในชีวิตนี้อีกด้วย
Oldboy (2003)
โอแทซู ชายหนุ่มผู้ถูกขังเดี่ยวในคุกแห่งหนึ่งโดยไม่ทราบเหตุผล เขาเฝ้าคิดหาต้นเหตุของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำนั้นตลอด 15 ปีที่ถูกขังแต่ก็ยังไม่ทราบคำตอบ กระทั่งได้รับการปล่อยตัวออกมาโดยที่ก็ยังไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ อีกครั้ง นั่นจึงทำให้เขาเริ่มออกตามล่าหาความจริงเกี่ยวกับคนที่จับเขาไปรวมถึงทำลายชีวิตครอบครัวของเขา แทซูได้พบหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งสัญญาว่าจะช่วยเขาแก้แค้น และเมื่อยิ่งพยายามตามหา คำตอบที่ได้กลับยิ่งทำให้เขาพบกับเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับอดีต จากคู่แค้นที่เขาอาจไม่รู้ตัวว่ามีมาตั้งแต่เก่าก่อน
ในช่วงต้นเรื่อง เราจะได้เห็นกิจกรรมและสิ่งที่โอแทซูทำขณะอยู่ที่สถานที่กักขัง ทั้งฝึกฝนการต่อสู้ หรือแม้กดระทั่งจดจำรายละเอียดของอาหารที่ได้กินเข้าไปในแต่ละวัน ก่อนที่หลังจากนั้น หนังจะพาเราไปพบกับการออกตามหาสาเหตุและการล้างแค้นครั้งใหญ่ของเขา ที่ทำให้หลายคนต่างก็ยกย่องว่า Oldboy เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่มีพล็อตสุดยอดเยี่ยมจนทำให้ผู้ชมลืมไม่ลง
Spring, Summer, Fall, Winter … and Spring (2003)
หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระอาจารย์กับเณรน้อยที่อาศัยอยู่ที่วัดกลางน้ำ ปฏิบัติธรรมและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขาอันโอบล้อมรอบด้าน มีเรือเพียงลำเดียวเท่านั้นที่ใช้สัญจรจากวัดไปที่ฝั่ง วิถีปฏิบัติ คำสอน และผลของการกระทำ ถูกแสดงให้เห็นผ่านการเข้ามาของหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินทางเข้ามาที่วัดเพื่อบำบัดรักษาอาการป่วย ในขณะที่การเจริญเติบโตของเณรน้อย และความเปลี่ยนแปลงไปของพระอาจารย์ จะถูกนำเสนอด้วยการแบ่งเรื่องราวเป็น 4 ฤดู บวกกับวนกลับมาที่ฤดูใบไม้ผลิอีกครั้งเพื่อสรุปเรื่องราวทั้งหมด
ฉากของหนังที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาและวัดที่ตั้งอยู่กลางน้ำ อาจทำให้เกิดความรู้สึกทั้งผ่อนคลายทั้งโดดเดี่ยว การได้เห็นพระอาจารย์และเณรน้อยดำเนินกิจวัตรประจำวันไปจนช่วงเวลาผันผ่านและพัดพาเอาสิ่งต่างๆ มาที่วัด รวมถึงพัดพรากเอาหลายสิ่งหลายอย่างไปจากตัวละคร เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่หนังทำออกมาได้สวยงามไร้ที่ติ ท่ามกลางการดำเนินเรื่องที่มีบทพูดน้อยมากจนแทบนับคำได้ ตัดกับเหตุการณ์และสารมากมายที่หนังต้องการจะสื่อ
The terminal (2004)
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าชายคนหนึ่งต้องติดอยู่ในสนามบินเป็นเวลาเกือบ 1 ปี?
