‘เสน่ห์’ คาเฟ่ขนมหวานกับงานแต่งตัวใหม่ให้ขนมไทย
ขนมถ้วยยังคงอยู่ในถ้วย เพียงแต่เติมเนื้อขนมด้วยสีเขียวของใบเตยให้สวยหอม กะทิชั้นบนที่เคยมาพร้อมกัน ปรับมาใส่ในถ้วยแก้วแล้วให้ตักราดกันเอง หยดสังขยาตรงกลางเล็กน้อย หน้าขนมถ้วยก็จะละม้ายคล้ายไข่ดาวน้อยๆ ถ้าอย่างนั้นเรียกกันว่า “ขนมถ้วยไข่ดาว” เลยก็แล้ว
เสน่ห์ คาเฟ่ & เวิร์คช้อป เป็นคาเฟ่ขนมหวานที่พลิกมุมมองของขนมไทยด้วยไอเดียบรรเจิด
เสน่ห์ของแรงดึงดูด
สุปรีดา ธนูสุวรรณศักดิ์ หุ้นส่วน เสน่ห์ คาเฟ่ & เวิร์คช้อป กล่าวถึงที่มาของคาเฟ่ขนมไทย บนถนนตะนาว กิจการเล็กๆที่ร่วมหุ้นกับ ธัญชิตา อัตถากรโกวิท และ กฤษดา อินทระ เมื่อ 3 ปีก่อนว่าเริ่มจากแรงดึงดูด
“ก่อนเปิดร้านเราทำเซอร์เวย์หาข้อมูลร้านอาหารในย่านถนนข้าวสาร เราพบข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจว่าข้าวเหนียวมะม่วง และ ผลไม้ คือ ขนมไทย เรามองว่าจากตรงนี้เราสามารถต่อยอดได้ ลองมาถามตัวเองบ้าง ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับขนมไทย ก็ได้คำตอบว่าขนมไทยนี่แหละที่ดึงดูดเรา เป็นทั้งรสชาติของความทรงจำ และยังมีขนมอีกหลายอย่างที่เคยกินตอนเด็กๆแล้วตอนนี้ไม่ค่อยมีใครทำ
ที่สำคัญเราสบายใจด้วยเพราะว่า ขนมไทยดีต่อสุขภาพ อันนี้เป็นเหตุผลเพราะในบรรดาหุ้นส่วนของร้านไม่ได้มีสุขภาพแข็งแรงกันทุกคน”
สุปรีดา ขยายความว่า “เวลาเราทำขนม เราต้องชิมทุกอย่าง ตัวขนมไทยเราใช้วัตถุดิบที่ดี ทำด้วยกรรมวิธีที่ดี ก็จะไม่เป็นพิษร้ายต่อสุขภาพของเราทุกคน”
ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
พลิกจุดด้อยให้เป็นจุดเด่น เป็นหนึ่งในไอเดียที่นำมาใช้ในการพรีเซ้นต์ขนมไทย เช่น ขนมใส่ไส้ ทำอย่างไรที่จะทำให้กินได้สะดวกและไม่เปื้อนมือ
“ขนมใส่ไส้เป็นขนมคู่บ้านคู่เมือง ทุกคนต้องเคยกิน เวลากินมือต้องเลอะจากการแกะใบตอง บวกกับรูปลักษณ์ที่ไม่ได้สวยงามมาก
ส่วนประกอบของขนมมีส่วนของไส้กับกะทิ เราเลยจับขนมมาใส่พิมพ์รูปดอกไม้ โดยชูไส้ที่เป็นมะพร้าวหน้ากระฉีกมาวางเป็นเกสร มีกะทิเป็นกลีบดอกไม้ ตัวกะทิเป็นสูตรลับของทางร้านเราทำเป็นกะทิหน้านวล เวลากินก็สะดวกขึ้น ไม่เลอะมือ” สุปรีดา อธิบาย
สำหรับขนมที่ดูละม้ายดังโงะขนมของญี่ปุ่นนั้น เป็นการนำเสนอ ขนมเหนียวดั้งเดิมของไทย นำมาเสียบไม้เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน แล้วราดด้วยน้ำตาลมะพร้าวคลุกเคล้าด้วยข้าวพอง เหนียวหนุบกรุบกรอบจนกลายเป็นหนึ่งในเมนูขึ้นชื่อของร้านเสน่ห์
เช่นเดียวกับ ขนมเสน่ห์จันทร์ ขนมที่คนโบราณนิยมใช้ในงานมงคล เช่น พิธีแต่งงาน แสดงถึงความเป็นที่รัก มีเสน่ห์ มีคนรักและเอ็นดู
“เสน่ห์จันทร์ เป็นขนมที่ทำมาจากไข่แดง แป้งสาลี และน้ำตาล แล้ววัตถุดิบอีกอย่างหนึ่ง คือผงลูกจันทน์ป่น ตัวขนมเราปั้นเป็นรูปลูกจันจริงๆแล้วนำไปอบควันเทียนให้หอม เพื่อให้เวลาเคี้ยวจะได้กลิ่นหอมของผงลูกจันทน์ผสานควันเทียนในทุกคำ”
จากขนมรูปงามนามไพเราะ ทางร้านยังเพิ่มเสน่ห์ด้วยการนำขนมเสน่ห์จันทร์ไปเคลือบด้วยดาร์ก ช็อกโกแลต เติมรสชาติและสัมผัสในการเคี้ยวเข้าไปอีก เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนรักช็อกโกแลตถูกใจ
