รู้ทันเทคโนโลยี 'ปลอมเสียง ปลอมแชท ปลอมคลิป' ที่เปลี่ยนเรื่องปลอมให้เหมือนจริงสุดๆ!
ทำความรู้จักกับ 'Deepfake' 'Social Maker' และ 'Fake voice' เทคโนโลยี 'ปลอมเสียง ปลอมแชท ปลอมคลิป' เปลี่ยนเรื่องปลอมๆ ให้สมจริง กับคมอีกด้านที่มาพร้อมกับความสนุก
สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่ของจริงเสมอไป...การพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ เลียนแบบสิ่งที่มีอยู่จริง หรือเข้าใกล้ "ความจริง" มากขึ้น นับเป็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ที่ช่วยผลักดันให้สะดวกสบายมากขึ้น และพัฒนาสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งในมิติทางสังคม เศรษฐกิจ ธุรกิจ ฯลฯ
ในทางกลับกัน การนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิดหรือความไม่รู้ จะถูกใช้เป็นเครื่องมือที่ทำให้ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีเหล่านี้ ส่งผลกระทบในทางลบได้ในวงกว้างด้วยเช่นกัน
การปลอมแปลงข้อมูล การตัดต่อภาพ ตัดต่อข้อความ ตกแต่งเสียงพูด หรือแม้แต่การตัดต่อวิดีโอคลิปให้เสมือนจริงราวกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายๆ ในยุคดิจิทัล และบางครั้งมันยังสามารถสร้างขึ้นจะสมาร์ทโฟนธรรมดาๆ เพียงชั่วนิ้วสัมผัส
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พาไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยีในการปลอมแปลงที่ใกล้ตัวในปัจจุบัน ที่ควรรู้ เพื่อให้เข้าใจ รู้เท่าทัน และป้องกันการถูกใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ หรือพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และทรัพย์สินของผู้อื่น
- แชทปลอม โพสต์ปลอม
นับตั้งแต่คนไทยใช่แอพพลิเคชั่นแชทกันจนเป็นปกติ แชทปลอม โพสต์ปลอม หลักฐานการโอนเงินปลอมๆ ก็เกิดขึ้นเกิดสารพัดรูปแบบ และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนฟังดูเหมือนว่า "แชทปลอม โพสต์ปลอม" ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจมากนัก แต่ยิ่งนานวันพฤติกรรมการสร้างแชทปลอม โพสต์ปลอมขึ้นมาหลอกลวงคนอื่น หรือเพื่อความตลกขบขันที่เกินขอบเขตก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลเสียอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ตัวอย่างเคส ของ "วี BNK48" ถูกเพจหนึ่งปล่อยแชท ที่อ้างว่าเป็นแชทหลุดระหว่าง วี BNK48 กับชายปริศนาในบทสนทนาที่มีลักษณะกำลังสานสัมพันธ์กันอย่างลับๆ ซึ่งขัดกับกฎของการเป็นไอดอลสาว จนเจ้าตัวต้องออกมาโพสต์ชี้แจงว่าแชทดังกล่าวไม่เป็นความจริง และขอให้ผู้ที่ทำแชทปลอมและเผยแพร่หยุดพฤติกรรมเหล่านี้
ในฟากของแฟนคลับ ได้ตีแผ่ความจริงอีกด้านของแชทกำมะลอเหล่านี้ว่าเป็นฝีมือของ "Social Maker" แอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือระบบ iOS ที่ทำขึ้นเพื่อสร้างโพสต์ปลอม แชทปลอม โดยเฉพาะ
"Social Maker" มีคุณสมบัติสร้างโพสต์ปลอม สร้างข้อความปลอม สร้างความคิดเห็นปลอม และสร้างโปรไฟล์ปลอม ใน 3 โซเชียลมีเดีย คือ Facebook, Instagram และ Twitter รวมถึง 3 โปรแกรมแชท Messenger, Instagram Direct Message และ Twitter Direct Message