เรื่องราวของวิคเตอร์ นาวอร์สกี้ ชายชาวคาโครเชีย เดินทางมาที่สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกแต่กลับไม่สามารถผ่านเข้าสหรัฐได้เพราะในขณะที่เขาเดินทางนั้นมีการปฏิวัติยึดอำนาจภายในประเทศ ส่งผลให้วีซ่ากับพาสปอร์ตของเขาถูกยกเลิกทั้งหมด และไม่มีเที่ยวบินไปกลับประเทศคาโครเชีย เมื่อเข้าสหรัฐก็ไม่ได้ กลับคาโครเชียก็ไม่ได้ เขาจึงต้องติดอยู่ในสนามบินอย่างไม่มีกำหนด และปัญหาครั้งนี้ก็ทุลักทุเลเข้าไปใหญ่เพราะเขาแทบจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ นาวอร์สกี้ใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินด้วยการสังเกตสิ่งต่างๆ และวิธีที่จะทำให้เขามีรายได้ไปซื้ออาหาร หรือแม้แต่พยายามช่วยเหลือคนอื่น และกลายเป็นคนพิเศษที่สร้างมิตรภาพในสถานที่ที่เป็นเพียงจุดรับส่งให้คนที่กำลังจะออกเดินทาง
หนังเกือบทั้งเรื่องดำเนินอยู่ในสถานที่เดียวเท่านั้นคือสนามบิน แต่กลับเป็นสถานที่ที่ทำให้นาวอร์สกี้ได้พบเจอ สร้างสรรค์ หรือสานสัมพันธ์กับผู้คนมากมาย และแม้ว่าเราจะแทบไม่ได้เห็นสถานที่อื่นเลยนอกจากสนามบินที่ไม่มีวันหลับใหล แต่ผู้กำกับมือดีอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก ก็สามารถดึงเอาความสนุกและสร้างสถานการณ์ที่น่าสนใจให้ละสายตาไปไหนไม่ได้ตลอดทั้งเรื่อง
Tangled (2010)
ดูเหมือนว่าตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของ โควิด-19 หรือเชื้อไวรัสโคโรน่า ราพันเซล นางเอกของเรื่องที่เคยมีจุดเด่นเพียงผมยาวสลวยกว่า 70 ฟุต ก็กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของคนถูกกักตัวที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งบนโลกออนไลน์เพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง เพราะในหนังนั้นมีฉากที่เธอถูกแม่เลี้ยงบังคับให้อยู่แต่บนหอคอยสูง ไม่มีประตูทางเข้า-ออก ใช้เพียงแต่ผมของเธอเป็นทางขึ้นลงบนระเบียงหอคอยเท่านั้น
จนกระทั่งมีโจรป่าหลงทางดันค้นพบการมีอยู่ของราพันเซลที่ด้านบนสุดของหอคอยกลางป่าและเข้ามาหลบในหอคอยของเธอเพื่อหนีการจับกุมของทหารในวัง ราพันเซลจึงอาศัยจังหวะนี้ให้เขาช่วยเธอออกมาจากหอคอยที่ต้องอาศัยอยู่มาตลอด 18 ปี และการผจญภัยบนโลกกว้างที่ราพันเซลไม่เคยค้นพบมาก่อนก็เริ่มต้นขึ้น
3096 DAYS (2013)
หนังสร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในยุโรป ปี 1988 ที่ประเทศออสเตรีย มีเด็กสาววัย 10 ขวบถูกลักพาตัวไปอย่างไร้ร่องรอยระหว่างเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน เด็กหญิงนาตาชา แคมปุช ถูกลักพาตัวโดยนายโวล์ฟกัง วิศวกรตกงาน เขาขังเธอไว้ในห้องใต้ดินของบ้านกว่า 8 ปี หรือ 3096 วันตามชื่อหนัง และนาตาชาใช้ชีวิตอยู่ที่ห้องใต้ดินในบ้านของเขาจนโตขึ้นกลายเป็นหญิงสาว
