อีเวนท์ 'หยิ่น-วอร์' ผิด 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเมเจอร์-ผู้จัด
"หยิ่น-วอร์" ผิด "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเมเจอร์ และผู้จัดอีเวนท์
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.63 ที่สน.ปทุมวัน ตัวแทนศูนย์การค้าสยามพารากอน ,บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ,ผู้จัดกิจกรรม เดินทางมาพบ พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รองผกก.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน กรณีมีการจัดไลฟ์สดเปิดตัว “หยิ่น-วอร์” 2 นักแสดงวัยรุ่น ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีเนเพล็กซ์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีแฟนคลับมารอกันจำนวนมาก แต่ทางผู้จัดไม่ได้กำหนดระยะห่างตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ร่วมสอบปากคำภายในห้องประชุมชั้น 2
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า ผบช.น.ได้สั่งการให้ตนมาร่วมสอบปากคำกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ของกิจกรรมดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตราฐานการเว้นระยะทางสังคม ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเป็นการร่วมมือพร้อมทหารกับกรุงเทพมหานคร ในการตรวจสถานที่ผ่อนปรน และเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ส่วนการสั่งปิดพื้นที่ 3 วันนั้นเป็นมาตราการภายในขององค์กร ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าบริษัทเจ้าของพื้นที่และผู้เช่าพื้นจะผิดความผิดหรือไม่ ต้องรอการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนก่อน ยืนยันไม่ได้เข้าข้างผู้ประกอบการ
ต่อมา พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวภายหลังประชุม 3 ชั่วโมงว่า ตัวแทนของศูนย์การค้าสยามพารากอนกับตัวแทนบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ได้นำเอกสาร ภาพนิ่งและวีดีโอ เกี่ยวกับงานทั้งหมดมาเป็นหลักฐาน จากการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวพบว่ามีความผิดครบองค์ประกอบโดยเฉพาะผู้จัดนั้น ได้มีการโพสต์เชิญชวนแฟนคลับผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งต้องทราบอยู่แล้วว่า การเชิญดารามาออกงานจะต้องมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก จะต้องประเมินว่า พื้นที่มีกี่ตารางเมตร สามารถรองรับได้กี่คน
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำทางศูนย์การค้าสยามพารากอนได้ปฎิเสธว่าไม่ทราบว่ามีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ในส่วนของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้จัดกิจกรรมนั้น ไม่ได้แจ้งศูนย์การค้าสยามพารากอนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ , สำนักงานเขตปทุมวัน , สน.ปทุมวัน และ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค. ให้ทราบว่าจะมีจัดกิจกรรมขึ้นด้วย
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า พิจารณาแล้วเข้าข่ายความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 5) ข้อ 2 วรรค 2 ห้ามผู้ใดจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้การสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จอาจจะมีผู้กระทำผิดมากกว่า 1 คน
"ในส่วนของดาราชาย จะต้องตรวจสอบก่อนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากเกี่ยวข้องจะต้องเชิญมาสอบปากคำเช่นกัน นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงมาตราการตรวจคัดกรองเข้มงวด ทั้งการวัดอุณหภูมิร่างกาย และ การกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันที่จัดกิจกรรมด้วย" ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวยืนยันว่า ตำรวจไม่กังวลในเรื่องการดำเนินคดี แต่อยากฝากไปยังศูนย์การค้าและสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆว่า ขอให้คำนึงถึงข้อห้ามตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อนี้ด้วย