จิบบรรยากาศโบราณ ที่ “บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า”
ผู้ที่หลงใหลในสถาปัตยกรรมแบบเรือนไทยสไตล์ฝรั่ง เพื่อการศึกษา หรือแค่เยี่ยมชมความงาม หาสถาานที่พักผ่อนหย่อนใจนั่งจิบน้ำชา กาแฟ แกล้มขนมเค้ก หรือขนมไทย พูดคุยกับเพื่อนที่รู้ใจ 'บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า' น่าจะตอบโจทย์
ช่วงปลดล็อคผ่อนคลายในภาวะโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันหยุดยาวหลายท่านคิดถึงบรรยากาศสบายๆที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นริมทะเลรับลมเบาๆ หรือภูเขากับสายหมอกบางๆยามรุ่งอรุณ แต่ถ้าไม่ได้เดินทางไปที่ไหนกรุงเทพมหานครยังมีหลายสถานที่รอให้คุณไปเช็คอิน บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนทุกวัน พร้อมบริการเครื่องดื่มร้อน-เย็น ขนมไทย และขนมเค้ก
ลัดเลาะไปในซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ พบบ้านหลังงามสร้างในสมัยปลายรัชกาลที่ 4 ยุคนั้นเหล่าบรรดาขุนนางนิยมสร้างเรือนไทยสไตล์ฝรั่ง และบ้านหลังนี้ประกอบด้วยลายฉลุไม้สวยงามละเอียดอ่อนคล้ายกับขนมปังขิง หรือคุ๊กกี้ที่ชาวยุโรปนิยมรับประทานในเทศกาลวันคริสมาส (วันขึ้นปีใหม่) ชื่อของบ้านถูกตั้งขึ้นตามรูปแบบของสถาปัตยกรรม Ginger Bread House โดยทายาทรุ่นที่ 3
ประวัติคร่าวๆก็คือ ขุนประเสริฐทะเบียน ชื่อเล่นว่า ขัน ซื้อที่ดินมา 47 ตารางวาจาก หลวงบุรีพิทักษ์ (เจ้าของที่ดินคนแรก) ในปีพ.ศ. 2456 ด้วยว่าท่านเป็นวิศวกรจึงออกแบบและลงมือก่อสร้างเอง ไม่ว่าจะเป็นช่องลม รั้วประตู จะมีสัญลักษณ์ตัวอักษรชื่อเล่น(ขั-น)ของท่านปรากฎอยู่
บ้านหลังนี้ได้รับการบูรณะครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2533 ซ่อมแค่จุดชำรุด ทาสี แล้วยกพื้นขึ้นมาประมาณ 30 เมตรเพื่อระบายความชื้นและรักษาเนื้อไม้เก่าเอาไว้เท่านั้น เวลานี้เอง คุณหมอสิทธิ์ เตชะกัมพุช สามีของ ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช (ทันตแพทย์ประจำพระองค์ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นทายาทของท่านผู้หญิงเนื่องสนิท บุตรคนที่ 2 ของขุนประเสริฐทะเบียน)ผู้เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของบ้านเป็นผู้ตั้งชื่อบ้านหลังนี้ตามรูปแบบของสถาปัตยกรรมว่า บ้านขนมปังขิง
จากนั้น คุณธนัชพร คุณารัตนอังกูร (ทายาทรุ่นที่ 5)บุตรสาวของท่านผู้หญิงเพ็ชรา ได้บรูณะบ้านหลังนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิด ร้านกาแฟกึ่งพิพิธภัณฑ์ ตามเจตจำนงค์ของท่านผู้หญิงเพ็ชรา ที่ต้องการให้ 'บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า' กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และต้องการคงสภาพเดิมของบ้านเอาไว้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไม้ บานประตู หน้าต่าง บานพับ บานกระทุ้ง ผนังห้อง ช่องลม ไปจนถึงลายฉลุต่างๆเป็นไปตามเดิมตั้งแต่สมัยอดีตเมื่อ 107 ปีที่ผ่านมาโดยท่านผู้หญิงเพ็ชราต้องการอนุรักษ์บ้านหลังนี้ไว้ไม่ให้มีการทุบทำลาย หรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ท่านต้องการเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาสถาปัตยกรรม ‘เรือนขนมปังขิง’ วันนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นร้านกาแฟและขนมรอให้ผู้คนมาเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆ พร้อมกับย้อนวันวานไปในคราเดียวกัน