หนังจะพาไปสำรวจทุกความรู้สึกและการกระทำของนาตาชาขณะที่เธอใช้ชีวิตและทำทุกอย่างภายในห้องใต้ดินห้องนั้น รวมถึงค่อยๆ เฉลยปมปัญหาที่ทำให้โวล์ฟกังตัดสินใจลักพาตัวเด็กน้อยวัยไม่กี่ขวบมาโดยไม่ต้องการค่าไถ่ และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ต่อตัวนาตาชาอีกด้วย
Kristy (2014)
จัสติน หญิงสาวที่ต้องอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า เธอไม่สามารถซื้อตัวเครื่องบินบินกลับบ้านได้เนื่องจากเหลือเงินไม่มากพอ จนทำให้เธอต้องเป็นนักศึกษาคนเดียวที่ใช้ชีวิตอยู่ในเขตรั้วมหาวิทยาลัยในขณะที่ทุกคนเดินทางกลับไปพบครอบครัวกันหมด จัสตินใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลางดึกของคืนวันขอบคุณพระเจ้า เธอกลับพบว่าตนเองกำลังถูกไล่ล่าเพื่อที่จะฆาตกรรมอย่างทารุณ กลุ่มคนที่ไล่ล่าเรียกเธอและเหยื่อคนอื่นๆ ว่า คริสตี้ และจัสตินในฉายาคริสตี้ จึงต้องพยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ออกไปให้ได้
ช่วงแรกของหนังจะฉายให้เห็นบรรยากาศของเขตพื้นที่ในมหาวิทยาลัยที่ไม่มีใครเลยนอกจากจัสติน ก่อนที่สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นลานประหารขนาดย่อมที่ฆาตกรวิ่งไล่ล่าเธออย่างบ้าคลั่ง นับว่าเป็นหนังไล่ล่าเอาตัวรอดในสถานที่ปิดที่ทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกไม่น้อยทีเดียว
Room (2015)
เราจะได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ บรี ลาร์สัน ในบทแม่หรือ จอย ผู้หญิงที่พยายามจะเลี้ยงลูกชายของเธอให้เติบโตขึ้นมาอย่างปกติที่สุดในขณะที่ถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งด้วยฝีมือของ นิค ชายที่ข่มขืนเธอจนให้กำเนิดลูกชายที่ได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุดจากจอยเพื่อไม่ให้เขาได้รับรู้เรื่องราวความจริงที่เกิดขึ้น จนกระทั่งทั้งคู่พากันหนีออกมาได้สำเร็จ และก็เป็นอุปสรรคใหญ่อีกครั้งของจอย ที่จะพาเด็กน้อยไปพบกับโลกใบใหม่
ความลุ่มลึกของอารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดเป็นอีกเสน่ห์ที่น่าสนใจและโดดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้ แม้ตัวพล็อตจะหดหู่สะเทือนอารมณ์ แต่ในลักษณะการเล่าเรื่องนั้น หนังกลับเลือกจะโฟกัสความพยายามในฐานะแม่ของตัวละคร และสะท้อนให้เห็นวิธีถ่ายทอดความรู้สึก “อื่นๆ” นอกเหนืออารมณ์กดดันจากเรื่องราวแสนเศร้า รวมถึงทำหน้าที่พาไปสำรวจความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวละครในภาวะกดดัน คับขัน หรือ “กำลังเรียนรู้“ ได้อย่างน่าสนใจ
The Martian (2015)
ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีในชื่อเดียวกันของ Andy Weir เล่าเรื่องราวการติดอยู่ในห้วงอวกาศของนักบินอวกาศหนุ่ม มาร์ค วัทนีย์ ที่เป็นทั้งอดีตนักโบราณคดี นักพฤกษศาสตร์ วิศกรเครื่องกลและนักบินอวกาศของนาซ่า ที่กำลังเดินทางสำรวจดาวอังคารแต่กลับถูกพายุพัดทำให้หลงกับทีม เขาไม่สามารถกลับสู่ยานลำเลียงได้จนถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตไปแล้ว เขาพยายามหาทางติดต่อกับนาซ่าให้พาตัวเขากลับโลก ระหว่างนั้นเขาจึงจำเป็นต้องงัดทุกความสามารถที่มีเพื่อดำรงชีพอยู่ต่อ ในขณะเดียวกันกับที่ต้องพยายามส่งสัญญาข้อความกลับไปบอกกับทุกคนว่าเขายังไม่ตาย
คงจะไม่แปลกนักหากจะพูดว่าการติดอยู่คนเดียวที่ไหนสักที่บนโลกคงไม่น่าสิ้นหวังเท่ากับการติดอยู่คนเดียวที่ไหนสักที่บนดาวอังคารซึ่งอยู่นอกโลก เสบียงและอุปกรณ์ดำรงชีพที่มีจำกัดเป็นปัจจัยบังคับให้วัทนีย์จำเป็นต้องพยายามเอาตัวรอดให้ได้ และแม้จะเป็นหนังพล็อตหลงทางโดดเดี่ยวบนอวกาศที่ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับการทำหนัง แต่ 7 สาขา ที่เข้าชิงออสการ์และ 1 รางวัลลูกโลกทองคำสาขาภายนตร์ยอดเยี่ยมประเภทเพลงหรือตลก ก็แทบจะเป็นรางวัลการันตีชั้นดีได้ว่า The Martian เป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
10 Cloverfield Lane (2016)
หนังเล่าเรื่องราวของมิเชล หญิงสาวที่ฟื้นขึ้นมาจากเหตุการณ์รถคว่ำและกลิ้งตกไหล่ทางจนได้รับบาดเจ็บแล้วสลบไป เมื่อตื่นขึ้นมา มิเชลพบว่ามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งจับเธอมาอยู่ในบ้านใต้ดินปริศนา พร้อมบอกเธอว่า ในเวลาเช่นนี้คงจะไม่มีใครมาตามหาเธอ ชายคนดังกล่าวเล่าให้เธอฟังว่าเขาช่วยชีวิตเธอไว้ และเธอจำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านใต้ดินนี้เพราะว่าโลกภายนอกมีสารเคมีอันตรายที่มนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ไม่นานมิเชลก็ค้นพบว่านอกจากเธอกับชายที่จับเธอมาขังไว้ในนี้แล้ว ยังมีชายอีกคนที่มาอาศัยอยู่ที่บ้านใต้ดินหลังนี้อีกด้วยเช่นกัน และด้วยความไม่ไว้วางใจชายแปลกหน้าที่ต้องอยู่ร่วมกันอีกสองคน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าโลกด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้มิเชลต้องอยู่บนทางเลือกสองทาง ระหว่างยอมเชื่อฟังเขาที่จับตัวเธอมา หรือพยายามหาทางหนี
หนังเล่นกับบรรยากาศแห่งความไม่ไว้วางใจในตัวละครบางตัวได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะกับสถานการณ์ที่คนดูอย่างเราแทบจะไม่ได้รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นและมีอะไรที่เป็นความจริงบ้างก็ยิ่งเพิ่มความน่าติดตามของหนังได้มากขึ้น และแม้ 10 Cloverfield Lane จะเป็นภาพยนตร์ในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Cloverfield (2008) แต่ก็ไม่ได้เป็นเนื้อเรื่องที่ต่อกัน สามารถดูได้โดยไม่ต้องดู Cloverfield มาก่อน โดยมีนักวิจารณ์บางคนถึงกับบอกด้วยซ้ำว่า การไม่เคยดูหนังภาคแรก หรือไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มาก่อน จะทำให้หนังสนุกมากกว่ารู้คอนเซปต์คร่าวๆ มาแล้วเสียอีก