“รสชาติและกลิ่น ต้องอยู่ในทุกคำเวลาที่ทานอันนี้คือเสน่ห์” สุปรีดา เน้นย้ำ
นอกจากนี้ยังมี ขนมพระพาย ขนมมงคลที่หารับประทานได้ยาก คนโบราณนิยมนำมาใช้ในพิธีแต่งงานเพื่อสื่อถึงความรักอันเหนียวแน่น
“เพราะว่าทำมาจากข้าวเหนียว” เจ้าของร้านเฉลย “ ดั้งเดิมเป็นแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นรูปกลมข้างในเป็นไส้ถั่วกวน ราดด้วยน้ำกะทิโรยด้วยงาคั่ว
เรามาคิดกิมมิคใหม่ๆ ลองเปลี่ยนไส้จากถั่วกวนมาเป็นเผือกกวนทำให้ได้รสสัมผัสที่นุ่มนวลขึ้น มีรสชาติหวานพอดีเมื่อเข้าคู่กับกะทิและได้ความหอมของเผือก”
เมื่อจัดวางเรียงในจานแล้วสวยงามน่ารับประทานมากทีเดียว
โควิดมาพร้อมกับความคิดใหม่
ธัญชิตา อัตถากรโกวิท กล่าวถึงการเดินทางมาของโควิด-19 ร้านเสน่ห์ได้รับผลกระทบเร็วกว่าใคร เพราะตั้งอยู่ในย่านนักท่องเที่ยว งานสอนทั้งในร้านและนอกสถานที่มีอันต้องหยุด ทำให้ต้องเปลี่ยนมาขายขนมในรูปแบบเดลิเวอรี่
“ส่วนงานสอนหรือเวิร์คช้อปเราก็ปรับใหม่ เพราะพฤติกรรมของคนเปลี่ยนไปแล้ว คนที่อยากเรียนจริงจังเพื่อไปเปิดร้านในอนาคตคงจะต้องเป็น Private Class เพราะเขาคงไม่สะดวกใจที่จะเรียนเป็นกลุ่ม เพราะว่าทุกคนต้องระมัดระวังมากขึ้น
แต่โควิดก็มีข้อดีทำให้คนหันมาทำอาหารอยู่ที่บ้านมากขึ้น ทำให้เราคิดทำเซ็ตรวมวัตถุดิบในการทำขนมแต่ละชนิด เช่น เซ็ตทำขนมถ้วย ทองเอก เสน่ห์จันทร์ โดยเราเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างให้เพื่อให้เขาสามารถกลับไปทำได้โดยมี QR Code ที่จะแนะนำทุกขั้นตอนของการทำได้ด้วยตัวเอง”
ธัญชิตา บอกว่าโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้การดำเนินธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนให้รองรับกับสถานการณ์ที่ไม่หยุดนิ่ง
ขนมไทยคือความภูมิใจ
“มีคนถามเยอะว่า ทำไมถึงมาทุ่มเทให้กับขนมไทย เราอยากบอกว่าเราแทบไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะขนมไทยมีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว เป็นรสชาติที่คนไทยคุ้นเคย ยิ่งรู้จักแล้วก็ยิ่งทึ่งกับภูมิปัญญาของคนโบราณที่สามารถนำแป้ง น้ำตาล กะทิ ทำขนมออกมาได้มากมายหลายชนิด
เราจะพยายามไปค้นหาขนมไทยโบราณ หรือ ขนมไทยดั้งเดิมคู่บ้านคู่เมือง นำมาปรับสูตรให้เข้ากับยุคกับสมัย แล้วนำมาพรีเซ้นต์ในรูปลักษณ์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย นำมาจับคู่กับเครื่องดื่มที่ทางร้านคิดค้นสูตรเอง โดยที่คิดมาแล้วว่าทานคู่กับขนมชนิดไหนแล้วเข้ากันได้ดี”
ไปจับคู่ชา กาแฟ และเครื่องดื่มสูตรพิเศษ เข้าคู่กับขนมไทยที่แต่งตัวได้ร่วมสมัยได้ที่ เสน่ห์ คาเฟ่&เวิร์คช้อป ร้านเปิดให้บริการนั่งรับประทานตามมาตรการความปลอดภัยทั้งเรื่องความสะอาดและการเว้นระยะห่าง
หมายเหตุ : ร้านเสน่ห์ คาเฟ่ & เวิร์คช้อป อังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00 - 19.00 น. Line id : @sane.workshop โทร.06 3541 4964