'บัตรกดเงินสด' ตัวช่วยทางการเงิน ยามฉุกเฉิน

ปัจจุบันนี้ แต่ละสถาบันการเงินล้วนมีผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินสำหรับเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าหลากหลายประเภท แต่สำหรับผลิตภัณฑ์การเงินที่ได้รับความนิยมในลำดับต้นๆ หนีไม่พ้น  “บัตรเครดิต” และ “บัตรกดเงินสด” ซึ่งมีจุดเด่นคือการเสริมสภาพคล่องการเงินส่วนบุคคลและเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจขนาดเล็ก

ในที่นี้เราขอโฟกัสไปที่ “บัตรกดเงินสด” ซึ่งเป็นสินเชื่อทางการเงินที่ให้แก่บุคคลธรรมดา อย่างเราๆ โดย บัตรกดเงินสด นี้คือสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่ไม่ต้องมีหลักค้ำประกันประเภทหนึ่ง เพื่อขอวงเงินจากธนาคารในรูปแบบบัตรกดเงินสด ไว้เป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน สำหรับใช้ยามจำเป็น ไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาล, รถเสีย, จ่ายค่าเทอม หรือเสริมสภาพคล่องเงินสดอันมีเหตุมาจากวิกฤติทางธุรกิจต่างๆ ที่ไม่คาดฝัน

บัตรกดเงินสดเหมาะกับใคร

ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบถึงรายได้ของคุณในช่วงเวลาหนึ่ง หรือการเปิดเทอมของลูกทำให้คุณต้องใช้เงินก้อนในจำนวนที่ไม่มากนัก (แต่เงินเดือนกลับยังไม่ออก) นั่นแหละคือจุดประสงค์ของการใช้ “บัตรกดเงินสด”

การมีบัตรกดเงินสด นั่นหมายถึงการที่เรามีเงินสดพร้อมใช้ โดยวงเงินการอนุมัติอยู่ที่ประมาณ 3-5 เท่าของรายได้ ดังนั้นบัตรกดเงินสด จึงเหมาะกับ

• บุคคลธรรมดา พนักงานออฟฟิศ ฟรีแลนซ์ ที่ต้องการหมุนเงินในจำนวนไม่มากนัก
• ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งต้องการสำรองเงินก้อนยามฉุกเฉิน
• ต้องการเงินก้อนในกรณีเร่งด่วน ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน เนื่องจากธนาคารจะอนุมัติเร็ว
• ต้องการเงินก้อนใช้อเนกประสงค์ หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ

สำหรับวิธีการใช้บัตรกดเงินสดนั้น จะต้องกดเงินสดออกจากตู้ ATM และการนำไปรูดซื้อสินค้าบางอย่างเท่านั้น ไม่สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้เหมือนกับบัตรเครดิต

ขณะที่อัตราและการคำนวณดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดนั้น ก็จะแตกต่างจากบัตรเครดิตด้วยซึ่งจะคิดแบบลดต้นลดดอกตามจำนวนวันที่ใช้จริงหรือเรียกง่าย ๆ ก็คือคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันนั่นเอง บัตรกดเงินสดสามารถใช้เป็นวงเงินสดหมุนเวียนได้ตลอด เมื่อชำระยอดเงินคืนเข้าไปในบัญชีบัตรกดเงินสดก็จะได้วงเงินคืนกลับมา

แต่หากเราไม่ได้ใช้ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียดอกเบี้ยเพราะการคิดดอกเบี้ยจะคิดตามจริงเท่าที่กดออกมา ดังนั้นหากเรามี “บัตรกดเงินสด” ติดตัวไว้ แต่ไม่ใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด

• ฉลาดใช้ ได้สภาพคล่อง

อย่างที่รู้กันว่าบัตรกดเงินสดนั้น จุดเด่นคือสามารถเบิกถอนเงินสดได้ทันทีตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ (เน้นได้เงินสดมาถือ) โดยไม่ต้องมีเงินในบัญชี หรือทรัพย์สินใดๆ เพื่อเป็นหลักประกัน (บัตร ATM ต้องมีเงินในบัญชี)  และส่วนใหญ่บัตรกดเงินสด สามารถถอนเงินออกมาในวงเงินที่มากกว่า และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดเหมือนบัตรเครดิต

ทั้งนี้ส่วนใหญ่ธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ทำรายการ จนถึงวันที่ทำการชำระยอดเงิน โดยดอกเบี้ยจะคิดแบบรายวัน  โดยมีวิธีการคำนวณเบื้องต้นคือ จำนวนเงินที่ใช้จริง X อัตราดอกเบี้ย X จำนวนวันที่ใช้จริง หารด้วย 365

ดังนั้นบัตรกดเงินสดจึงเป็นตัวช่วยที่ดีในยามที่ต้องการใช้เงินสดแบบฉุกเฉินและใช้เป็นระยะสั้น ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ซ่อมบ้าน, ซ่อมรถ, จ่ายค่าเทอม ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น และต้องรีบชำระคืนโดยเร็วที่สุดเพื่อลดการเสียดอกเบี้ยให้น้อยที่สุด แต่ก็อย่างที่บอกหากเรามีบัตรกดเงินสดไว้แต่ยังไม่ได้ใช้ ก็ไม่ต้องเสียค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น 

อย่าลืมว่า ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกมามีเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้โดยไม่ต้องพกเงินสด สร้างแรงจูงใจให้เกิดพฤติกรรมการใช้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในลักษณะ Win-Win ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ โดยที่ฝั่งสถาบันการเงินจะได้ดอกเบี้ยเมื่อมาการใช้จ่าย ขณะที่ฝั่งผู้บริโภคก็สามารถอุ่นใจได้เมื่อต้องการใช้เงินสด เสริมสภาพคล่อง

หากใช้อย่างชาญฉลาด บัตรกดเงินสดจึงเป็นตัวช่วยยามฉุกเฉินที่ดีในทุกสถานการณ์จำเป็น

สนใจสมัครบัตรกดเงินสด คลิก