What Happened to Monday (2017)
หนังแนวดิสโทเปีย กล่าวถึงยุคที่มีประชากรมนุษย์ล้นโลก ในขณะที่ทรัพยากรมีจำกัด จึงมีการใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาตร์ออกแบบตัดแต่งพันธุ์พืชให้เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลกระทบถึงการมีบุตรของประชาชน ที่การกินอาหารจากผลผลิดเหล่านั้นทำให้เกิดการคลอดลูกแฝดเป็นจำนวนมาก ดร.นิโคเลตต์ เคย์แมน จึงออกนโยบายจัดสรรบุตรให้แต่ละครอบครัวสามารถมีลูกได้เพียง 1 คนเท่านั้น โดยเด็กแฝดที่เหลือจะถูกรัฐบาลนำตัวเข้าสู่ระบบวิวัฒนาการแบบจำศีล ให้พวกเขาได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนที่โลกเริ่มมีทีท่าว่าจะดีขึ้น
ครอบครัวเชตต์แมน เป็นหนึ่งในครอบครัวที่ให้กำเนิตแฝดหญิงถึง 7 คน และได้ตั้งชื่อให้แฝดทั้งหมดตามวัน 7 วันในสัปดาห์ แต่พวกเขาไม่อยากให้เด็กๆ ต้องเข้าระบบจำศีล จึงใช้วิธีการให้เด็กแฝดทั้งหมดใช้ชื่อเดียวกันว่า คาเรน เชตต์แมน และสลับกันออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้วันละ 1 คน เด็กหญิงทั้ง 7 ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเติบโตเป็นหญิงสาว แต่แล้ววันหนึ่ง มันเดย์ ตัวแทนวันจันทร์ที่ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกกลับหายไปไม่กลับบ้าน ทำให้แฝดที่เหลืออีก 6 คนต้องออกตามหามันเดย์ในขณะที่ต้องระวังไม่ให้รัฐจับได้ว่าพวกเขาไม่นำฝาแฝดทั้ง 7 เข้าระบบตามกฎรัฐบาล
ตัวละครแฝด 7 ที่ผลัดกันออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามวันในสัปดาห์ แต่ละคนเผยให้เห็นบุคลิกและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไปในบ้านหลังเดียว โดยเหตุการณ์ที่ คาเรน เชตต์แมน จะต้องเจอนั้น สามารถดึงเอาความแตกต่างของแฝดแต่ละคนมาใช้จนกลายเป็นจุดที่ทำให้หนังมีเสน่ห์และดูน่าสนใจได้เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะโฟกัสอยู่กับตัวละครเดียว (ที่อาจต่างบุคลิกกัน) ไปตลอดทั้งเรื่องก็ตาม
A Quiet Place (2018)
ภาพยนตร์ระทึกขวัญพล็อตเยี่ยมที่ดำเนินเรื่องแบบแทบจะไม่มีบทพูด เล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูกสาว และลูกชายในเมืองร้างที่เกือบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลืออยู่เพื่อส่งเสียง พวกเขาปิดปากเงียบเพื่อป้องกันอันตรายจาก “อะไรบางอย่าง” ที่จะจู่โจมเหยื่อทันทีที่ได้ยินเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงอะไรก็ตาม การใช้ชีวิตอยู่ให้รอดโดยห้ามส่งเสียง เป็นอุปสรรคที่ทำให้ผู้ชมสามารถโฟกัสกับทุกกิจกรรมที่ตัวละครทำได้มากขึ้นกว่าหนังปกติ ยิ่งเสริมด้วยปัจจัยของตัวละครรุ่นเด็ก ที่ไม่อาจควบคุมการส่งเสียงได้ หรือถ้าควบคุมได้ก็แสนลำบากขัดกับพัฒนาการที่จะต้องอาศัยการได้ยินและการฟังเพื่อเรียนรู้ ก็ยิ่งทำให้หนังลุ้นระทึกขึ้นไปอีก