เทพพิทักษ์ ใจวรรณ พนักงานในร้านเล่าว่า บ้านขนมปังขิง แห่งนี้มีหลากหลายมุมเริ่มจากชั้นบนของบ้าน พอเดินขึ้นบันไดจะมีมุมโซฟานั่งสบายรับลมธรรมชาติ พนักงานรู้จักกันในนาม ลานสกา เสมือนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในบ้านสำหรับนั่งทำกิจกรรม อ่านหนังสือ เล่นหมากรุก ฯลฯ
เดินเข้าไปภายในมีห้องน้อยใหญ่ประมาณ 4 ห้องให้เลือกราวกับเป็นห้องส่วนตัวเลยทีเดียว เด็กเสิร์ฟในร้านตั้งชื่อของห้องเพื่อสร้างความจำเวลาขึ้นไปเสิร์ฟขนมและเครื่องดื่มเช่น ห้องหมู ในห้องนี้มีตุ๊กตาหมูเซรามิกตัวใหญ่สีทึมๆตั้งอยู่ที่มุมห้อง ถัดไปเป็น ห้องช้าง เพราะห้องนี้มีที่นั่งบนหลังช้างเป็นของใช้จริงสมัยก่อนตั้งอยู่ พร้อมกับกระจกโบราณ ถัดไปเป็น ห้องเหลือง เพราะห้องนี้ทาด้วยสีเหลืองไข่ไก่ จากนั้นเป็น ห้องมุก เพราะในห้องนี้มีโต๊ะที่แลเหมือนไข่มุก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีตู้ไม้แกะสลักลวดลายวิจิตรแบบที่เป็นของเก่าภายในมีเตารีดโบราณและข้าวของเครื่องใช้อื่นๆสมัยก่อน
ในส่วนของขนมนั้น มีเค้กขายดีเช่น มิดไนท์ มอคค่า (Midnight Moca) สูตรปรับปรุงใหม่ ราคาชิ้นละ 120 บาท
สตอเบอร์รี่ชีสเค้ก (Strawberry Cheese Cake)
เค้กมะพร้าวใบเตย (Coconut Pandan) เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม (Choco Fudge)
เค้กมะตูม (Bale Fruit Cake)
แมคคาเดเมียเค้ก (Macadamia Cake) ใครจะสั่งขนมไทยเซ็ทหรูมานั่งชิมสวยๆ สั่งเช็ทที่ชื่อ บัวทอง เสิร์ฟขนมไทย 8 คำ เช่น วุ้น, ตะโก้,ลืมกลืน,ทองหยิบ,ขนมชั้น,ขนมต้ม มีขนมหมุนเวียนเปลี่ยนตามฤดูกาล พร้อมทั้งให้เลือกเครื่องดื่มร้อน-เย็น เป็นชาร้อน กาแฟร้อน สมูธตี้ ไอศกรีม ราคาเซ็ทนี้ 599 บาท นอกจากนั้นยังมี ชุดข้าวเหนียวมะม่วง (ราคา 599 บาท) ขนมชุดท่านขุน (ราคา 888 บาท) ขนมชุดคุณหลวง (ราคา 999 บาท)
ขนมหวานชุด บัวทอง ขนมไทย 8 คำ พร้อมทั้งเครื่องดื่ม ฯลฯ
หรือจะสั่ง ไอศกรีมชาไทย-เฉาก๊วย, ไอศกรีมกะทิ-ลอดช่อง, ไอศกรีมใบเตย-บัวลอย (ราคา 120 บาท) หรือ ไอศกรีมทุเรียน-บัวลอย (139 บาท)เสิร์ฟมาในภาชนะแก้วสวยงาม เมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของร้านนี้ก็คือ น้ำมะม่วงปั่น (ราคา149บาท) และ ชานมพ่นไฟ ก่อนเสิร์ฟบริกรจะเบิร์นน้ำตาลจนหอมกรุ่น ในแก้วยังมีไข่มุกทำสดใหม่ทุกวันรับรองทานแล้วจะติดใจ
น้ำมะม่วงปั่น เครื่องดื่มที่ไม่ควรพลาดหากมาเยือนบ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า
แวะมาดื่มด่ำกับบรรยากาศเรือนไทยสไตล์ฝรั่ง สถาปัตยกรรมแบบ Ginger Bread House ที่นับวันจะหาชมยาก ได้ที่ ‘บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า’ เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้สวยทุกองศา ชิลทุกมุม เปิดบริการทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 11.00-20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 09.00-20.00 น. วันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดให้บริการตามปกติ คือเวลา 09.00-20.00 น. หรือสนใจสอบถามได้ที่เบอร์ โทร. 097-229-7021