ผู้ใช้งาน สามารถสร้างได้ทั้งโพสต์ ทั้งข้อความหรือรูปภาพ อีกทั้งสามารถระบุ วันที่ ข้อความ คำบรรยาย จำนวนไลค์ และยอดเข้าชมต่างๆ ได้เสมือนเป็นของจริง และสามารถสร้างข้อความได้ทั้งแชทเดี่ยว แชทกลุ่ม
ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสร้างประวัติโปรไฟล์ผู้ใช้ตามต้องการ สร้างการติดตามและผู้ติดตาม รวมถึงสามารถปรับแต่งรายละเอียด เช่น ชื่อผู้ใช้ เว็บไซต์ วันเดือนปีเกิด ที่น่ากลัวกว่านั้น คือตรารับรอง รูปโล่สีเขียว ที่บ่งบอกถึงการเป็นบัญชีทางการได้ด้วย
นั่นหมายความว่า ทุกคนที่มีแอพพลิเคชั่นจะสามารถสร้างแชทที่คุยกับใครขึ้นมาก็ได้ สร้างโพสต์อะไรก็ได้ที่ไม่มีอยู่จริงอย่างไรก็ได้ เพียงมีสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นดังกล่าว กับเวลาแค่ไม่กี่นาที
- ผลกระทบของ Social Maker
สิ่งที่น่ากังวลคือ ความสมจริงของเรื่องปลอมๆ เหล่านี้ ถูกใช้เกินวัตถุประสงค์ของผู้สร้างแอพฯ ที่ต้องการใช้เพื่อความสนุก และการเข้าถึงอุปกรณ์ที่สามารถสร้างข้อมูลเท็จได้ง่าย และสะดวกสบายเช่นนี้ อาจกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สามารถทำเรื่องที่หลายคนไม่คาดคิดได้ง่ายขึ้น และใกล้ตัวของเรามากขึ้นเช่นกัน
เพราะฉะนั้น หากคุณคือหนึ่งในคนที่อยากใช้ Social Maker เพื่อความสนุกของตัวเอง อย่าลืมระลึกอยู่เสมอว่าต้องอยู่ในขอบเขตที่ไม่กระทบต่อผู้อื่นอย่างเด็ดขาด
ในทางเดียวกันสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ เมื่อได้รับภาพแคปเจอร์ประวัติการแชทใดๆ หรือเห็นโพสต์ใดๆ ก็ตาม สันนิษฐานเล่นๆ ไว้ก่อนว่าสิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ได้เป็นเรื่องจริงก็ได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลทุกครั้งก่อนที่จะเชื่อ หรือแชร์ต่อ เพื่อให้มั่นใจว่า สิ่งที่คุณเห็นเป็นเรื่องจริง
- Deepfake
การปลอมแชทดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี "Deepfake" (ดีปเฟค) ที่เคยเป็นข่าวฮือฮามาก่อนหน้านี้ Deepfake เป็นการรวมกันระหว่าง 2 คำ คือ "Deep Learning" ซึ่งหมายถึง ชุดตรรกะของระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ทำการเรียนรู้จากการทดลองที่สามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนคำว่า "Fake" ความหมายตรงตัว คือคำว่า "ปลอม"
Deepfake ณ ที่นี้ จึงเริ่มจาก ปลายปี 2017 ผู้ใช้รายหนึ่งในเว็บไซต์ Reddit ใช้ชื่อว่า "Deepfakes" ใช้ภาพของดาราดังระดับโลกมากมาย "สลับหน้า" (Face swap) กับนางแบบหนังผู้ใหญ่ และเริ่มมีการสลับหน้าคนดังเป็นคลิปลามกในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นบ่อยๆ โดยมี "ปัญญาประดิษฐ์" อยู่เบื้องหลังการตัดต่อที่ค่อนข้างแนบเนียน
ในช่วงแรก Deepfake อาจมีข้อบกพร่องต่างๆ อาทิ ภาพที่ได้ออกมามีความคมชัดต่ำ ท่าทางลักษณะของตัวบุคคลที่ถูกสร้างออกมาไม่เหมือนจริง เนื่องจากในอดีตมีการบันทึกภาพและเสียงที่ไม่คมชัดเท่าปัจจุบัน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากอนาคต AI จะสามารถเรียนรู้จนสามารถสร้างภาพความคมชัดสูง และท่าทางที่เสมือนจริงมากขึ้น และคลิป Deepfake จะย่ิงถูกตรวจสอบได้ยากมากขึ้นด้วยเพราะความเหมือนจริงของมัน