แม้จะไม่ได้ถูกจำกัดพื้นที่ในการใช้ชีวิตหรือเดินทางไปไหนมาไหน แต่การถูกจำกัดอิสระในการส่งเสียง ก็สร้างความรู้สึกอึดอัดและกดดันให้เกิดขึ้นได้แทบจะไม่ต่างกัน หนำซ้ำด้วยด้วยบรรยากาศเงียบเชียบนี้ ก็ยิ่งทวีคูณความไม่ไว้วางใจต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีใครทำเสียงใดเกิดขึ้นมาสักเสียงหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง แม้กระทั่งผู้ชมที่นั่งอยู่นอกจอ อาจเผลอตัวนั่งเงียบไม่กล้าส่งเสียงไปตลอดทั้งเรื่องเช่นเดียวกับตัวละคร
Ant-Man and the Wasp (2018)
หลังเข้าร่วมทีมต่อสู่ใน Civil War กับสตีฟ โรเจอร์ กัปตันอเมริกาในปมขัดแย้งข้อตกลงโซโคเวียที่จะให้รัฐเข้ามามีอำนาจควบคุมซูเปอร์ฮีโร่ สก็อต แลง หรือ Ant-Man ก็แขวนชุดฮีโร่มาทำหน้าที่คุณพ่อขณะถูกกักบริเวณและจับตาโดยรัฐ แต่ไม่นานเขาก็ได้รับภารกิจใหม่จาก ดร.แฮงค์ พิม ให้มาพิชิตมิติควอนตัมเพื่อตามหาความลับจากอดีต ร่วมกันกับ the Wasp หรือ โฮป แวน ไดน์ แถมยิ่งเพิ่มดีกรีความยากในการพิชิตให้สำเร็จ เข้าไปอีกเมื่อต้องเจอกับวายร้ายสาวลึกลับอย่าง “โกสต์”
แอนท์แมนเป็นอีกหนึ่งตัวละครในหนังที่มักจะถูกหยิบไปพูดถึงกิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อต้องกักตัวอยู่ในบ้านแบบห้ามออกไปไหน และแม้จะซีนกิจกรรมต่างๆ จะกินเวลาไม่มากนักในช่วงเริ่มแรกของเนื้อเรื่อง แต่ก็ถือว่าเป็นฉากที่น่าจะโดดเด่นจนทำให้ใครหลายคนนึกถึงได้ไม่ยากเมื่อกล่าวถึง “ราชาแห่งการถูกกักตัว”
Five Feet Apart (2019)
เล่าเรื่องราวความรักของ วิล กับ สเตลล่า หนุ่มสาววัย 17 ที่ตกหลุมรักกันตามปกติเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ปัญหาใหญ่คือพวกเขาทั้งคู่ป่วยเป็นโรค ซิสติก ไฟโบรซิส หรือโรคปอดเรื้อรังที่มีผลโดยตรงต่อปอดและระบบย่อยอาหาร พวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้กันได้เกิน 6 ฟุต เพราะจะเสี่ยงต่อการส่งเชื้อโรคติดต่อกัน และทำให้ระบบย่อยอาหารกับปอดเสียหายจนถึงแก่ชีวิต
และแม้ว่า Five Feet Apart จะไม่ใช่หนังที่กักบริเวณตัวละครให้อยู่แต่ในที่ใดที่หนึ่งเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ธีมหลักของหนังที่ว่า “ห้ามอยู่ใกล้กันเกิน 6 ฟุต” ก็เข้ากันได้ดีกับการรณรงค์ให้ทุกคนร่วมกันทำ Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างระหว่างกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการสัมผัสหรือรับเอาสารคัดหลั่งของผู้อื่นเข้ามา และการได้เห็นเรื่องราวของคู่รักที่พยายามใช้ชีวิตไปด้วยกันแม้จะมีอุปสรรคเช่นนี้ ก็ได้เห็นมุมมองที่สร้างความรู้สึกอบอุ่นหัวใจให้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว