‘บุญรอดบริวเวอรี่’ ชวนเที่ยวงาน ‘วิถีชีวิตใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน’

ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม ภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมแสดงความจงรักภักดีเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงาน ชีวิตใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดย ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารจาก “บุญรอดบริวเวอรี่” บอกว่า “การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ตั้งใจที่จะเป็นส่วนร่วมในการช่วยเหลือและดูแลสังคม ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน เช่น โครงการสิงห์อาสาของบริษัท ซึ่งได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบรอยยิ้มและเติมความสุขให้กับคนไทย

    ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ (ที่สองจากขวา)

ล่าสุดคือโครงการสิงห์อาสาอบรมสร้างอาชีพ ซึ่งเป็นการแนะนำความรู้และเพิ่มทักษะในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ทั้งด้านงานช่าง งานการเกษตร และการทำอาหาร สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก โดยได้รับเกียรติจากเชฟชื่อดังมาร่วมวางหลักสูตร เราจึงนำโครงการนี้บางส่วนมาสู่กิจกรรม บุญรอดบริวเวอรี่ ร่วมใจสร้างอาชีพ เพื่อคนไทยใต้ร่มพระบารมี โดยเชิญเชฟชื่อดังมาสาธิตทำอาหารและมอบสูตรเพื่อให้ประชาชนนำไปต่อยอด หรือนำแนวคิดไปปรุงอาหารของตัวเอง”

กิจกรรมในวันงาน เชฟชุมพล แจ้งไพร สาธิตทำอาหารจากผลผลิตการเกษตรจากโครงการพระราชดำริ มาปรุงเป็นเมนู ผัดคะน้าปลากุเลาเค็มตากใบ และ น้ำพริกเห็ดทรงเครื่องสมุนไพร ต้านภัยโควิด-19 และเครื่องดื่มสูตรต่าง ๆ จากชาไทยสายพันธุ์อัสสัมจากจังหวัดน่าน เป็นชาไทยที่บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ โดยสิงห์ปาร์ครับซื้อและนำไปผ่านกระบวนการผลิตจนได้ใบชาที่สะอาด มีคุณภาพ มีกลิ่นหอม และช่วยสร้างความสมดุลของการอนุรักษ์ผืนป่าและการดำรงชีพตามวิถีเกษตรอย่างยั่งยืน ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมงาน รับสูตรอาหารพร้อมแนะนำเทคนิคการปรุงอาหารด้วยซอสต๊อด รวมทั้งสอนวิธีการชงชาไทยสายพันธุ์อัสสัม และความรู้ด้านการทำอาหารต่าง ๆ เพื่อนำไปต่อยอดหรือพัฒนาเป็นอาชีพของตัวเอง

คะน้าผัดปลากุเลาเค็มตากใบ (สูตรจากเชฟชุมพล แจ้งไพร  ราคาขายแนะนำ 99 บาท)

ส่วนผสม : คะน้าลวก 150 กรัม  กระเทียมไทยกลีบ 5 กลีบ  พริกจินดาแดง 2 เม็ด  พริกไทยป่น 1 กรัม  น้ำมันพืช 30 กรัม น้ำมันหอย 15 กรัม  ซีอิ๊วขาว 5 กรัม  น้ำตาล 2 กรัม ปลาเค็มหั่นเต๋าขนาดครึ่ง ซม. 20 กรัม  น้ำต้มสุกหรอน้ำซุป 30-50 กรัม  สารสกัดหอมแดง  สารสกัดพริก

วิธีทำ : 1  ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำปลาเค็มลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักปลาเค็มที่ทอดไว้ออกมาครึ่งหนึ่ง พักไว้

2 ยีปลาเค็มที่เหลือไว้ในกระทะให้ละเอียด แล้วใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม จากนั้นใส่คะน้าลวกและพริกจินดาลงผัด

3  ใส่น้ำสต็อก ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว พริกไทย และน้ำตาลทราย

4 ใส่ปลาเค็มที่แยกไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน

5  จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

น้ำพริกเห็ดทรงเครื่องสมุนไพร ต้านภัยโควิด (สูตรจากเชฟชุมพล แจ้งไพร ราคาขายแนะนำ 110 บาท)

ส่วนผสม : เห็ดออรินจิ 30 กรัม  เห็ดนางรม 30 กรัม  เห็ดหอม 30 กรัม พริกหนุ่ม (ย่างไฟลอกเปลือก) 3 เม็ด พริกจินดาแดง 5 เม็ด หอมแดง 5 หัว  กระเทียมไทย 10 กลีบ น้ำปลา 10-15 กรัม  น้ำมะนาว 20 กรัม  น้ำตาลมะพร้าว 5 กรัม กะปิ 10 กรัม  น้ำต้มสุกหรือน้ำซุป 20 กรัม สารสกัดหอมแดง สารสกัดมะขามป้อม หมูจินหัวแดดเดียว 50 กรัม ผักสดรวมจากโครงการหลวง 120 กรัม

วฺิธีทำ : 1  นำเห็ดออรินจิ เห็ดนางรม เห็ดหอมและพริกหนุ่ม ย่างไฟจนสุกหอม พักไว้ (สับเห็ดพอหยาบ)

2  กะปิห่อใบตองแล้วนำไปปิ้งให้ส่งกลิ่นหอม พักไว้

3  นำหอมแดง พริกจินดาแดง กระเทียมไทย คั่วจนหอมแดงสุกและที่เหลือส่งกลิ่นหอม

4  นำเครื่องที่คั่วไปโขลกพอหยาบ ตามด้วยเห็ดกับพริกหนุ่มที่ย่างและกะปิที่โขลกให้เข้ากัน

5  ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลมะพร้าว (หากน้ำพริกข้นไปสามารถเติมน้ำสุกหรือน้ำซุปได้)

6  จัดเสิร์ฟคู่กับหมูจินหัวแดดเดียว กับผักสดโครงการหลวง 

งานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้ชื่อ “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน” จัดขึ้นเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จึงร่วมกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้น แบ่งเป็นกิจกรรม 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการภายในชุมชน ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการฝึกอาชีพ/สาธิต ด้านสุขภาวะ/อนามัย และด้านอื่น ๆ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเที่ยวชมงานได้ วันนี้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ณ บริเวณท้องสนามหลวง

 

หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 2563 ภายใต้ชื่อกิจกรรมจิตอาสา"ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน” สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทําให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจเเละสังคม ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อน หน่วยงานภาครัฐจึงได้ร่วมกับเอกชน จัดกิจกรรมนี้ขึ้น โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการภายในชุมชน ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการฝึกอาชีพ/สาธิต ด้านสุขภาวะ/อนามัย และด้านอื่น ๆ ภายในบูธต่าง ๆ จัดสาธิตการทำอาหาร ให้ความรู้ด้านเทคนิคการปรุงอาหาร การปลูกพืชอินทรีย์ การทำการเกษตรตามรอยพระราชดำริ สอนการทำหน้ากากอนามัย นิทรรศการตามรอยพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ ไปชมได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ก.ค.2563 บริเวณท้องสนามหลวง