แม้การทำ Deepfake จะไม่ได้ทำขึ้นง่ายๆ เพียงชั่วนิ้วสัมผัส เหมือนกับแชทปลอมและโพสต์ปลอม แต่ผลลัพธ์ของมันมีอิทธิพลมาก และหากมีการทำขึ้นบนเจตนาที่ต้องการบิดเบือน ใส่ข้อมูลผิดๆ เพื่อให้ผู้ชมผู้ฟังปักใจเชื่อ คลิปเหล่านี้จะเป็นภัยทันที
"Brick Info" เคยวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก Deepfake ได้ เช่น "สามารถส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งได้" สะท้อนจากผลลัพธ์ของ Deepfake ต่างๆ ที่ออกมาในโฉมหน้าของ โดนัลด์ ทรัมป์ กับคำพูดที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง
- ผลกระทบของ Deepfake
"การรับรู้" และ "ความเข้าใจผิด" คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Deepfake ทำงานสำเร็จ ยิ่งมีผู้รับชมคลิปปลอมเหล่านี้มากเท่าไร มีความเข้าใจผิดไปตามข้อมูลที่เห็น หรือปักใจเชื่อกับข้อมูลที่จงใจทำให้ผิดเพี้ยนมากเท่าไร ยิ่งส่งผลกระทบสังคม และตัวบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปมากเท่านั้น แม้การมองเพียงผิวเผินจะไม่สามารถช่วยพิสูจน์ได้ว่า คลิปที่เรากำลังดูอยู่คือคลิปจริง หรือฝีมือของ Deepfake แต่ก่อนที่จะเชื่อบางสิ่งที่คุณเห็น ให้สันนิษฐานก่อนว่า "สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่ของจริง!"
- Voice changer / Jokesphone
การแปลงเสียง เป็นเทคโนโลยีสุดเบสิคที่ใช้มาอย่างยาวนาน การดัดแปลงเสียงพูดมีประโยชน์ในการใช้คุ้มครองพยานในคดีต่างๆ เพื่อไม่ให้สามารถระบุตัวตนของผู้ให้ข้อมูล แต่อีกมุมหนึ่งการแปลงเสียงพูด ถูกพัฒนาไปถึงการปลอมเสียงเพื่อเลียนแบบบุคคลอื่น หรือเพื่อลวงให้เข้าใจผิด ระหว่างที่โทรศัพท์
ปัจจุบันสามารถปลอมเสียงได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Voice changer, Voice changer with effect, Voice changer calling แอพพลิเคชั่นที่ช่วยเปลี่ยนน้ำเสียง เช่น ชายเป็นหญิง หญิงเป็นชาย ผู้ใหญ่เป็นเด็ก ฯลฯ ที่เปิดให้บริการฟรี และบริการแบบเสียเงิน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีแอพพลิเคชั่น "โทรแกล้ง" ที่มีเป้าหมายโทรแกล้งเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัว โดยมีฟีเจอร์เรื่องตลกให้เลือกตามใจชอบ ก่อนใส่เบอร์โทรศัพท์เพื่อโทรหาปลายสาย พร้อมบันทึกเสียงไว้แชร์ลงในโซเชียลมีเดีย ขยี้ความขบขัน? ในโลกออนไลน์
- ผลกระทบของ Voice changer / Jokesphone
การเลียนเสียง แปลงเสียง เป็นอีกมุกที่ผู้ไม่ประสงค์ดีใช้เป็นเครื่องมือในการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์บางอย่าง หลอกลวงให้โอนเงิน ฯลฯ หรือแม้แต่ใช้เพื่อความขบขันที่ปลายสายอาจไม่ได้สนุกด้วย อาจจะกระทบความสัมพันธ์ได้แบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้
แม้จะปฏิเสธได้ว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้เราสะดวกสบาย ช่วยสนับสนุนให้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้นกว่าอดีต แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคดิจิทัล คือการเรียนรู้และปรับตัวไปตามเทคโนโลยี ที่นอกจากจะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีที่จ้องใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดอีกด้วย
ที่มา: Apple Store Brick Info